รู้จัก Creative Artists Agency ซูเปอร์เอเจนต์ดารา นักกีฬาและประธานาธิบดี /โดย ลงทุนแมน
ส่วนใหญ่แล้วไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาหรือนักแสดงชื่อดังระดับโลก
เวลาติดต่อประสานงานหรือเจรจาต่อรองผลประโยชน์
พวกเขามักจะมีตัวแทนหรือนายหน้าคอยบริหารจัดการให้
นั่นจึงเป็นที่มาของบริษัท Creative Artists Agency
ธุรกิจที่มีหน้าที่คอยดูแลผลประโยชน์ให้กับลูกค้าคนดังทั้งหลายในวงการ
ซึ่งก็มีตั้งแต่ Tom Cruise, Lady Gaga, David Beckham, Cristiano Ronaldo ไปจนถึง Joe Biden
แล้วทำไมบริษัทแห่งนี้ถึงได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากคนดังจากแทบทุกวงการ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Creative Artists Agency หรือ CAA ก่อตั้งขึ้นในปี 1975 โดย 5 นายหน้าหัวกะทิ
จากบริษัทชื่อดังและมากอิทธิพลในวงการ Hollywood อย่าง William Morris Agency
โดยผู้ก่อตั้งทั้ง 5 คน ก็คือ Michael S. Rosenfeld, Michael Ovitz, Ronald Meyer, William Haber และ Rowland Perkins รู้สึกไม่พอใจกับค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรมและการเติบโตในหน้าที่การงานที่ล่าช้า ส่งผลให้พวกเขาวางแผนก่อตั้งบริษัทตัวแทนขึ้นมาเอง
แม้ว่าจะมีเงินทุนไม่เพียงพอ แต่พวกเขาก็ได้กู้ยืมจากธนาคารราว 2 ล้านบาท ซึ่งก็ถูกกระจายไปเช่าสำนักงานและรถยนต์ 2 คัน
และงานแรกภายใต้บริษัทที่ทั้ง 5 นายหน้าก่อตั้งขึ้น ก็คือ การเป็นนายหน้าให้กับรายการเกมโชว์และซีรีส์ทางโทรทัศน์
ด้วยความที่ CAA ยังคงเป็นบริษัทขนาดเล็กและมีระบบการทำงานที่เน้นทำงานเป็นทีม
พนักงานจึงไม่มีป้ายชื่อ ไม่มีตำแหน่ง และไม่มีการแบ่งแยกว่าใครดูแลลูกค้าคนไหน
ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้รับการดูแลอย่างเต็มที่จากทุกคนในบริษัท
โดยในช่วงแรก พวกเขารุกตลาดอย่างหนัก ทั้งการตัดราคาค่าธรรมเนียม
การเข้าแย่งลูกค้าจากคู่แข่งและการขยายบริการของบริษัท ให้ครอบคลุมทุกส่วนงานมากขึ้น
ส่งผลให้ CAA สามารถขึ้นมาเป็นบริษัทตัวแทนอันดับ 3 ของ Hollywood ด้วยระยะเวลาเพียง 4 ปี เท่านั้น
ปี 1988 CAA กลายมาเป็นบริษัทที่ได้รับความน่าเชื่อถือและสามารถทำรายได้กว่า 6,000 ล้านบาท
โดยบริษัทเป็นนายหน้าให้กับ นักแสดง คนเขียนบท และผู้กำกับกว่า 500 ชีวิต รวมถึงยังมีส่วนร่วมในการสร้างสื่อบันเทิงต่าง ๆ ทั้งทีวี ซีรีส์ เกมโชว์ และภาพยนตร์ กว่า 100 รายการต่อปี
และด้วยวิธีการทำงานของพวกเขาที่รักษาผลประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ทำให้เหล่าบรรดานายทุนและสตูดิโอใน Hollywood ต่างก็ไม่พอใจ CAA
เพราะมองว่าบริษัทแห่งนี้ดันค่าตัวของดารานักแสดงสูงเกินความเป็นจริงทำให้ต้นทุนในการสร้างสูงขึ้น
จนถึงขนาดที่มีการกล่าวหาว่า CAA กำลังทำลายวงการ Hollywood
อย่างไรก็ตาม การยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ก็ได้กลายเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ CAA เติบโตเป็นบริษัทที่ใหญ่ขึ้น
โดยในปี 1990 CAA ก็ได้เริ่มรุกเข้าสู่การเป็นนายหน้าดีลทางธุรกิจที่ใหญ่
เช่น ดีล Sony ที่เข้าซื้อ Columbia Pictures ด้วยมูลค่าสัญญากว่า 210,000 ล้านบาท
หรือการให้คำแนะนำบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น Matsushita Electric Industrial ในการเข้าซื้อ MCA ซึ่งเป็นเจ้าของ Universal Studios ด้วยสัญญามูลค่ากว่า 410,000 ล้านบาท
นอกจากทางด้านสื่อบันเทิงแล้ว CAA ยังได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์อีกหลายแบรนด์ดัง
ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับ Coca-Cola ในการเป็นที่ปรึกษาทางด้านสื่อสำหรับการทำการตลาดทั่วโลก
หรือการร่วมมือกับ Nike ในการผลิตสื่อบันเทิงระดับโลกทางด้านกีฬาเพื่อเผยแพร่ผ่านทีวีดาวเทียม
แต่ความรุ่งเรืองของ CAA ก็ต้องหยุดพักตัว เพราะในปี 1995 อดีตสมาชิกที่ร่วมก่อตั้งบริษัททั้ง 5 คน
ต่างแยกย้ายไปยังเส้นทางใหม่ของตนเอง โดยเฉพาะ Michael Ovitz ซึ่งเป็นแกนนำหลักของทีม
ได้ย้ายไปเป็นผู้บริหารระดับสูงของ The Walt Disney Company ที่ดูแลทั้งส่วนของภาพยนตร์ สวนสนุก และธุรกิจค้าปลีก
ทำให้ในช่วงเวลานั้น เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ CAA กลายเป็นบริษัทที่อ่อนแอและเปิดโอกาสให้บริษัทตัวแทนอื่น ๆ ในวงการได้แจ้งเกิดและแย่งส่วนแบ่งในตลาดไปได้
ในขณะเดียวกัน CAA ยังมีคดีความฟ้องร้องกับบริษัทคู่แข่งมากมาย
แต่บริษัทก็ต่อสู้และยังคงเอาตัวรอดต่อไปได้
หลังจากผ่านมรสุมมาได้แล้ว
CAA จึงมองหาอุตสาหกรรมใหม่และก็ได้ก้าวเข้าสู่วงการกีฬา
ซึ่งจุดนี้เองก็ได้ทำให้บริษัทฟื้นคืนชีพและกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหนึ่ง
โดยผลงานในช่วงเริ่มแรกของพวกเขานั้น ถือว่าใหญ่มากสำหรับเอเจนซีรายใหม่ของวงการกีฬา
ยกตัวอย่างเช่น การให้คำปรึกษากับคณะกรรมการโอลิมปิกสากลเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ทางด้านสื่อสำหรับการแข่งขันในปี 2012
การรับผิดชอบงานขายสปอนเซอร์ให้กับทีมเบสบอล New York Yankees ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท
การดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจให้กับนักกีฬาระดับโลกอย่าง Cristiano Ronaldo
และดีลที่สร้างชื่อเสียงระดับโลกให้ CAA คือการเป็นตัวแทนที่ดูแลลิขสิทธิ์การออกอากาศฟุตบอลยูฟ่า
ที่ไม่ว่าจะเป็นประเทศในอเมริกาใต้ เอเชีย หรืออเมริกา ก็ต้องจ่ายเงินให้กับ CAA เพื่อสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขัน
และดีลนี้ ก็ยังเรียกได้ว่าเป็นใบเบิกทางที่ทำให้ CAA ได้รับงานจากรายการแข่งขันฟุตบอลใหญ่อย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น European Championship และ FIFA World Cup
ปัจจุบัน CAA มีลูกค้าหลากหลายวงการ ทั้งดนตรี สื่อภาพยนตร์ กีฬา ภาคธุรกิจ และยังมีลูกค้าคนดังมากมายจากทุกวงการ เช่น Tom Cruise, Lady Gaga, David Beckham หรือแม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่าง Joe Biden เองก็เคยใช้บริการ CAA ในปี 2017
โดย Forbes ได้จัดอันดับให้ CAA เป็นบริษัทเอเจนซีอันดับ 1 ในวงการกีฬา ด้วยมูลค่าสัญญาในปี 2020 กว่า 2.7 แสนล้านบาท นับปีที่ปรากฏในสัญญารวมกันยาวนานถึง 1,750 ปี จากลูกค้าทั้งสิ้น 828 ราย..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.referenceforbusiness.com/history2/94/Creative-Artists-Agency-LLC.html
-https://www.nytimes.com/2016/07/31/sports/power-house-caa-hollywood-creative-artists-agency.html
-https://www.wsj.com/articles/SB10001424052702304419104579322721786447490
-https://en.wikipedia.org/wiki/Creative_Artists_Agency#cite_note-twsPeopleMag1-40
-https://www.wsj.com/articles/head-of-caa-says-talent-giants-diversifying-interests-still-interconnect-1456864546
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Creative_Artists_Agency_clients
-https://apnews.com/article/7defa5c0d0f042ae9573ef96cb7ac71d
-https://www.forbes.com/sports-agencies/list/#header:yearsToPayback_sortreverse:true
同時也有24部Youtube影片,追蹤數超過0的網紅CarDebuts,也在其Youtube影片中提到,เปิดตัวในไทย พร้อมราคา The new Suzuki Swift 2021-2022 ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับโฉมใหม่ เริ่มต้นที่ 557,000 บาท ‘ซูซูกิ’ เปิดตัว NEW SUZUKI ...
cruise power 在 Dior Facebook 的最佳解答
In this final extract from her journey of the goddesses around Greece while researching for the Cruise 2022 collection, Maria Grazia Chiuri tours the temples at Delphi. This famous site, whose name derives from the Greek word for womb, was a center of divination whose high priestesses with their divinatory abilities wielded enormous influence as women in the ancient world. A special thanks to IF Experience. Stay tuned for the show being held in Athens today at 8.30pm CET, and see it live on Facebook and on.dior.com/cruise-22.
cruise power 在 Findit平台 Facebook 的最讚貼文
【2021.03交通科技動態】蘋果、鴻海搶攻汽車市場
FINDIT整理了最新的自駕車、電動車與共享汽車近期重要消息報導,提供各界掌握交通科技最新發展概況以及2月份交通科技鉅額交易,趕快讓FINDIT帶您來看看喔!🔍🔍🔍
▶️鴻海投資新創 強攻自駕車
▶️Apple 2020年自駕車道路測試里程增逾1倍但仍落後Waymo、Cruise等領先者
▶️消費者對電動車電池不環保疑慮Volkswagen克服了
▶️鴻海推MIH平台,台灣發展電動車關鍵在電池
▶️鴻光陽以「系統整合輸出」模式與Grab合作
▶️ Uber投入派送機械人Postmates
▶️ Pony.ai、Plus.ai、ECARX、Rad Power Bikes、獲鉅額投資
報導詳情傳送門👉 https://user123980.psee.io/3cll7a
cruise power 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
เปิดตัวในไทย พร้อมราคา The new Suzuki Swift 2021-2022 ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับโฉมใหม่ เริ่มต้นที่ 557,000 บาท
‘ซูซูกิ’ เปิดตัว NEW SUZUKI SWIFT อีโคคาร์สปอร์ตพรีเมี่ยมล่าสุด ภายใต้แนวคิด “Power You Up” แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ ในราคาเริ่มต้น ที่ 557,000 บาท ตั้งเป้ายอดขาย 12,000 คันในปีนี้ หลังเติบโตสวนกระแสตลาด ที่ 7% กับยอดจำหน่ายรวมในปี 2563 ที่ 25,528 คัน พร้อมเป้าหมายยอดขายรวมทุกรุ่นในปีนี้ ที่ 30,000 คัน
‘NEW SUZUKI SWIFT ได้รับการพัฒนาใหม่ นำเสนอผ่านดีไซน์อันโดดเด่น และสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม อัพพาวเวอร์ให้กับทุกการขับขี่ ด้วย 3 ไฮไลท์ คือ
1. อัพความสนุก ในทุกความเคลื่อนไหว ไปกับความแรงของเครื่องยนต์ K12M พร้อมเทคโนโลยี DUALJET และแพลตฟอร์ม HEARTECT
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบหัวฉีดคู่ ที่จัดวางไว้ใกล้กับห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และทำงานโดยการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปที่กระบอกสูบ พร้อมกันทั้ง 2 หัวฉีด ทำให้น้ำมันมีละอองที่ละเอียดขึ้น อัดฉีดน้ำมันได้อย่างแม่นยำ และเป็นการลดอุณหภูมิในกระบอกสูบ พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้
นอกจากนี้ การมีขนาดห้องเผาไหม้ที่เหมาะสม และมีอัตราส่วนกำลังอัดของกระบอกสูบ ที่ 11.5 ซึ่งเป็นกำลังอัดที่มากกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิง เกิดการเผาไหม้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีการจุดระเบิด ได้กำลังและแรงบิดที่ดียิ่งขึ้น จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น นอกจากนี้ เครื่องยนต์ DUALJET ยังมีระบบ EGR ที่ลดอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ ระบายความร้อนแก๊สไอเสียด้วยน้ำ และหมุนวนเข้าท่อร่วมไอดี เป็นการลดการเผาไหม้ที่ผิดปกติ ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ประหยัดน้ำมันมากกว่า 23 กม./ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20
ด้านความปลอดภัย ยังคงโดดเด่นด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ยกระดับการขับขี่ ด้วยโครงสร้างน้ำหนักเบา
รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตัวรถ พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก อีกทั้งยังอัดแน่นไปด้วย ระบบ ESP ช่วยควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS และระบบ IDLING STOP ที่ลดมลพิษ และลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน ขณะรถหยุดนิ่ง เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เสริมด้วยระบบ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ให้ขับสบายตลอดทาง พร้อมมั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วยระบบ Hill Hold Control ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน พร้อมทั้งถุงลมนิรภัย ถึง 6 ตำแหน่ง
2. อัพดีไซน์ใหม่ สปอร์ตสุดเร้าใจ ด้วยกระจังหน้าตกแต่งโครเมี่ยมและล้ออัลลอยปัดเงา
อัพดีไซน์สไตล์สปอร์ตสุดเร้าใจ สะท้อนภาพลักษณ์ และตัวตนของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี NEW SUZUKI SWIFT ได้รับการปรับโฉม เพิ่มลุคสปอร์ตปราดเปรียวที่กระจังหน้า ตกแต่งโครเมี่ยมแบบใหม่ และล้ออะลูมิเนียมอัลลอยปัดเงาใหม่ ขนาด 16 นิ้ว ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมไฟหน้า LED Projector และไฟท้าย LED โดยมิติของตัวรถ มีความยาว 3,845 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,735 มิลลิเมตร ความสูง 1,495 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,450 มิลลิเมตร
3. อัพความสบายในห้องโดยสารดีไซน์สปอร์ต หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว
NEW SUZUKI SWIFT จัดเต็มระบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์ครบครัน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้สามารถขับขี่ตลอดเส้นทาง ได้อย่างสบายและสนุก ด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทุกการเชื่อมต่อ ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth
ภายในห้องโดยสารสีดำ ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินสไตล์สปอร์ต กว้างสบาย รองรับการใช้งานได้หลากหลาย มาตรวัดตกแต่งลายเส้นสีแดง พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ทรง D-Shape เพิ่มพื้นที่วางขา และปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งทรงสปอร์ต โอบกระชับสรีระ
รองรับทุกไลฟ์สไตล์ในการเดินทาง ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระ ขนาด 265 ลิตร ปรับพับเบาะหลังแบบ 60:40 พร้อมด้วย Keyless Entry เปิด-ปิดล็อกประตูได้ โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมท สะดวก ทันสมัย ด้วย Keyless Push Start สตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ ได้ในปุ่มเดียว และเสริมความปลอดภัยในการถอยจอดทุกพื้นที่ ด้วยกล้องมองหลังสุดคมชัด
ฟีเจอร์ใหม่ในเกรด GL ที่เพิ่มเข้ามาจากรุ่นก่อนได้แก่ กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ตกแต่งลายเส้นโครเมียม, กระจกมองข้างพับไฟฟ้า, ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ/ Keyless entry, Keyless Push Start, สัญญาณเตือนเมื่อลืมกุญแจ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
ส่วนฟีเจอร์ใหม่ในเกรด GLX ที่เพิ่มเข้ามาจากรุ่นก่อน ได้แก่ กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ตกแต่งลายเส้นโครเมียม, ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยปัดเงา ขนาด 16 นิ้ว, วัสดุตกแต่งคอนโซลและแผงประตูหน้าสีเงิน, กล้องมองหลัง จอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
NEW SUZUKI SWIFT มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic (ZYH), สีแดง Ablaze Red Pearl (ZTW), สีขาว Pure White Pearl (ZYG), สีเทา Star Silver Metallic (ZTS), สีเทา Mineral Gray Metallic (ZTU) และสีดำ Super Black Pearl (ZTT) มาใน 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น GL ราคาเริ่มต้น 557,000 บาท และรุ่น GLX ราคาเริ่มต้น 629,000 บาท ซูซูกิพร้อมมอบโปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ยพิเศษสุด เพียง 1.99% และสามารถผ่อนเริ่มต้น ได้ที่ 3,333 บาท
อีกทั้งซูซูกิ จัดให้มีกิจกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ NEW SUZUKI SWIFT ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 จึงขอเชิญทุกท่าน ร่วมสัมผัสและทดลองขับ NEW SUZUKI SWIFT ที่โชว์รูมผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้าน ครอบคลุมทั่วประเทศ กว่า 130 แห่ง

cruise power 在 CarDebuts Youtube 的最佳貼文
เปิดตัวในไทย พร้อมราคา All-New Kia Carnival 2021เกีย คาร์นิวัล โฉมใหม่ ในประเทศไทย
เกีย คาร์นิวัล ใหม่ มาพร้อมกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ใหม่ สมาร์ทสตรีม ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร มาตรฐานยูโร 5 ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 45 กิโลกรัม-เมตรที่ 1,750 – 2,750 รอบต่อนาที รวมถึงโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย ได้แก่ Normal Mode / ECO Mode / Sport Mode และ Smart Mode ที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนาน และความมั่นใจตลอดการขับขี่
ดีไซน์ภายนอกของ เกีย คาร์นิวัล ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่ลักษณะโครงสร้างไปจนถึงดีไซน์รอบคัน โดยโครงสร้างภายนอกนั้นมีการปรับความยาวช่วงห้องเครื่องด้านหน้าให้สั้นลง และเพิ่มฐานล้อให้ยาวขึ้น ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารและบริเวณที่วางขาให้กว้างขึ้น อีกทั้งยังปรับความสูงจากพื้นถึงตัวรถให้ต่ำลง พร้อมทั้งติดตั้งมือจับบริเวณขอบประตูเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถก้าวขึ้น-ลงรถได้ง่ายขึ้น ดีไซน์ภายนอกทันสมัยและโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้า tiger-nose ดีไซน์ใหม่ ที่ผสานอย่างลงตัวกับไฟหน้าแบบ LED และ Daytime Running Light พร้อมทั้งไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ไฟท้าย ไฟตัดหมอกหลัง รวมถึงล้ออัลลอยใหม่แบบ Machine Finished ขนาด 18 นิ้ว
การออกแบบภายในของ เกีย คาร์นิวัล ใหม่ มาพร้อมกับคอนโซลดีไซน์ใหม่ และหน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบ Rear Seat Entertainment ด้วยจอขนาด 10.1 นิ้ว ติดตั้งบริเวณหัวหมอนของเบาะโดยสารคู่หน้าจำนวน 2 จอสำหรับผู้โดยสารในแถวที่สอง ระบบเสียงจาก BOSE® และลำโพง 12 ตำแหน่ง ทั้งยังสะดวกสบายด้วยจุดชาร์จ USB ทั้งหมด 6 จุด และช่องชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย ติดตั้งระบบ Mood Light ที่แผงประตูด้านหน้าและซันรูฟไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง รวมถึงเกียร์แบบหมุน Dial Type – Shift by Wire (SBW) ที่สร้างความหรูหราและโดดเด่นให้กับห้องโดยสาร ภายในห้องโดยสารกว้างขวางมาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยเบาะหนังสีน้ำตาล Saddle Brown ตัดขอบสีดำ โดยเบาะที่นั่งสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ และรองรับครอบครัวใหญ่ได้ถึง 11 ที่นั่ง เบาะโดยสารแถวสุดท้ายสามารถปรับพับเรียบได้สนิท Pop-up Sinking Seat ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระได้อย่างลงตัว
เกีย คาร์นิวัล ใหม่ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่ครบครันยิ่งขึ้น อาทิ ประตูสไลด์ไฟฟ้า Smart Power Sliding Door เพียงแค่ยืนใกล้ตัวรถพร้อมกับกุญแจอัจฉริยะ Smart Key ประตูสไลด์จะเปิดโดยอัตโนมัติ ประตูท้ายไฟฟ้า Smart Tailgate พร้อมระบบ Away-Auto Close ที่สามารถเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อยืนอยู่ใกล้ตัวรถ และสามารถปิดเองโดยอัตโนมัติเมื่อเดินห่างออกจากตัวรถ พร้อมทั้งระบบ One-Touch Remote เพียงแค่กดปุ่มบนรีโมทค้างไว้ ประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองบานและประตูท้ายไฟฟ้าจะเปิดพร้อมกันโดยอัตโนมัติ สะดวกต่อการขึ้น-ลงและขนสัมภาระ
มั่นใจยิ่งขึ้นในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยครบครัน อาทิ ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอด PDW (Parking Distance Warning) และกล้องรอบคัน SVM (Surround View Monitor) ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับในที่แคบและระหว่างการถอยจอดให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือ DRIVE WiSE ซึ่งประกอบไปด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Smart Cruise Control ระบบเตือนมุมอับที่กระจกมองข้าง Blind-Spot Collision-Avoidance Assist ระบบเตือนมุมอับสายตาขณะถอยรถ Rear-Cross Traffic Collision Avoidance Assist ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist และ Lane Following Assist และระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision-Avoidance Assist
สำหรับ เกีย คาร์นิวัล ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น EX (อี เอ็กซ์) และรุ่น SXL (เอส เอ๊กซ์ แอล) โดยมีราคาเปิดตัวดังนี้
· รุ่น EX: ราคา 2,144,000 บาท
· รุ่น SXL: ราคา 2,459,000 บาท
โดยสีตัวถังภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวมุก Snow White Pearl, สีดำ Aurora Black Pearl, สีเทาดำ Panthera Metal พร้อมทั้งสีใหม่ล่าสุด คือ สีฟ้า Astra Blue (เฉพาะรุ่น SXL)
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสัมผัส เกีย คาร์นิวัล ใหม่ อย่างใกล้ชิดครั้งแรก ได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพค เมืองทองธานี บูธ B04 ระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2563 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โชว์รูมเกียทุกสาขา

cruise power 在 CarDebuts Youtube 的最佳貼文
รีวิว เจาะลึก ราคา 2021 Isuzu MU-X Thailand อีซูซุ มิวเอ็กซ์ โฉมใหม่หมดทั้งคัน พร้อมราคาจำหน่าย และงานเปิดตัว
ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์ เป็นรถที่โดดเด่น ทั้งในด้านภาพลักษณ์ ความหรูหราที่เหนือความคาดหมาย จากความประณีตในทุกรายละเอียด ความอเนกประสงค์ ที่ออกแบบให้สอดคล้อง กับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถ สมรรถนะการขับขี่ ที่ดีที่สุดแบบ 3S ได้แก่ ความนิ่งและมั่นคง (Stability) ความนุ่มนวล นั่งสบาย (Softness) ความปลอดภัยและการเกาะถนน (Safety and Road Holding) จากโครงสร้างแพลทฟอร์มที่ออกแบบใหม่ ด้วยแนวคิด ISUZU Symmetric Mobility ให้โครงสร้างตัวถัง แชสซีส์ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ และช่วงล่าง ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยมาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยสำหรับรถอเนกประสงค์ ที่ดีที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน ด้วย ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE ที่มุ่งเน้นพัฒนา เพื่อรวมทุกเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย เข้าไว้ด้วยกัน
ได้แก่ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่อัจฉริยะ 3D Imaging Stereo Camera ช่วยตรวจจับวัตถุต่างๆ ด้วยการสแกนภาพ 3 มิติ แบบ Real Time แม่นยำกว่ากล้องระบบ Mono Camera ทั่วไป โดยทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ABS, EBD, BA, BOS, ESC, TCS, HSA, HDC และ TSC โดยมีให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active พร้อมราคาพิเศษช่วงแนะนำ เริ่มต้น 1,109,000 บาท “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” จึงพร้อมกับการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย เพื่อเป็นรถธงคันใหม่ ของ “อีซูซุ” ที่พร้อมจะสร้างปรากฏการณ์ “Next Normal” ให้กับวงการรถอเนกประสงค์ของไทย นอกจากนี้ อีซูซุยังได้ประกาศว่า บริษัทมียอดการผลิต รถยนต์อีซูซุทุกรุ่นในประเทศไทย ครบ 5 ล้านคันแล้ว ในเดือนตุลาคม”
“ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” มีให้เลือกครบครัน ด้วยสไตล์ที่หลากหลาย รวม 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ให้แรงบิดสูงทุกย่านความเร็ว และเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 เครื่องยนต์พัฒนาล้ำหน้าล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร พร้อมทางเลือก ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มาพร้อมโหมด Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ถ่ายทอดจังหวะเปลี่ยนเกียร์ ได้เร็วและลื่นไหล และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมระบบ Genius Sport Shift แรง เร็ว เร้าใจ ด้วยอัตราทดเกียร์ต่อเนื่อง มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ พร้อมระบบขับเคลื่อน Rough Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเบรก ให้เหมาะสม เพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคได้ดีขึ้น โดยทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L
เทคโนโลยี ADAS ที่รวมไว้ใน “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ได้แก่
• ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go
• FCW (Forward Collision Warning) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า
• AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
• LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน
• AHB (Automatic High Beam) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมติ
• PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด
• MSL (Manual Speed Limiter) ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง
• BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา
• RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์
• Parking Aid System ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์
• MCB (Multi-Collision Brake) ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
“ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ น้ำตาลมาราเกซ (Marrakesh Brown) ขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite Pearl White) แดงเอทนา (Etna Red) ดำบาวาเรียน ไมก้า (Bavarian Black Mica) เงินไอซ์เบิร์ก (Iceberg Silver) และเงินโบฮีเมียน เมทัลลิค (Bohemian Silver Metallic) แตกต่างกันไป ในแต่ละรุ่น โดยมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 1,109,000 บาท ไปจนถึง 1,591,000บาท
ราคาจำหน่าย All-New Isuzu MU-X 2021 (ออลนิว อีซูซุ มิวเอ็กซ์) โฉมใหม่ล่าสุด มีดังต่อไปนี้ (รวม VAT.7%)
รุ่น 3.0 Ddi Ultimate 4WD เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เบาะหนังสี Saddle Brown
สีขาวมุก 1,591,000 บาท
สีเมทาลิค 1,579,000 บาท
รุ่น 3.0 Ddi Ultimate เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เบาะหนังสี Saddle Brown
สีขาวมุก 1,491,000 บาท
สีเมทาลิค 1,479,000 บาท
รุ่น 1.9 Ddi Ultimate เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เบาะหนังสี Saddle Brown
สีขาวมุก 1,446,000 บาท
สีเมทาลิค 1,434,000 บาท
รุ่น 1.9 Ddi Elegant เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เบาะหนังสี Saddle Brown
สีขาวมุก 1,361,000 บาท
สีเมทาลิค 1,349,000 บาท
รุ่น 1.9 Ddi Luxury เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เบาะหนังสี Saddle Brown
สีขาวมุก 1,316,000 บาท
สีเมทาลิค 1,304,000 บาท
รุ่น 1.9 Ddi Luxury เกียร์ธรรมดา 6 สปีด เบาะหนังสี Saddle Brown
สีเมทาลิค 1,254,000 บาท
รุ่น 1.9 Ddi Active เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เบาะผ้าสีดำ
สีเมทาลิค 1,109,000 บาท
