明天2/28 (晚上七點半入場)要跟食蟻獸、The Pale blue dot在revolver 演出
the pale blue dot 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 的精選貼文
"The Pale Blue Dot"
วันวาเลนไทน์ของปี 1990 เมื่อสามสิบปีที่แล้ว ยานสำรวจอวกาศวอยเอเจอร์ได้สิ้นสุดภารกิจในการสำรวจดาวเคราะห์ในระบบสุริยะลง แต่ก่อนที่จะปิดกล้องบันทึกภาพไปอย่างถาวร imaging scientist ประจำโครงการวอยเอเจอร์ Carl Sagan ได้เสนอไอเดียให้หันกล้องกลับมาถ่าย "รูปครอบครัว" ของระบบสุริยะอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่บันทึกภาพนี้ไปเพียง 34 นาที กล้องถ่ายภาพของยานสำรวจอวกาศวอยเอเจอร์ 1 ได้หันมาบันทึกภาพนี้เอาไว้ ก่อนที่จะปิดทำการไปตลอดกาล
ในโอกาสที่ครบรอบ 30 ปี วิศวกรจาก JPL จึงได้นำภาพประวัติศาสตร์ภาพนี้ มาประมวลผลใหม่ด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลในปัจจุบัน ภาพที่ได้ก็คือภาพที่เห็นนี้
ภาพที่ได้ แสดงให้เห็นถึงแสงจากดวงอาทิตย์อันเจิดจ้า อยู่เลยขอบภาพด้านล่างไปนิดหนึ่ง ลำแสงที่สะท้อนไปมาภายในอุปกรณ์บันทึกภาพปรากฏเป็นลำแสงที่สาดส่องจากขอบล่างของภาพ ภายในลำแสงหนึ่งในนี้ ปรากฏเป็นเพียงจุดสีฟ้าๆ ที่จืดจาง จุดหนึ่ง อันเป็นที่มาของชื่อภาพว่า "The Pale Blue Dot"
จุดๆ นี้ ก็คือโลกของเรา
จากตำแหน่งอันห่างไกลของยานสำรวจอวกาศวอยเอเจอร์นี้ โลกของเราปรากฏเป็นเพียงจุดเพียงจุดหนึ่ง ขนาดปรากฏของโลกนั้นไม่กว้างใหญ่เพียงพอที่จะเติมให้เต็มถึงขนาดหนึ่งพิกเซลเสียด้วยซ้ำ ดังที่ Carl Sagan ได้เขียนเอาไว้ว่า
"ลองมองไปยังจุดนั้นอีกครั้งหนึ่ง นั่นคือที่ๆ เราอยู่ นั่นคือบ้านของเรา นั่นคือพวกเราทุกคน บนจุดเล็กๆ เพียงจุดนี้นั้นคือทุกคนที่คุณเคยรัก ทุกคนที่คุณรู้จัก ทุกคนที่คุณเคยได้ยิน มนุษย์ทุกคนที่เคยเกิดขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่บนจุดๆ นี้ ความสุข ความทุกข์ทรมาน ศาสนา ความเชื่อ ระบอบการปกครองนับพัน นักล่าทุกคน ฮีโร่ และคนขี้ขลาดทุกคน ผู้สร้างและผู้ทำลายอารยธรรมทุกคน กษัตริย์และไพร่ทุกคน คู่รักทุกคู่ พ่อ แม่ เด็กทารก นักประดิษฐ์ นักสำรวจ ครู นักการเมืองที่โกงกิน ดารานักร้อง ผู้นำ นักบุญ และคนบาปทุกคนในประวัติศาสตร์ของสปีชีส์ของเราอาศัยอยู่ที่นี่ ในเศษฝุ่นผงเพียงจุดเดียวที่ลอยอยู่ในลำแสงจากดวงอาทิตย์
โลกของเรานั้นเป็นเพียงเวทีเล็กๆ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ลองนึกถึงแม่น้ำสายเลือดที่ถูกหลั่งออกมาโดยเหล่าแม่ทัพและจักรพรรดิทั้งหลาย เพียงเพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถกล่าวอ้างถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเขา ที่ในชั่วเวลาหนึ่งพวกเขาได้ครอบครองอีกเศษเสี้ยวหนึ่งของจุดเพียงจุดหนึ่ง ลองนึกถึงเหล่าความโหดร้ายที่ผู้อาศัยในมุมหนึ่งของจุดๆ นี้ได้กระทำต่อผู้อาศัยในอีกมุมเล็กๆ อีกมุมหนึ่ง ลองนึกดูว่าพวกเขาเข้าใจผิดแก่กันบ่อยเพียงใด พวกเขากระหายที่จะฆ่ากันเพียงใด และความเกลียดชังของพวกเขานั้นแรงกล้าเพียงใด
ความอวดตน และมโนคติของเราว่าเรานั้นอยู่ในสถานะอันยิ่งใหญ่เพียงใดในเอกภพนี้ ถูกท้าทายโดยจุดเพียงเล็กๆ จุดนี้ ดาวเคราะห์ของเรานั้นเป็นดาวเคราะห์อันโดดเดี่ยวที่ถูกห้อมล้อมอยู่ในท่ามกลางจักรวาลอันมืดมิด ในความเวิ้งว้างนี้ ไม่มีสัญญาณใดที่บ่งบอกว่าจะมีความช่วยเหลือใดที่จะมาช่วยเราให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกเราเอง
โลกของเรานี้เป็นเพียงโลกเดียวที่เรารู้จักที่สามารถธำรงสิ่งมีชีวิตเอาไว้ได้ นอกจากโลกของเราแล้วไม่มีที่ใดที่เราจะสามารถอพยพไปได้อีกแล้วในอนาคตอันใกล้ เราอาจจะไปเยือนได้ แต่เรายังไม่สามารถตั้งถิ่นที่อยู่อาศัยได้ ข้อเท็จจริงก็คือ โลกของเราเป็นสถานที่สุดท้ายที่เราจะต้องอยู่ต่อไปให้จงได้
มีคนกล่าวว่าดาราศาสตร์เป็นประสบการณ์ที่เสริมสร้างบุคลิก และสอนให้เรารู้จักถ่อมตน อาจจะไม่มีการสาธิตใดที่บอกให้เราทราบว่าความทรนงของเรานั้นเปล่าประโยชน์เพียงใด ได้ดีไปกว่าภาพอันห่างไกลของโลกใบเล็กๆ ของเราภาพนี้ สำหรับผมแล้วภาพนี้มันช่วยเน้นให้เราเห็นถึงความรับผิดชอบที่เราควรจะมีต่อกันและกัน ที่จะคอยช่วยกันรักษา และอนุรักษ์จุดซีดๆ สีฟ้าเล็กๆ ที่เป็นบ้านแห่งเดียวที่เรารู้จักนี้เอาไว้"
ที่มา:
[1] https://www.jpl.nasa.gov/spaceimages/details.php?id=PIA23645&fbclid=IwAR1aac3haWp_SGsBc7sOuhmEd5KDJwa4LjbfiPj3Yi9VTIlK36P2-_h0HsA
[2] https://www.planetary.org/explore/space-topics/earth/pale-blue-dot.html
[3] วีดีโอ Pale Blue Dot บรรยายโดย Carl Sagan https://www.youtube.com/watch?v=GO5FwsblpT8
the pale blue dot 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 的最讚貼文
"The Pale Blue Dot"
วันวาเลนไทน์ของปี 1990 เมื่อสามสิบปีที่แล้ว ยานสำรวจอวกาศวอยเอเจอร์ได้สิ้นสุดภารกิจในการสำรวจดาวเคราะห์ในระบบสุริยะลง แต่ก่อนที่จะปิดกล้องบันทึกภาพไปอย่างถาวร imaging scientist ประจำโครงการวอยเอเจอร์ Carl Sagan ได้เสนอไอเดียให้หันกล้องกลับมาถ่าย "รูปครอบครัว" ของระบบสุริยะอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่บันทึกภาพนี้ไปเพียง 34 นาที กล้องถ่ายภาพของยานสำรวจอวกาศวอยเอเจอร์ 1 ได้หันมาบันทึกภาพนี้เอาไว้ ก่อนที่จะปิดทำการไปตลอดกาล
ในโอกาสที่ครบรอบ 30 ปี วิศวกรจาก JPL จึงได้นำภาพประวัติศาสตร์ภาพนี้ มาประมวลผลใหม่ด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลในปัจจุบัน ภาพที่ได้ก็คือภาพที่เห็นนี้
ภาพที่ได้ แสดงให้เห็นถึงแสงจากดวงอาทิตย์อันเจิดจ้า อยู่เลยขอบภาพด้านล่างไปนิดหนึ่ง ลำแสงที่สะท้อนไปมาภายในอุปกรณ์บันทึกภาพปรากฏเป็นลำแสงที่สาดส่องจากขอบล่างของภาพ ภายในลำแสงหนึ่งในนี้ ปรากฏเป็นเพียงจุดสีฟ้าๆ ที่จืดจาง จุดหนึ่ง อันเป็นที่มาของชื่อภาพว่า "The Pale Blue Dot"
จุดๆ นี้ ก็คือโลกของเรา
จากตำแหน่งอันห่างไกลของยานสำรวจอวกาศวอยเอเจอร์นี้ โลกของเราปรากฏเป็นเพียงจุดเพียงจุดหนึ่ง ขนาดปรากฏของโลกนั้นไม่กว้างใหญ่เพียงพอที่จะเติมให้เต็มถึงขนาดหนึ่งพิกเซลเสียด้วยซ้ำ ดังที่ Carl Sagan ได้เขียนเอาไว้ว่า
"ลองมองไปยังจุดนั้นอีกครั้งหนึ่ง นั่นคือที่ๆ เราอยู่ นั่นคือบ้านของเรา นั่นคือพวกเราทุกคน บนจุดเล็กๆ เพียงจุดนี้นั้นคือทุกคนที่คุณเคยรัก ทุกคนที่คุณรู้จัก ทุกคนที่คุณเคยได้ยิน มนุษย์ทุกคนที่เคยเกิดขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่บนจุดๆ นี้ ความสุข ความทุกข์ทรมาน ศาสนา ความเชื่อ ระบอบการปกครองนับพัน นักล่าทุกคน ฮีโร่ และคนขี้ขลาดทุกคน ผู้สร้างและผู้ทำลายอารยธรรมทุกคน กษัตริย์และไพร่ทุกคน คู่รักทุกคู่ พ่อ แม่ เด็กทารก นักประดิษฐ์ นักสำรวจ ครู นักการเมืองที่โกงกิน ดารานักร้อง ผู้นำ นักบุญ และคนบาปทุกคนในประวัติศาสตร์ของสปีชีส์ของเราอาศัยอยู่ที่นี่ ในเศษฝุ่นผงเพียงจุดเดียวที่ลอยอยู่ในลำแสงจากดวงอาทิตย์
โลกของเรานั้นเป็นเพียงเวทีเล็กๆ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ลองนึกถึงแม่น้ำสายเลือดที่ถูกหลั่งออกมาโดยเหล่าแม่ทัพและจักรพรรดิทั้งหลาย เพียงเพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถกล่าวอ้างถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเขา ที่ในชั่วเวลาหนึ่งพวกเขาได้ครอบครองอีกเศษเสี้ยวหนึ่งของจุดเพียงจุดหนึ่ง ลองนึกถึงเหล่าความโหดร้ายที่ผู้อาศัยในมุมหนึ่งของจุดๆ นี้ได้กระทำต่อผู้อาศัยในอีกมุมเล็กๆ อีกมุมหนึ่ง ลองนึกดูว่าพวกเขาเข้าใจผิดแก่กันบ่อยเพียงใด พวกเขากระหายที่จะฆ่ากันเพียงใด และความเกลียดชังของพวกเขานั้นแรงกล้าเพียงใด
ความอวดตน และมโนคติของเราว่าเรานั้นอยู่ในสถานะอันยิ่งใหญ่เพียงใดในเอกภพนี้ ถูกท้าทายโดยจุดเพียงเล็กๆ จุดนี้ ดาวเคราะห์ของเรานั้นเป็นดาวเคราะห์อันโดดเดี่ยวที่ถูกห้อมล้อมอยู่ในท่ามกลางจักรวาลอันมืดมิด ในความเวิ้งว้างนี้ ไม่มีสัญญาณใดที่บ่งบอกว่าจะมีความช่วยเหลือใดที่จะมาช่วยเราให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกเราเอง
โลกของเรานี้เป็นเพียงโลกเดียวที่เรารู้จักที่สามารถธำรงสิ่งมีชีวิตเอาไว้ได้ นอกจากโลกของเราแล้วไม่มีที่ใดที่เราจะสามารถอพยพไปได้อีกแล้วในอนาคตอันใกล้ เราอาจจะไปเยือนได้ แต่เรายังไม่สามารถตั้งถิ่นที่อยู่อาศัยได้ ข้อเท็จจริงก็คือ โลกของเราเป็นสถานที่สุดท้ายที่เราจะต้องอยู่ต่อไปให้จงได้
มีคนกล่าวว่าดาราศาสตร์เป็นประสบการณ์ที่เสริมสร้างบุคลิก และสอนให้เรารู้จักถ่อมตน อาจจะไม่มีการสาธิตใดที่บอกให้เราทราบว่าความทรนงของเรานั้นเปล่าประโยชน์เพียงใด ได้ดีไปกว่าภาพอันห่างไกลของโลกใบเล็กๆ ของเราภาพนี้ สำหรับผมแล้วภาพนี้มันช่วยเน้นให้เราเห็นถึงความรับผิดชอบที่เราควรจะมีต่อกันและกัน ที่จะคอยช่วยกันรักษา และอนุรักษ์จุดซีดๆ สีฟ้าเล็กๆ ที่เป็นบ้านแห่งเดียวที่เรารู้จักนี้เอาไว้"
ที่มา:
[1] https://www.jpl.nasa.gov/spaceimages/details.php…
[2] https://www.planetary.org/…/space-…/earth/pale-blue-dot.html
[3] วีดีโอ Pale Blue Dot บรรยายโดย Carl Sagan https://www.youtube.com/watch?v=GO5FwsblpT8