เกิดอะไรขึ้นกับ YouTube ช่องเด็ก❓
หรือว่ามาถึงทางตันของสายเด็กบน YouTube แล้ว⁉️
วันนี้ขอมาเขียนยาวๆ อธิบายให้คนที่ได้รับผลกระทบตรงนี้เข้าใจ หรืออาจไม่ได้รับผลกระทบแต่อยากรู้ก็อ่านได้นะคะ 😉
หลายคนคงเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงบน YouTube ตั้งแต่วันที่ 11/11 ที่ผ่านมา "ทุกคน" ที่ Upload clip ขึ้น YouTube จะต้องระบุว่าคลิปของตัวเองนั้นเป็นคลิปที่ "สร้างมาสำหรับเด็ก" รึเปล่า (Made for Kids หรือคน YouTube เรียกย่อๆว่า MFK) ไม่ใช่เฉพาะสายเด็กเท่านั้นที่ต้องระบุ แต่ทุกคน ทุกคลิปต้องระบุ ซึ่งการระบุนั้น สามารถทำได้ในระดับคลิป และ ระดับช่อง คือ
1. ถ้าเรามั่นใจว่าทุกคลิปในช่องเรา เป็น MFK เราระบุที่ระดับช่องได้เลยว่าช่องนี้ MFK นะจ๊ะ แบบนี้ทุกคลิปที่ upload ในช่องนี้ก็จะถูกระบุว่าเป็น MFK โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งระบุทีละคลิป
2. ถ้าเรามั่นใจว่าทุกคลิปในช่องเราไม่เป็น MFK ทุกคลิปของเราไม่ได้ทำมาเพื่อเด็กดู เราก็สามารถระบุที่ระดับช่องได้เลยเหมือนกัน
3. ช่องเรามีทั้ง 2 แบบ ก็สามารถเลือกระบุเป็นคลิปๆไปได้ ว่าคลิปนี้ MFK คลิปนั้นไม่ MFK
ซึ่งจุดนี้ ถ้าเราไม่ได้ระบุ หรือเรามีคลิปเก่าๆมากมายหลายพันคลิป เราไม่ต้องตามไประบุ เพราะ YouTube จัดการระบุให้เราเสร็จ ด้วย Machine Learning System เค้ามี AI ที่ฉลาดมากๆ ที่จะระบุให้ได้ ซึ่งก็อาจมีข้อผิดพลาดได้บ้าง ถ้า AI ระบุผิด YouTube ก็มีปุ่มให้กดโต้แย้งได้ ซึ่งถึงตอนนี้ก็จะเป็นคนที่เข้ามาดูและพิจารณาให้เรา แต่...ถ้าเราตั้งใจบิดเบือนข้อมูลว่าคลิปเราไม่เป็น MFK ทั้งๆที่มันเป็น คุณก็จะโดนอะไรสักอย่างจาก YouTube ซึ่งตอนนี้ยังไม่มี Policy ที่แน่ชัดออกมาว่าจะโดนอะไรร้ายแรงแค่ไหน แต่ YouTube บอกว่าจะจัดการคนที่ทำแบบนี้แน่นอนค่ะ 😱
คลิปที่เป็น MFK หรือคลิปที่ "สร้างมาสำหรับเด็ก" (Made for Kids) คืออะไร? ก็แปลตรงตัวเลยว่ามันคือคลิปที่สร้างมาเพื่อให้เด็กดูนั่นเอง เด็กในที่นี้ ก็ยึดตามอเมริกาว่า ต่ำกว่า 13 ขวบก็คือเด็ก
แล้วเราจะรูได้ไงว่าคลิปเราเข้าข่ายนี้มั๊ย ทาง YouTube ก็มีลิสต์มาให้เช็คง่ายๆ ถ้าคลิปคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้ ก็เข้าข่าย MFK
1. เนื้อหาสาระของคลิปเป็นคลิปเพื่อเด็ก เช่น สื่อการสอนของเด็กน้อยก่อนวัยเข้าเรียน
2. คลิปคุณตั้งใจทำมาให้เด็กดู หรือกลุ่มคนดูจริงๆของคุณเป็นเด็ก
3. คลิปคุณมีเด็กมาแสดงในคลิปด้วย
4. คลิปคุณมีตัวการ์ตูน คนดัง หรือของเล่นที่ดึงดูดใจเด็ก เช่น เอลซ่า หางนางเงือก สไลม์ กสุชชี่
5. ภาษาที่ใช้ในคลิปเป็นภาษาที่ใช่สื่อสารกับเด็กโดยเฉพาะ รวมไปถึงการทำเสียงสองให้น่ารักๆ แบบที่เวลาเราคุยกับเด็กน้อยด้วย
6. กิจกรรมในคลิป เป็นกิจกรรมที่ดึงดูดใจเด็ก เช่นการละเล่นต่างๆ เพลงเด็ก เกม หรือกิจกรรมของเด็กน้อยอนุบาล
7. คลิปเพลงเด็ก นิทาน เรื่องราว หรือบทกลอนสำหรับเด็ก
8. อื่นๆ ใดๆ นอกเหนือจากนี้ที่มันชี้ว่าคลิปคุณนั้นเป็นคลิปทำมาให้เด็กดู
จะเกิดอะไรขึ้นกับคลิปหรือช่องที่ถูกระบุว่าเป็น MFK 😢
1. YouTube จะไม่เก็บข้อมูลของผู้ชมคลิปที่เป็น MFK (ปกติ YouTube จะเก็บข้อมูลของผู้ชมคลิปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น location เพศ อายุ หรือความสนใจ)
2. คนดูจะไม่สามารถ comment ใต้คลิปได้
3. โฆษณาประเภท Personalized Ads จะไม่ขึ้นที่คลิป MFK (ข้อนี้สำคัญที่สุดเลยจ้า) 😭😭😭
4. Features หลายอย่างจะหายไป นอกจาก comment แล้ว ก็ยังมี Info Cards และ End Screens ที่จะไม่มีให้ใช้ด้วย
5. และถ้าทั้งช่องถูกระบุว่าเป็นช่อง MFK ช่องนั้นก็จะไม่มี Stories, Community Tab (ชุมชน), กระดิ่งแจ้งเตือน และคนดูจะไม่สามารถกดปุ่ม Save to watch later หรือ เพิ่มลงใน playlist ได้
สาเหตุที่ YouTube ต้องเปลี่ยนนโยบาย และวิธีปฏิบัติครั้งใหญ่ครั้งนี้
ย้อนกลับไปเมื่อราว 2 ปีก่อน มีคนไปแจ้ง FTC (Federal Trade Commission หรือ คณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา) ว่า YouTube นั้นทำ “ผิดกฎหมาย COPPA (Children’s Online Privacy Protection Act) แปลง่ายๆ ว่าเป็นกฎหมายพิทักษ์ความเป็นส่วนตัวของเด็กบนโลกออนไลน์” 🙁
เรื่องก็คือ YouTube นั้นเก็บข้อมูลทุกอย่างบนโลก online ของคนที่เข้ามาดูคลิป YouTube อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น เพศ อายุ สถานที่ดูคลิป ใช้อุปกรณ์อะไรดูคลิป เข้ามาดูคลิปด้วยวิธีการไหน รวมไปถึงความสนใจของคนดูคลิปด้วย
ฉะนั้น YouTube ก็จะมีข้อมูลมหาศาลของคนดูเหล่านี้อยู่ในมือ เวลามีคนมาซื้อโฆษณาใน YouTube ก็จะสามารถยิงตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ เช่น ช่วงที่เราจะไปเที่ยวญี่ปุ่น เราหาข้อมูลต่างๆใน google เกี่ยวกับญี่ปุ่น พอเราเข้า YouTube ดูอะไรก็ตาม เราจะเห็นโฆษณาสายการบินที่มีตั๋วไปญี่ปุ่น หรือโฆษณาการท่องเที่ยวญี่ปุ่น หรือโปรโมชั่น International Roaming เพราะผู้ลงโฆษณาเหล่านั้น ระบุกับ YouTube ให้ยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่กำลังสนใจเรื่องราวท่องเที่ยวญี่ปุ่นแบบเราอยู่นั่นเอง
เด็กก็เหมือนกัน จะโดนเก็บข้อมูลพฤติกรรมความสนใจต่างๆ ถ้าเด็กคลิกดูคลิปบาร์บี้รัวๆ Mattel ก็จะยิงโฆษณามาที่เด็กคนนี้ ซึ่งตามกฎหมายแล้วมันผิด!! คือผิดตั้งแต่เก็บข้อมูลของเด็กแล้ว ข้อนี้ทำให้ YouTube โดนฟ้องและถูกปรับไปแล้วเป็นเงิน $170 ล้าน หรือเป็นเงินไทยราว ห้าพันกว่าล้านบาท!!! นี่เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่พวกเราเหล่า Content Creator และ YouTube เอง กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ 😩
เมื่อโดนฟ้องและโดนปรับขนาดนี้ YouTube เองก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง และบอกกับ FTC ว่าชั้นผิดไปแล้ว ชั้นจะปรับปรุงตัวและแก้ไขนะ โดยการ
1. ไม่เก็บข้อมูลเด็กๆที่เข้ามาดูคลิป - แล้ว YouTube จะรู้ได้ไงว่าคนที่มาดูคลิปคนไหนเป็นเด็ก เพราะเด็กใช้ Account พ่อแม่ปู่ย่าตายายเข้ามาดู เด็กต่ำกว่า 13 ไม่มี gmail ไม่สามารถ login เข้ามาดูได้อยู่แล้ว หรือบางคนก็ดูคลิปด้วยการไม่ login ก็มี คำตอบคือ YouTube ใช้วิธีตัดสินจากว่า ถ้าใครดูคลิปที่เป็น MFK ก็ถูกเหมาว่าเป็นเด็กหมด ฉะนั้น YouTube จะไม่เก็บข้อมูลคนดูคลิป MFK ตามที่เล่าไปแล้วตั้งแต่ต้น
2. ตัด Feature ต่างๆในคลิปที่เป็น MFK ออกไปเพื่อปกป้องเด็ก เช่น Comment เพื่อป้องกันข้อความ Cyber Bully ข้อความ Harassment หรืออื่นๆที่ไม่พึงประสงค์สำหรับเด็ก (บางคนถามว่าบาง Feature ที่โดนตัดไปเช่น Info Cards หรือ End Screens ไม่เห็นจะเกี่ยว หรือมีผลเสียอะไร แต่คำตอบของ Engineer ของ YouTube คือมันมีผลเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลคนดูด้วย เลยจำต้องเอาออกไปด้วยจ้า)
3. ที่สำคัญที่สุดคือ จะไม่ยิงโฆษณาเฉพาะเจาะจง หรือ Personalized Ads ไปที่คลิป MFK ซึ่ง Personalized Ads ก็คือโฆษณาที่ระบุกลุ่มเป้าหมายในการยิงโฆษณา เช่น Adidas มาซื้อโฆษณา YouTube แล้วบอกว่าจะยิงโฆษณาไปยังคนดูที่อายุ 18-45 เท่านั้นนะ และเอาพวกที่ชอบเรื่องกีฬาเท่านั้นนะ อาจจะเลือกว่าให้ยิงโฆษณาในประเทศไหน ไม่ยิงในประเทศไหนก็ได้ นี่คือ Personalized Ads แต่ไม่ใช่ว่าคลิป MFK จะไร้ซึ่งโฆษณาเลย จะยังมีโฆษณาเฉพาะที่เป็นโฆษณาแบบ Non Personalized Ads ที่ไม่ระบุอะไรเลยตอนซื้อโฆษณา คือยิงไปที่ไหน ใครก็ได้ ซึ่งมันน้อยยยยมาก โฆษณาส่วนใหญ่บน YouTube นั้นเป็น Personalized Ads จ้า มีคนโน้นคนนี้ประเมิณว่าอาจจะเป็นจำนวน 60-90% ของโฆษณาทั้งหมดบน YouTube ก็ได้ แต่คน YouTube เอง ก็ยังไม่สามารถระบุตัวเลขที่แน่ชัดให้ได้ บอกได้แค่มันเป็น “ส่วนใหญ่” แค่นั่นเอง
ผลกระทบหลักกับช่องเด็ก หรือคลิปเด็กใน YouTube คือ รายได้จากโฆษณาลดลงแบบตกจากฟ้าลงไปในเหวกันเลยทีเดียว😱😱😱 อย่างที่บอกว่าไม่รู้ว่ากี่ % แต่เยอะแน่นอน เราจะรู้ตัวเลขแน่ชัดก็ต่อเมื่อนโยบายนี้เริ่มมีผลหลังวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป
บางคนถามว่าทำไม YouTube ไม่ช่วยช่องเด็กเลย มีทางออกอื่นๆอีกมั๊ย คำตอบคือ YouTube นั้นพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องนี้กันภายในมาเป็นระยะเวลา 2 ปีแล้ว พยายามหาทางออกที่ดีที่สุด จนได้คำตอบออกมาอย่างที่เห็น ขนาดช่องใหญ่ๆมากๆที่อเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Walt Disney, Sesame Street ก็ต้องทำตามนโยบายนี้เพราะมันเป็นกฎหมาย COPPA 😥
ช่องเด็กควรทำยังไง ปรับตัวยังไง เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
1. ปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้เป็นเนื้อหาผู้ใหญ่ดู บางช่องดังๆที่อเมริกา อย่าง Ryan’s Toys Review ก็เปลี่ยนเป็น Ryan’s World ปรับเนื้อหาเป็น Lifestyle เป็นท่องเที่ยว พ่อแม่พาลูกเที่ยว อะไรไป ซึ่งบางคลิปก็ยังอาจจะโดน MFK แต่คลิปที่รอดก็มี
2. ทำงานกับ Brand รับงาน Sponsor รับรีวิวสินค้า
3. ขายของ พวกเรามีฐานคนดู ฐานแฟนอยู่แล้ว เรามีช่องทางประชาสัมพันธ์สินค้าของเราอยู่แล้ว
4. กระจายความเสี่ยงไปอยู่ Platform อื่นๆบ้าง
เขียนมายืดยาว ปะป๊าถามว่าใครจะอ่านเนี่ย..แต่ก็คิดว่าน่าจะมีคนอ่านจบ โดยเฉพาะคนที่จะโดนผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะมันสำคัญมากๆ มันหมายถึงชีวิตที่จะเปลี่ยนไป บ้านที่เพิ่งผ่อน รถที่เพิ่งซื้อ พ่อแม่พี่น้อง ครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู ถึงเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยนและก้าวข้ามผ่านกันแล้วค่ะ
สู้ๆนะคะทุกคน ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ ปรับเปลี่ยนไป ทุกอย่างมีทางออกเสมอ เป็นกำลังใจให้นะคะ 😉
Helpful Resources:
The Children's Online Privacy Protection Rule (“COPPA”)
https://www.ftc.gov/…/childrens-online-privacy-protection-r…
FTC open comment period (feedback on the COPPA regulation can be filed through Dec. 9, 2019)
https://www.federalregister.gov/…/request-for-public-commen…
YouTube Help: Determining if your content is made for kids
https://support.google.com/youtube/answer/9528076
YouTube Help: Set your channel or video’s audience
https://support.google.com/youtube/answer/9527654
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...