ทำไม SAP และ Atos ถึงตอบโจทย์ การทรานส์ฟอร์มองค์กร สู่โลกดิจิทัล
Atos Thailand x ลงทุนแมน
หากพูดถึงการทำงานขององค์กรในยุคดิจิทัล
เรื่องแรก ๆ ที่ต้องพูดถึง คงไม่พ้นเรื่อง ระบบวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร หรือที่เรียกกันว่า Enterprise Resource Planning (ERP)
ซึ่งถ้าถามว่า ใครคือผู้นำของโลกในเรื่องนี้ ? คำตอบคือ “SAP” บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติเยอรมัน เจ้าของซอฟต์แวร์ ERP ที่มีมูลค่าบริษัทกว่า 5.6 ล้านล้านบาท
นอกจาก SAP ก็ยังมีอีกหนึ่งองค์กรผู้เชี่ยวชาญ
นั่นคือ “Atos” องค์กรที่มีโซลูชันมากมายในด้านไอที ซึ่งจะช่วยยกระดับการทำงานขององค์กร สู่การทำงานโลกดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์
บริการของ SAP และ Atos มีอะไรน่าสนใจ
แล้วทำไม SAP และ Atos ถึงตอบโจทย์การทรานส์ฟอร์มองค์กร สู่โลกดิจิทัล ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ในโลกการทำงานยุคนี้ เรื่องของระบบไอทีภายในองค์กรถือเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะระบบ ERP หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า ระบบวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร
อธิบายก่อนว่า ERP เป็นระบบที่ช่วยอัปเดตข้อมูลให้ทุกฝ่ายในองค์กร รับรู้การเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรในบริษัท ได้ตรงกันแบบ Real-time
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ถ้าเรามีบริษัทที่ทำธุรกิจขายเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วบริษัทเรามีหน้าที่ตั้งแต่ บริหารหน้าร้าน รับคำสั่งซื้อจากลูกค้า จัดการคำสั่งซื้อ จัดการคลังสินค้า และบันทึกบัญชี
ลองคิดดูว่า ถ้าในหนึ่งวันมีลูกค้ามาซื้อของจากบริษัทเราเป็นร้อยเป็นพันคน และเราไม่มีระบบจัดการเรื่องเหล่านี้ได้ดี องค์กรเราจะทำงานได้ยากลำบากมาก
ซึ่งจุดนี้เอง ที่บริการจาก SAP และ Atos จะเข้ามาตอบโจทย์..
SAP มีบริการ “RISE with SAP” ซึ่งเป็นโซลูชัน on Cloud ที่ช่วยออกแบบรูปแบบการทำงาน การจัดการข้อมูล และวางระบบให้เหมาะสมกับองค์กรได้มากที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ซึ่งโซลูชันของ RISE with SAP ที่ว่านี้ ก็รวมบริการต่าง ๆ เอาไว้อย่างครบครัน อย่างเช่น ระบบออกแบบจัดการข้อมูล, ระบบจัดเก็บข้อมูล, ระบบวิเคราะห์ข้อมูลอัตโนมัติด้วย AI หรือหุ่นยนต์ เพื่อช่วยยกระดับการวางแผนและจัดการทรัพยากรขององค์กร
ตัวอย่างความสะดวกเมื่อองค์กรมีโซลูชัน RISE with SAP ก็อย่างเช่น
เมื่อมีลูกค้ามาสอบถามและสั่งซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ พนักงานขายของบริษัท ก็สามารถเช็กข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ว่ามีสินค้าภายในร้านหรือในคลังสินค้าหรือไม่ และจะส่งมอบให้ลูกค้าได้เร็วสุดตอนไหน
และที่สำคัญก็คือ ข้อมูลคำสั่งซื้อจากลูกค้า ก็ส่งต่อเข้าไปในระบบเพื่อให้ฝ่ายต่าง ๆ เช่น ฝ่ายบัญชีหรือฝ่ายคลังสินค้า ให้สามารถจัดการข้อมูลต่อได้ทันที
แล้วถ้าองค์กรอยากเอาบริการของ SAP อย่างเช่น RISE with SAP มาใช้งาน จะต้องทำอย่างไร ?
สำหรับในไทยก็มี อาโทส ประเทศไทย หรือ Atos Thailand ที่เป็น Platinum Partner อย่างเป็นทางการของ SAP
หมายความว่า ถ้าองค์กรต้องการนำบริการหรือโซลูชันจาก SAP มาใช้ ก็สามารถติดต่อผ่านทาง Atos ให้เข้ามาช่วยดูแลได้
โดยการทำงานของ SAP และ Atos
จะยึดตามมาตรฐานของ “ITIL” หรือ Information Technology Infrastructure Library ซึ่งถือเป็นกระบวนการทำงานที่ได้รับการยอมรับในการให้บริการทางไอทีในทุกวันนี้ ประกอบด้วย
1. “Transition” หรือ การเปลี่ยนผ่าน
ช่วยกำหนดขอบเขตและการเปลี่ยนผ่านของการทำงานที่ชัดเจน และครอบคลุมถึงการรองรับบริการในอนาคตจากการขยายตัวของธุรกิจและองค์กร
2. “Core Application Management System” ระบบบริการจัดการการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
มีบริการและการให้ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ โดยมีระบบตรวจสอบความเหมาะสมในการใช้งาน การจัดการแอปพลิเคชัน
อธิบายง่าย ๆ คือ มีระบบรับฟีดแบ็กการทำงาน ว่าขั้นตอนในส่วนไหนที่มีปัญหา ขั้นตอนไหนควรปรับปรุงให้ดีขึ้น จากมุมมองของพนักงานฝ่ายต่าง ๆ ที่ใช้งานระบบของ SAP
3. “Add-On” หรือบริการปรับปรุงระบบการทำงานของ SAP ให้เหมาะสมกับองค์กรอย่างต่อเนื่อง
เช่น ถ้าในอนาคตบริษัทมีการควบรวมกิจการกับบริษัทอื่น ก็สามารถออกแบบระบบจัดการข้อมูลให้สามารถเชื่อมต่อกับบริษัทใหม่ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
สรุปความน่าสนใจ และจุดเด่นของโซลูชันจาก SAP
และบริการจาก Atos แบบเข้าใจง่าย ๆ คือ
- ช่วยให้การวางแผนบริการจัดการทรัพยากรของบริษัท มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ช่วยลดงานซ้ำซ้อนหรืองานที่ไม่จำเป็นลงได้ และช่วยลดความผิดพลาดในเรื่องข้อมูลระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ในองค์กรลงได้
- เมื่อองค์กรมีการเติบโตมากขึ้น บริการจาก SAP และ Atos ก็จะยังช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาระบบวางแผนจัดการทรัพยากร ให้เหมาะสมกับข้อมูลและทรัพยากรที่ต้องจัดการมากขึ้นได้
- หากมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการใช้งาน ก็มีทีมงานคอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง แบบไม่มีวันหยุด
- ลดภาระและต้นทุนในการบริหารจัดการ การจัดการระบบไอทีขององค์กร และช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด
เรารู้ดีว่า โลกทุกวันนี้ กำลังถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
เพราะฉะนั้น จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ช่วยให้องค์กรสามารถแข่งขันในโลกทุกวันนี้ คงหนีไม่พ้น การต้องทรานส์ฟอร์มสู่โลกดิจิทัล
และเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ก็คือ การมีโซลูชันดี ๆ ที่เข้ามาช่วยในเรื่องการจัดการข้อมูลและทรัพยากรขององค์กร ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ซึ่งหากถามว่าใครที่จะมาช่วยในเรื่องนี้ได้
SAP และ Atos ก็คือสองผู้เชี่ยวชาญ
ที่สามารถตอบโจทย์การทรานส์ฟอร์มองค์กร สู่โลกดิจิทัลได้..
สำหรับคนที่สนใจสามารถติดต่อฝ่ายบริการการขายและการตลาดได้ที่
คุณรตนพร สุริย์ อีเมล [email protected]
References
-https://finance.yahoo.com/quote/SAP/
-https://www.sap.com/sea/products/rise.html
-https://atos.net/en/about-us/partners-and-alliances/sap
-บริษัท อาโทส ไอที โซลูชั่นส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (ประเทศไทย)
sap erp system 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
RICOH x ลงทุนแมน
RICOH เติมเต็ม Work From Home ของเราให้สมบูรณ์แบบ
การระบาดของ COVID-19 ได้เปลี่ยนชีวิตเราจากหน้ามือเป็นหลังมือแล้ว หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงก็คือหลายบริษัทให้พนักงานทำงานที่บ้าน
หลายคนอาจมองว่า การทำงานที่บ้าน ก็แค่ให้พนักงานประชุมทางไกล
ผ่านวิดีโอคอล และแชร์ข้อมูลหน้าจอคอมพิวเตอร์ในการทำงานร่วมกัน
ก็เป็นความคิดที่ถูก แต่คงไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องที่สุด
เพราะหลายๆ งานก็ไม่สามารถทำจากที่บ้านได้ เนื่องจากระบบที่เรามีไม่รองรับ
ดังนั้น หากจะมองกันยาวๆ ว่าในอนาคต หลายองค์กรอาจจะต้องปรับเปลี่ยนมาทำงานที่บ้านมากขึ้น
เราจำเป็นต้องมีโซลูชันเทพๆ มาช่วยในการทำงาน
ซึ่งหลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าเป็นอย่างไร
ลงทุนแมน จะมาเล่าให้ฟัง
สิ่งที่เรามักกดผ่านคอมพิวเตอร์บ่อยๆ ก็คือปุ่ม “แชร์”
โดยเฉพาะข้อมูลเอกสารต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ถือเป็นความลับของบริษัท
ทำให้การแชร์ข้อมูลแต่ละครั้ง เราต้องมั่นใจว่าข้อมูลจะไม่รั่วไหลออกไป
รวมถึงระบบการอนุมัติเอกสารต่างๆ ก็ต้องสะดวกและปลอดภัย และทำได้จากทุกที่
แล้วข้อมูลที่เราทำงาน ก็ควรต้องเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้านอย่าง ERP ได้ด้วย
ใครที่ทำงานที่บ้านตอนนี้อาจจะต้องเจอข้อจำกัดเหล่านี้อยู่
นี่เป็น pain point ที่ทางบริษัท ริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด (RICOH) ผู้นำด้านเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันและออฟฟิศโซลูชันระดับโลก มองเห็น
ซึ่งรู้หรือไม่ว่า บริษัทนี้เชี่ยวชาญโซลูชันในการทำงานบนโลกดิจิทัล
ไม่ใช่มีแต่เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน อย่างที่เรารู้จักกัน
แล้วโซลูชันของ RICOH มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง?
1. Open Bee Cloud เราสามารถสร้างพื้นที่ทำงานดิจิทัลส่วนตัวที่มีความปลอดภัยสูง
แถมยังกำหนดสิทธิได้ว่าใครบ้างที่สามารถเข้าถึงข้อมูล จนถึงการแชร์ข้อมูลให้กับเพื่อนร่วมงานและคู่ค้าของบริษัทพร้อมกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย
2. Enterprise Content Management (ECM) จะช่วยเราจัดการฐานข้อมูลที่สำคัญ ทั้งในเรื่องการจัดเก็บข้อมูล สร้าง Index เอกสารเพื่อค้นหา และเราสามารถแชร์ข้อมูลโดยการกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงของแต่ละคนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งทำจากที่ไหนก็ได้ ที่สำคัญ สามารถส่งต่อข้อมูลไปยังระบบอื่นๆ ที่บริษัทเราใช้อยู่ เช่น ERP อย่าง SAP, Oracle, SharePoint หรือ Outlook ได้
3. Business Process Management (BPM) จะมาช่วยเราจัดการการเดินเอกสารเพื่ออนุมัติในองค์กร
โดยเราสามารถเข้าใช้งานได้ผ่านคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลา
และหากใครเป็นผู้บริหารก็สามารถแก้ไขและเซ็นอนุมัติเอกสารต่างๆ ได้ทันที
ด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์
4. RICOH® Unified Communication System (UCS) Advanced Service
ให้เราทุกคนสามารถประชุมออนไลน์และแชร์ข้อมูลหน้าจอระหว่างประชุมได้ทันที
ที่สำคัญ มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องกลัวข้อมูลที่คุยกันรั่วไหลให้คนภายนอกเห็น
แล้วรู้หรือไม่ว่า RICOH ยังมี App ที่เราสามารถทำงานผ่านสมาร์ทโฟน
เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดไวรัส COVID-19
RICOH Smart Device Connector App สามารถควบคุมเครื่องมัลติฟังก์ชันเพื่อถ่ายเอกสาร ปล่อยงานพิมพ์ สแกน และส่งแฟกซ์ได้จากสมาร์ทโฟน
ช่วยลดการสัมผัสเครื่องใช้อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ที่ใช้ร่วมกัน
RICOH RemoteConnect Support หากเรามีปัญหาการใช้งาน แค่โทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ของริโก้บอก One-Time Password เจ้าหน้าที่จะมองเห็นหน้าจอเครื่องของเรา และแก้ไขปัญหาได้ทันทีผ่านหน้าจอ
ช่วยลดจำนวนบุคคลภายนอกที่ต้องเข้าไปในสำนักงาน
โปรแกรม @Remote ตรวจสอบปริมาณหมึกและข้อมูลเครื่องระยะไกลผ่านอินเตอร์เน็ตช่วยให้ทีมบริการลูกค้าสามารถเข้าไปแก้ไขเครื่องพร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นได้ทันทีลดปริมาณในการเข้าพื้นที่และบำรุงรักษาได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นไม่ต้องใช้เวลาอยู่ในสำนักงานเพื่อซ่อมเครื่องนาน
ทั้งหมดนี้น่าจะแสดงให้เห็นว่า RICOH นั้นมีความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในทุกการทำงานของเราให้เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยไม่ว่าเราจะทำงานที่ไหน
จะเป็นการ Work From Home แบบตอนนี้ หรือตอนที่กลับไป Work From Office เราก็สามารถมั่นใจได้ว่าจะมีโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น..
สำหรับคนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-088-2158 หรืออีเมล products@ricoh.co.th
sap erp system 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的最佳解答
+++ 9 อันดับ งานด้านคอมพิวเตอร์ IT ที่บริษัทต้องการมากที่สุด!! +++
มาลองเริ่มนับถอยหลังกับ 9 อันดับ งานด้านคอมพิวเตอร์ IT ที่บริษัทต้องการมากที่สุด!! กันเลยดีกว่า...
____________________________
#อันดับ9 ฝ่ายสนับสนุนด้านไอที (IT Support)
- เงินเดือน/รายได้เฉลี่ย 18,700-55,000 บาท
#ทำไมบริษัทต้องการ ??
ทำความเข้าใจถึงสายงานนี้กันก่อน ปัจจุบัน คนทั่วๆไปมีการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีที่มีความทันสมัยอยู่มาก
ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานด้าน Hardware อย่างอุปกรณ์ สมาร์ทโฟน ทีวี ตู้เย็น หรือจะเป็นด้าน Software อย่างการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ระบบเครือข่ายโทรศัพท์ ฯลฯ
______________
#อันดับ8 ความมั่นคง และความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security)
- เงินเดือน/รายได้เฉลี่ย 65,000-200,000 บาท
#ทำไมบริษัทต้องการ ??
เนื่องจาก ปัจจุบัน ไม่ว่าจะธุรกิจขนาดเล็ก หรือใหญ่ล้วนจะขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีที่อาศัยช่องทางออนไลน์ตลอดเวลา
ซึ่งเมื่อพูดถึงความปลอดภัยของบริษัท…การถูกโจมตี การถูกแฮก หรือการโจรกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องจำเป็นที่บริษัทควรมีผู้เชี่ยวชาญ ที่จะคอยดูแลความปลอดภัยต่างของบริษัท
______________
#อันดับ7 การจัดการด้านไอที และการบริหารโครงการ (IT Management & Project Management)
- เงินเดือน/รายได้เฉลี่ย 38,000-150,000 บาท
#ทำไมบริษัทต้องการ ??
ไม่ว่าจะเป็นการบริหารในเรื่องของระยะเวลา ด้านทรัพยากรภายในบริษัท เรื่องค่าใช้จ่าย ความแข็งแรงด้านศักยภาพของทีมงานภายในบริษัท
รวมถึงการนำเครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยให้มีความเป็นอัติโนมัติมากขึ้น และไปถึงเป้าหมายที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
______________
#อันดับ6 การจัดการฐานข้อมูล (Database Management)
- เงินเดือน/รายได้เฉลี่ย 28,000-105,000 บาท
#ทำไมบริษัทต้องการ ??
ถือเป็นอีกสายงานที่ครอบคุมเรื่องของข้อมูลเหมือนกัน เนื่องจาก ปัจจุบัน หลายบริษัทต่างก็มีเว็บไซต์ เพจ หรือโปรแกรมอะไรก็ตามที่เป็นเครื่องมือในการบริหารธุรกิจ
และด้วยการเติบโตของหลายๆบริษัท ไม่ว่าจะเป็นจำนวน Traffic ที่เข้ามายังเว็บไซต์ จำนวนคำสั่งซื้อสินค้า จำนวนรายชื่อลูกค้า หรือจำนวนกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ ฯลฯ ทำให้กลายเป็นข้อมูลที่สำคัญๆต่อธุรกิจอย่างมาก
______________
#อันดับ5 ระบบบริหาร และวางแผนสำหรับบริษัท (ERP & SAP)
- เงินเดือน/รายได้เฉลี่ย 30,000-220,000 บาท
#ทำไมบริษัทต้องการ ??
ปัจจุบัน หลายธุรกิจ หลายองค์กร หลายบริษัทมีความต้องการที่จะนำรูปแบบระบบทั้งแบบ ERP และ SAP เข้ามาใช้ในบริษัทเพื่อความสะดวกรวดเร็ว และมีความแม่นยำมากขึ้น
______________
#อันดับ4 ค้าขายออนไลน์ และการตลาด (E-Commerce & Digital Marketing)
- เงินเดือน/รายได้เฉลี่ย 26,000-90,000 บาท
#ทำไมบริษัทต้องการ ??
สายงานทั้งด้าน E-Commerce และด้าน Digital Marketing เรียกได้ว่า ทั้ง 2 สายงานนี้ เป็นสายงานที่มีการเติบโตเป็นอย่างมากในไทย เหตุผลก็มาจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของคนไทย
ไม่ว่าจะเป็นด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นประจำ การเลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการเสพสื่อผ่านโลกโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดเวลา ทำให้สายงานด้าน E-Commerce และ Digital Marketing บริษัท และหลายธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ๆในยุคนี้
สายงานด้าน E-Commerce หรือค้าขายออนไลน์ เป็นอีกสายงานที่มีความหลากหลาย และมีการพัฒนารูปแบบการใช้งานบริการอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการทำเนื้อหาบทความให้มีความน่าสนใจ การออกแบบเว็บไซต์สำหรับแต่ละอุปกรณ์ เช่น บนสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เพื่อทำ UX/UI ไปจนถึงทำแอพพลิเคชั่น
______________
#อันดับ3 โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)
- เงินเดือน/รายได้เฉลี่ย 28,000-150,000 บาท
#ทำไมบริษัทต้องการ ??
อีกสายงานนึงที่บริษัทต้องการมาอย่างต่อเนื่อง และด้วยความต้องการที่สูงในสายงานนี้ จึงมาพร้อมกับความจำเป็นที่จะต้องมีความเชี่ยวชาญ และควรจะมีประสบการณ์การทำงานในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้วย
ตั้งแต่การออกแบบ และการวางแผนในการทำระบบเครือข่ายพื้นฐาน (Network & System) ไปจนถึงการจัดการระบบ ทั้งระบบแบบ Hardware และ Software
______________
#อันดับ2 วิทยาการข้อมูล (Data Science)
- เงินเดือน/รายได้เฉลี่ย 30,000-180,000 บาท
#ทำไมบริษัทต้องการ ??
วนกลับมาเรื่องของข้อมูล หลังจากได้เห็นถึงความสำคัญของข้อมูลจากงานด้าน Database Management ในอันดับที่ 6 แล้ว ….
แต่ในสายงานนี้ อย่าง Data Science จะแตกต่างกว่าตรงที่มีความเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น เรียกกันว่า วิทยาการข้อมูล ซึ่ง Data Science จะมีหน้าที่ในการบริหาร และจัดการข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ หรือที่หลายๆคน เรียกว่า Big Data เพื่อนำข้อมูลไปใช้ให้ตอบโจทย์กับธุรกิจมากที่สุด
ซึ่งข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data ที่ว่า คือ มันเยอะมากแบบเยอะมากจริงๆมากเกินที่สมองมนุษย์จะสามารถวิเคราะห์ และจัดการกับมันได้…ทำให้สายงานนี้ นำไปสู่การใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ลงลึกเข้าไปอีก
ไม่ว่าจะเป็น Artificial Intelligence (AI), Machine Learning (ML), Deep Learning, การเขียนโค้ด (Coding) หรือภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และการทำ Business Development
______________
#อันดับ1 โปรแกรมเมอร์ และนักพัฒนา (Programmer & Developer)
- เงินเดือน/รายได้เฉลี่ย 25,000-135,000 บาท
#ทำไมบริษัทต้องการ ??
ปัจจุบัน ธุรกิจทั่วโลกต่างก็เร่งพัฒนาธุรกิจในมีความทันสมัย และที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุด ก็คือ ธุรกิจยุคดิจิทัลทั่วโลกมีความต้องการที่จะมีตั้งแต่เว็บไซต์, แอพพลิเคชั่น ไปจนถึงแพลตฟอร์ม และระบบที่เป็นของตัวเอง ฯลฯ
ซึ่งแน่นอนว่าการสร้างเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นจำเป็นต้องเพิ่งงานสายนี้เต็มๆ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า…ทำไมสายงานด้านนี้ จึงถูกจัดเป็นอันดับที่ 1 จาก 9 งานด้านคอมพิวเตอร์ ที่บริษัทต้องการมากที่สุด!!
____________________________
หรือหากใครสนใจอ่านแบบเต็มๆ เชิญทางนี่เลยฮะ http://bit.ly/9JobsComputerNOWASUCO
____________________________
แล้วคุณหละ??
ถนัดในสายงานด้านคอมพิวเตอร์ ตรงตามที่บริษัทต้องการหรือไม่...
ลอง comment, share หรือ tag หาเพื่อนมาร่วมงานด้วยกันดูสิ!!
____________________________
Source
+++ 9 อันดับ งานด้านคอมพิวเตอร์ IT ที่บริษัทต้องการมากที่สุด!! +++ - NOWASU
https://nowasu.co/…/08/14/9-jobs-computer-it-company-hiring/
9 อันดับแรงงานด้าน IT ที่ภาคธุรกิจต้องการ - Brand Inside
https://brandinside.asia/experis-research-9-jobs-it/
____________________________
บทความที่เกี่ยวข้อง
8 อาชีพมาแรง แซงทุกโค้ง ที่บริษัททั่วโลกต้องการ!! ภายในปี 2020
http://bit.ly/8Jobs2020NOWASUCO
5 งานด้านคอมพิวเตอร์ ที่เจ๋งที่สุด…และไม่ต้องเขียนโค้ด!!
http://bit.ly/5JobsComputerNOWASUCO
5 อาชีพอยู่รอด จากโลกยุค "หุ่นยนต์แย่งงานมนุษย์"
http://bit.ly/5JobsNOWASUCO
ทักษะที่บริษัทต้องการมากที่สุด ในปี 2019 จากข้อมูลของ LinkedIn พร้อมเหตุผล!!
http://bit.ly/SoftAndHardSkills2019NOWASUCO
9 ทักษะที่ควรมี ก่อนเรียนจบ เพื่อก้าวข้ามยุค "หุ่นยนต์ แย่งงาน"
http://bit.ly/9SkillsNOWASUCO
10 เทคโนโลยีใหม่ ที่จะเกิดขึ้นภายในปี 2019 และในอนาคต
http://bit.ly/Report10Tech2019NOWASUCO
8 เทรนด์ Digital Marketing มาแรง แซงทุกโค้ง ที่ควรนำมาใช้ ภายในปี 2019
http://bit.ly/8TrendsDigitalMarketingNOWASUCO
MIT Technology Review เผย 10 เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ในปี 2019 (Bill Gates ช่วยเลือก)
http://bit.ly/MITReport10TechNOWASUCO