ไม่ว่าคุณจะเปล่งวาจาอะไรออกไป
คำพูดเหล่านั้นล้วนคือ ประกาศิต
.
วาจา ความคิด อารมณ์
คือ คาถาที่จะสะกดจักรวาลให้ทำงานเพื่อคุณ
.
ในทุกๆ พลังงาน จักรวาลจะขานรับเสมอ
ไม่ว่าพลังงานจะดี หรือเลว
.
จักรวาลจะขานตอบ และส่งสิ่งที่คุณร้องขอมาให้เสมอ
แม่นยำ ชัดเจน ไม่บิดพริ้ว
.
และไม่ต้องแปลกใจ ว่าทำไมจักรวาลส่งสิ่งแย่ๆ มาให้
ก็ในเมื่อคุณได้สั่งจักรวาลไปด้วยพลังงานแย่ๆของคุณเอง
ด้วยรัก
ครูแอ้
Queen of Love & Wealth attraction
#แชร์liveช่วยชีวิต
#โค้ชความรัก #กฎแรงดึงดูด #กฎจักรวาลแห่งความมั่งคั่ง #คอร์สพัฒนาความสัมพันธ์
สนใจคอร์สออนไลน์ หรือ โค้ชส่วนตัว inbox ได้ค่ะ
#คอร์สเนรมิตความรักด้วยกฎแรงดึงดูด
#คอร์สฉันคือเทพีแห่งความรัก
#คอร์สไพ่ทาโร่ท์เงินล้าน
#คอร์ส21วันมหัศจรรย์ชีวิต
#คอร์ส9มงคลกฎแรงดึงดูด
#คอร์สDNAเศรษฐี
#คอร์สจิตจักรวาลแห่งความมั่งคั่ง
#คอร์สสร้างตัวตนออนไลน์
#โค้ชส่วนตัว #SVIP
.
ช่องทางการติดต่อ
Line : https://lin.ee/1mc4HMd7P หรือ @mentorkasina
Website : https://www.mentorkasina.com
Facebook : https://www.facebook.com/mentorkasina
IG : https://www.instagram.com/mentorkasina
Twitter : https://twitter.com/mentorkasina
YouTube : http://www.youtube.com/c/MentorKasina
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSgeh7Gr/
เพจสอนคอนเทนท์ การหาเงินออนไลน์ การสร้างตัวตน และธุรกิจในโลกออนไลน์ คลิก ครูแอ้ กสิณา สอนวิชา เพจทำเงิน - Kru Aer - Online marketing expert
............
#lifecoach #positivethinking #ดวงดี24ชั่วโมง #กฎแรงดึงดูด #ครูแอ้
#ถ้าเห็นโพสต์นี้เป็นประโยชน์ช่วยกันแชร์ด้วยนะคะ
----------------------------------------------------------
ที่ปรึกษา'ชีวิต'โดยใช้ศาสตร์ Coaching และ กฎแรงดึงดูด
----------------------------------------------------------
#ปัญหา // #ความรัก // #การงาน // #ครอบครัว // #ขาดกำลังใจ
// #ค้นหาความสุข // #ค้นหาตัวเอง / #อกหักทำไงดี #อยากมีแฟน #ทำไงให้คนมารัก #วิธีสร้างเสน่ห์ #ปัญหาความสัมพันธ์ #รักไม่สมหวัง #อยากมีคนรักดีๆ #อยากมีแฟนดี
#ครูแอ้ #ดึงดูดความรัก #ดึงดูดความมั่งคั่ง #กฏแรงดึงดูด #กฎจักรวาล #โค้ชความรัก
同時也有164部Youtube影片,追蹤數超過6萬的網紅HealthyChill เฮลตี้สายชิล,也在其Youtube影片中提到,#ครอสออนไลน์# สนใจครอส Eat Chill กินแล้วผอม สอบถาม สมัครเรียน Line@ : @healthychill (มี@ด้านหน้านะคะ) https://lin.ee/rQpDMRp ติดต่องานสปอนเซอร์/ วิท...
「กฎจักรวาล」的推薦目錄:
- 關於กฎจักรวาล 在 ครูแอ้ กสิณา สอนวิชาความรัก ความสุข เนรมิตชีวิต Facebook 的最佳貼文
- 關於กฎจักรวาล 在 สมองไหล Facebook 的最讚貼文
- 關於กฎจักรวาล 在 ครูแอ้ กสิณา สอนวิชาความรัก ความสุข เนรมิตชีวิต Facebook 的最佳解答
- 關於กฎจักรวาล 在 HealthyChill เฮลตี้สายชิล Youtube 的精選貼文
- 關於กฎจักรวาล 在 HealthyChill เฮลตี้สายชิล Youtube 的最佳貼文
- 關於กฎจักรวาล 在 HealthyChill เฮลตี้สายชิล Youtube 的最讚貼文
- 關於กฎจักรวาล 在 ดึงพลังจักรวาล กฎแรงดึงดูด ให้ส่งเสริมชีวิตคุณให้ประสบความสำเร็จ 的評價
- 關於กฎจักรวาล 在 3 กฎจักรวาล ที่จะทำให้ชีวิตคุณรุ่งโรจน์ | Bundit Ungrangsee 的評價
- 關於กฎจักรวาล 在 2 กฎจักรวาล บันดาลโชคดี | Bundit Ungrangsee - YouTube 的評價
- 關於กฎจักรวาล 在 วิธีใช้กฎแรงดึงดูดของเศรษฐี(ดึงดูดความร่ำรวย!) | EP96 - YouTube 的評價
- 關於กฎจักรวาล 在 สรุป 3 ขั้นตอน ใช้กฎแรงดึงดูด ให้ได้ผล - YouTube 的評價
- 關於กฎจักรวาล 在 บัณฑิต อึ้งรังษี ถ้าคุณเข้าใจกฎแห่งจักรวาล - YouTube 的評價
- 關於กฎจักรวาล 在 พลังวิเศษ...ในตัวคุณ (ตอนที่1 กฎแห่งแรงดึงดูดคืออะไร?) - YouTube 的評價
- 關於กฎจักรวาล 在 #กฎจักรวาล - Explore | Facebook 的評價
- 關於กฎจักรวาล 在 กฎแห่งแรงดึงดูดจักรวาล的推薦,YOUTUBE和 網路上有這些評價 的評價
กฎจักรวาล 在 สมองไหล Facebook 的最讚貼文
ปีนี้เป็นปีที่ผมเริ่มอ่านหนังสือมาได้ประมาณ 2 ปี และเป็นปีที่การอ่านที่ผมฟูมฟักมาตลอดได้ผลิดอกออกผลมากที่สุด แถมยังเป็นปีที่ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงแบบขึ้นสุดลงสุดอีกด้วย แทบไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่า จากคนที่ทำงานประจำ ธุรกิจโรงเรียนสอนเทควันโดที่ทำอยู่ก็ลุ่มๆ ดอนๆ และมีชีวิตที่ไร้จุดหมายเมื่อช่วงต้นปี กลับกลายเป็นคนที่เติบโตแบบก้าวกระโดดจนมีเป้าหมายมากมายให้ท้าทายตัวเองเต็มไปหมดในช่วงท้ายปี
.
และนี่คือบทสรุป 14 ข้อที่ ผมได้เรียนรู้ในปี 2020
.
1) อ่านหนังสือน้อยกว่าปีที่แล้ว 3 เท่า
.
ปีที่แล้วผมอ่านหนังสือไป 42 เล่ม แต่ปีนี้ ผมอ่านไปได้ 19 เล่ม โดยอ่านจบ ไปเพียง 14 เล่มเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยกว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่า เฉลี่ยผมอ่านได้เพียงเดือนละประมาณ 1 เล่ม นิดๆ เท่านั้น
.
ด้วยความที่ปีนี้ผมอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาหนักกว่าปีที่แล้วมากพอสมควร และเน้นไปทางหนังสือธุรกิจค่อนข้างเยอะ นั่นจึงทำให้ผมอ่านได้ช้าลงกว่าเดิม เพราะจากที่เคยอ่านจบแล้วผ่านไป แต่ปีนี้ผมอ่านแล้วขีดไฮไลท์ส่วนสำคัญ แล้วนำมันออกมาวิเคราะห์กับสถานการณ์ที่เจอในชีวิตจริง นำไปถกประเด็นกับคนที่รู้จัก แล้วเขียนมันออกมาลงเพจเพื่อให้คนอื่นได้นำไปใช้ประโยชน์อีกที
.
อีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างคือ จากเดิมผมอ่านหนังสือให้จบเป็นเล่มๆ กลายเป็นอ่านพร้อมกัน 3-4 เล่ม เพราะผมต้องทำคอนเทนต์มากกว่าปีก่อน จึงต้องอ่านอะไรที่หลากหลายขึ้น โดยจะวางหนังสือไว้ตามที่ต่างๆ ตามความเหมาะสม เล่มไหนเป็นบทสั้นๆ อ่านจบบทได้เร็วก็จะวางไว้ในห้องน้ำ หรือ ติดตัวไว้อ่านเวลาเดินทาง ส่วนเล่มไหนที่หนักๆ แนวเจาะลึก ต้องใช้เวลาอ่านมากๆ ก็จะวางไว้ที่โต๊ะทำงานและหัวเตียง
.
ที่สำคัญเล่มไหนเขียนไม่ค่อยดี น้ำเยอะ วกไปวนมา ผมจะปิดทันที แล้วเปลี่ยนไปอ่านเล่มอื่นเลย จึงมีบางเล่มที่ผมอ่านไม่จบ จากเดิมที่จะฝืนทนอ่านจนจบ เพราะซื้อมาราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ แต่ถ้าอ่านไม่จบจะรู้สึกแปลกๆ แต่ปีนี้ “เวลา” เป็นของที่ราคาเเพงมากสำหรับผม ผมจึงจะไม่เสียเวลากับอะไรที่ไม่สำคัญกับชีวิต
.
จะเห็นว่าปริมาณ Input ของผมในปีนี้อาจจะน้อยกว่าปีที่แล้ว 3 เท่าก็จริง แต่ปริมาณในการ Out put ของผมนั้นมากกว่าปีที่แล้วมากกว่า 3 เท่าด้วยซ้ำ
.
สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคือ ไม่อยากให้เราไปยึดติดว่ายิ่งอ่านเยอะ ยิ่งดี เพราะความจริงแล้วผลสัมฤทธิ์ ของการอ่านไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราอ่านไปมากเท่าไหร่ แต่มันอยู่ที่ว่าเรานำมันออกมาใช้งานจริงได้มากแค่ไหนต่างหาก
.
2) เปิดหนังสือ = เปิดโอกาส
.
ต้องบอกว่าโอกาสที่ผมได้รับในปีนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ มาจากการอ่านหนังสือทั้งสิ้น นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ได้ไปออกรายการโหนกระแสทางช่อง 3 ก็เกิดจากการอ่านแล้วเขียนบทความลงเพจ จนคุณหนุ่ม กรรชัย เชิญไปออกรายการ
.
เมื่อเพจเริ่มโตในระดับหนึ่ง ช่วงกลางปีผมก็เริ่มขายหนังสือออนไลน์ทำให้มีรายได้หลักล้าน จากที่ไม่มีแม้แต่เงินเก็บ จนผมสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวและวางแผนลงทุนในธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นต่อได้ในปีหน้าได้
.
พอขายหนังสือไปสักพักก็เริ่มรู้จักคนในวงการหนังสือมากมาย เช่น พี่ปิ๊ก ผู้เขียนหนังสือวิชาธุรกิจ ที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน, โค้ชแบงค์ เจ้าของเพจรู้รอบตอบโจทย์ธุรกิจ ผู้เขียน หนังสือรู้แค่นี้ขายดีทุกอย่าง ตลอดจนสำนักพิมพ์ต่างๆ จนในที่สุดผมก็ได้รับโอกาสให้ได้เขียนหนังสือเล่มแรกของตัวเองในปีนี้ และได้มีโอกาสอื่นๆ เข้ามากมาย ทั้งงานที่ปรึกษา วิทยากร ไปจนถึงอาจารย์มหาวิทยาลัย
.
นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าการอ่านหนังสือไม่ใช่แค่ได้ความรู้ แต่มันคือการเปิดโอกาสดีๆ ให้เข้ามาในชีวิต ลองคิดดูว่าถ้าคนไทยอ่านหนังสือมากขึ้นเหมือนประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทยของเราจะพัฒนาไปได้มากขนาดไหน และนี่แหละคือ เหตุผลที่ผมทำเพจนี้ขึ้นมา
.
3) แรงบันดาลใจทำให้คุณเริ่มต้น แต่ความสม่ำเสมอทำให้คุณสำเร็จ
.
ตลอดระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่ผมทำเพจมา ปีนี้เป็นปีที่เพจสมองไหลเติบโตแบบก้าวกระโดดมากๆ จากผู้ติดตาม 1,000 คน เมื่อช่วงต้นปี ก็ทะยานขึ้นเป็น 250,000 คน
.
หลายคนเข้ามาถามผมว่าจะหาแรงบันดาลใจในการทำสิ่งต่างๆ จากหนังสือเล่มไหนได้บ้าง อยากจะทำเพจให้ประสบความสำเร็จบ้าง มีเคล็ดลับยังไง มีไอเดียธุรกิจมากมายเต็มไปหมด แต่ยังไม่ได้เริ่มทำสักที พอจะมีหนังสือเล่มไหนทำให้ตัวเองลงมือทำได้บ้าง
.
สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ 100 ความฝัน ก็ไม่มีค่าเท่า 1 การลงมือทำ ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากแรงบันดาลใจ เพราะแรงบันดาลใจทำให้เราเริ่มต้นเท่านั้น มันเหมือนลม แค่พัดมาแล้วก็ผ่านไป แต่สิ่งที่จะวัดว่าเราจะสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน คือ ความสม่ำเสมอ ต่างหาก
.
กว่าเพจผมจะโตแบบก้าวกระโดดได้ ผมต้องเขียนบทความทุกวันรวมกันมากกว่า 300 บทความ โดยมีคนกดไลค์ไม่ถึง 50 แชร์ไม่ถึง 10 ตลอดเกือบ 1 ปี ผ่านการเรียนรู้ ทดลอง ปรับใหม่ กว่าจะมีบทความนึงที่อยู่ๆ มันก็เป็นไวรัลและทำให้ฐานผู้ติดตามเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจาก 3,000 คน เป็น 20,000 คน
.
ฉะนั้น ไม่ใช่ว่าคุณทำออกมายังไม่ถึง 5 คอนเทนต์ แล้วมาบอกว่าทำไมมันไม่มีคนดูไม่ได้คนสนใจ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำออกมาอย่างสม่ำเสมอและพิสูจน์ให้คนดูเห็นเลยว่าคุณคือของจริง แล้วก็มาตามหาเคล็ดลับทางลัดสู่ความสำเร็จ
.
มันไม่มีหรอกครับ เพราะถ้าคุณศึกษาคนที่สำเร็จจริงๆ แทบไม่มีเลยที่เขาทำอะไรสำเร็จภายในวันสองวัน แม้แต่ผลวิจัยในหนังสือ ORIGINASL ก็ยังบอกว่าคนที่สำเร็จไม่ได้เก่งไปกว่าคนทั่วไปเลย เพียงแต่เขาผลิตผลงานออกมาในปริมาณมากกว่าคนอื่นต่างหาก
.
มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเคยสอนผมว่า เวลาจะลงทุนกับใคร อย่าลงทุนคนที่มีแพชชั่นมาก แต่ให้ลงทุนกับคนที่ยังลงมือทำสิ่งนั้นอยู่แม้ว่าแพชชั่นจะหมดไปแล้วก็ตาม
.
4) จงเชื่อใน “กระบวนการ” ไม่ใช่ “ผลลัพธ์”
.
ปีนี้เรียกได้ว่าคนไทยเจอเรื่องหนักๆ มาเยอะ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ โรคระบาด สิ่งที่ขายดิบขายดีในปีนี้จึงเป็นพวกของขลัง ของให้โชค หรือ กฎจักรวาล เราจะเห็นข่าวคนโดนหลอกจากของพวกนี้ค่อนข้างเยอะ
.
นั่นก็เพราะคนส่วนใหญ่หวังจะรวยด้วยการข้ามขั้นไปหา “ผลลัพธ์” โดยไม่ได้สนใจเรื่อง “กระบวนการ” เลย
.
มีลูกเพจหลายคนทักเข้ามาหาผมว่าทำยังไงถึงจะรวยขึ้น ก็ทำตามกฎแรงดึงดูดและกฎจักรวาลทุกอย่าง ก็พูดกับตัวเองทุกวันนะว่า ฉันรักเงิน เงินรักฉัน แต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง
.
ผมจึงถามกลับไปว่า เวลาคุณแอบชอบใครสักคน คุณบอกกับตัวเองว่า ฉันรักเขา เขารักฉัน แต่ไม่ได้ทำตัวให้คู่ควรกับเขา เขาจะหันมารักคุณไหม
.
นั่นก็เพราะไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ผ่าน “กระบวนการ”
.
กว่าใครสักคนจะหันมาชอบเรา เราอาจจะต้องแกล้งเดินผ่านไปให้เขาเห็นหน้าบ่อยๆ คิดมุขเด็ดๆ ไปหยอดใส่เขา ค่อยๆ หาช่องทางติดต่อ จนได้คุยกันทุกวัน กว่าใครสักคนจะใจอ่อนมาสนใจเรา
.
เช่นกัน การทำเงินมันก็ต้องมีกระบวนการของมัน คุณต้องหาความรู้ วางแผนการเงิน ทดลองลงมือทำ ทำการตลาด จนกว่าจะได้สิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้า และได้เงินตอบแทนกลับมาเป็นผลพลอยได้
.
เมื่อคุณทำตัวให้คู่ควรกับเงิน เงินถึงจะเข้ามาหาคุณ ไม่ต้องไปขอจักรวาล ขอแค่ใส่ใจ “กระบวนการ” แล้วมันจะตามมาเอง
.
5) ความโชคดีเกิดจาก “กระบวนการ”
.
ผมเป็นคนชอบดูฟุตบอล และสิ่งที่คนมักพูดกันในวงการคือ การจะเป็นแชมป์ได้นั้น เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีโชคด้วย
.
อย่างไรก็ตาม โชคจะเข้าข้างคนที่พยายามเท่านั้น
.
กล่าวคือ นักฟุตบอลจะต้องพยายามเอาลูกฟุตบอลเข้าไปใกล้ประตูของคู่แข่งให้มากที่สุด พยายามยิงประตูให้มากที่สุดก่อน พอถึงตรงมันอาจจะมีโชคเข้ามา เช่น คู่แข่งส่งบอลพลาด เตะไปเตะมาไปโดนคู่แข่งเข้าประตูตัวเอง หรือ ไม่ก็เตะบอลโด่งๆ ไปเข้าหัวใครสักคนโหม่งเข้าประตูได้ .
.
ทุกอย่างมันเกิดจาก “กระบวนการ”
.
ถ้านักฟุตบอลลงไปเตะบอลในสนามแล้วไม่ยอมเตะบอลเลย คุณจะชนะได้ไหม คำตอบคือ “ไม่”
.
เช่นกัน ถ้าคุณอยู่เฉยๆ รอโชค มันก็ไม่ต่างกับนักฟุตบอลที่ลงไปยืนในสนามเฉยๆ แล้วหวังว่าลูกฟุตบอลมันจะลอยเข้าประตูฝั่งตรงข้ามเอง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้
.
ผมอาจจะโชคดีที่ทำเพจอยู่ดีๆ คุณหนุ่ม กรรชัยก็เชิญไปออกรายการ ผมอาจจะโชคดีที่เขียนบทความไปอยู่ๆ มันก็เป็นไวรัล ผมอาจจะโชคดีที่เพจดันมาโตเอาช่วงโควิด-19 ทำให้เกิดรายได้มากมาย ผมอาจจะโชคดีที่ได้เจอคนในวงการหนังสือทำให้มีคอนเนกชั่นในการทำธุรกิจและเขียนหนังสือ
.
แต่คำถาม คือ ถ้าผมไม่พยายามเขียนบทความทุกวัน คุณหนุ่ม กรรชัย จะผ่านมาเห็นไหม แล้วคนจะแชร์เป็นไวรัลไหม มันจะเกิดรายได้ไหม แล้วถ้าผมไม่ทดลองขายหนังสือจะได้เจอนักเขียน จนได้ออกหนังสือของตัวเองไหม
.
จริงอยู่ ที่ความสำเร็จมันต้องอาศัย “โชค” ช่วยด้วย แต่โชคมัน คือ ตะกอน ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการ เท่านั้น ไม่มีทางที่มันจะเกิดขึ้นได้จากการนั่งรอมันเฉยๆ
.
6) ความเปลี่ยนเเปลง ทำให้เจอหนทางใหม่
.
ปีนี้เป็นปีที่เกิดความเปลี่ยนแปลงเยอะมาก และมันคือ สิ่งที่ทำให้ผมพบเจอหนทางใหม่ หลักๆ เลยคือ โควิด-19 ที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิต อะไรที่เคยคิดว่ามันคงไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ก็เกิดขึ้น
.
อย่างการ Work from home ซึ่งทำให้ผมได้หัดไปซื้อของสดมาทำกับข้าวกินเอง แรกๆ ก็กินไม่ค่อยได้ แต่ทำไปสักพักฝีมือก็ดีขึ้น แต่ที่รู้ๆ คือ เงินในกระเป๋าเหลือเกือบครึ่งนึงเลย
.
และ Work from home ก็ทำให้ผมได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ประกอบกับข้อคิดใน “หนังสือใครเอาเนยแข็งของฉันไป” ที่บอกว่า เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลง คุณมีทางเลือก 2 ทาง คือ โทษสิ่งที่เกิดขึ้นกับว่ามันไม่ยุติธรรม กับ ถามตัวเองว่ามีทางไหนที่ทำให้เราดีขึ้นกว่านี้
.
ผมจึงฉุกคิดได้ว่ามันไม่มีอะไรแน่นอน งานประจำที่ว่าแน่นอนก็ไม่แน่นอน เพราะเห็นคนมากมายที่ตกงาน และเราก็ไม่รู้เลยว่ามันจะมาถึงเราเมื่อไหร่
.
โควิด-19 ได้เข้ามาเขย่าผมอย่างแรง ให้ผมต้องคิดทำอะไรสักอย่าง จนทดลองทำงานเสริม จนวันนี้รายได้มันแซงงานประจำ 5 เท่า และกลายเป็นรายได้หลักไปแล้ว
.
7) จงเปลี่ยน ก่อนที่ถูกเปลี่ยน
.
บทเรียนจากโควิด-19 ทำให้ผมตื่นตัวกับความเปลี่ยนแปลงมากพอสมควร จากที่เคยเฉื่อยชากับความเป็นไป กลายเป็นสังเกตสถานการณ์และเปลี่ยนแปลงตัวเองมาโดยตลอด
.
จากเดิมที่ผมโดนเขย่าให้ทำอะไรสักอย่าง จนเกิดเป็นธุรกิจใหม่ที่ทำเงินได้มากกว่าเดิม 5 เท่าแล้ว คราวนี้ผมไม่รอให้สถานการณ์มันเขย่าผมก่อนอีกแล้ว เมื่อผมสร้างความสำเร็จอะไรอยู่ตัวระดับหนึ่งแล้ว ผมจะหาทำอย่างอื่น เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองยิ่งขึ้นไปอีก
.
พอธุรกิจขายหนังสือเริ่มอยู่ตัว ผมก็เริ่มมองหาทำอย่างอื่น ก็คือ การเขียนหนังสือเป็นของตัวเอง เริ่มศึกษาเรื่องการสร้าง Personal Branding พาร์ทเนอร์กับบริษัทอื่นในการทำสื่อ เริ่มวางโครงสร้างคอร์สเรียนตามคำเรียกร้องของลูกเพจ มองหาธุรกิจที่จะลงทุนต่อไป ซึ่งตอนนี้ก็มีแผนจะกระโดดไปทำธุรกิจกาแฟในปีหน้า และอื่นๆ อีกมากมาย
.
เพราะผมมองว่าเราควรเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก่อนที่จะโดนบีบให้เปลี่ยนแปลง เพราะการทำอะไรในสถานการณ์ที่กินอิ่มนอนหลับ มันเหนื่อยน้อยกว่ากันเยอะ แถมผลลัพธ์ที่ได้จากความเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเองก็มักจะออกมาดีกว่าอีกด้วย
.
เหมือนอย่างที่หนังสือ “หนังสือใครเอาเนยแข็งของฉันไป” บอกไว้ว่า จงสังเกตเนยแข็งของตัวเองอยู่เสมอว่ามันลดน้อยลงหรือเปล่า หรือ มันเริ่มขึ้นราหรือยัง และจงสำรวจเพื่อมองหาเนยแข็งใหม่ๆ อยู่เสมอ ก่อนที่จะมีใครมาเอาเนยแข็งของฉันไป
.
8.) ไม่ว่าจะทำงานประจำ หรือ ธุรกิจ ก็รอวันหยุดเหมือนกัน แต่รอในมุมมองที่ต่างกัน
.
ช่วงที่ทำงานประจำผมเองก็เหมือนคนทั่วไป ที่ไม่ชอบวันจันทร์ และ โหยหาวันหยุด ยิ่งพอช่วงใกล้วันหยุดทีไร ใจนี่ลอยไปไหนต่อไหนแล้ว
.
แต่หลังจากที่ผมลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจ ผมค้นพบว่า ผมก็ยังรอวันหยุดเหมือนกัน แต่เปลี่ยนจากรอเพื่อหยุดงาน เป็นรอทำงาน เพราะวันหยุดคือวันที่ลูกค้ามีเวลาให้เรามากที่สุด และเป็นวันที่ยอดขายจะมากกว่าวันธรรมดา ผมจึงชอบวันหยุดในเวอร์ชั่นนี้มากๆ เลย
.
พอได้ออกมาทำธุรกิจเต็มตัว จะพบเลยว่าเราแทบไม่มีวันหยุด เพราะจริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ากำลังทำงานอยู่แล้ว แต่รู้สึกว่ากำลังพัฒนาตัวเองอยู่มากกว่า
.
แต่ก็ใช่ว่าเราจะหักโหมตัวเองอะไรขนาดนั้น เราอาจจะไม่หยุดงานก็จริง แต่เรายืดหยุ่นงานได้เอง คือ ถ้าช่วงไหนงานเยอะ ก็ไปปรับเวลาในอีกช่วงให้ทำงานน้อยลง เวลาจะไปเที่ยวต่างจังหวัดก็เลือกวันที่คนทั่วไปเขาไม่ไปเที่ยวกัน จึงทำให้ถนนก็โล่ง เดินทางสะดวกขึ้น ประหยัดเวลาไปได้ก็เยอะเลย
.
คือ พอมาทำธุรกิจ ไม่ใช่เวลามีเวลาว่างกว่าเดิมหรอก จริงๆ งานยุ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ บางทีลาหยุดไปแบบตัดขาดจากงานแทบไม่ได้เลย เพราะช่วงเริ่มต้นตัวเราจะเหมือนฟันเฟืองที่ทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าไม่มีเราธุรกิจก็ไม่เดิน แต่สิ่งที่แตกต่างคือ มันสามารถยืดหยุ่นเวลาเองได้เท่านั้นเอง
.
9) ออนไลน์ คือ เลนด่วน แห่งการสร้างตัว
.
วันก่อนผมนั่งคุยกับรุ่นพี่คณะเดียวกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยผมเป็นรุ่นน้องเขา 2 รุ่น ระหว่างที่นั่งคุยกันรุ่นพี่คนนี้ก็เอ้ยปากขึ้นมาว่า “เอ็งนี่วิ่งไวเหมือนกันนะ เรียนจบมาแค่ 1 ปีเอง อย่าว่าแต่กับรุ่นเดียวกันเลย เอ็งวิ่งแซงรุ่นพี่หลายคนไปไกลมาก”
.
ทันทีที่ผมได้ยินคำนี้จากรุ่นพี่ ผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองวิ่งไวกว่าคนทั่วไป มันจึงทำให้ผมนึกถึงคอนเซ็ปของหนังสือ The millionaire fastlane ที่เขียนโดย MJ DeMarco ว่าด้วยการเดินทางสู่ความมั่งคั่งขึ้นอยู่กับ ถนนหรือเส้นทางที่เราเลือกใช้ ว่ามันเป็น เลนช้า หรือ เลนด่วน
.
ส่วนตัวผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองสามารถวิ่งได้เร็วกว่าคนอื่นแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ทำให้ผมไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าใครคือการวิ่งอยู่บนถนน “ทางด่วน” ซึ่งทางด่วนที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ในยุคนี้ ก็คือ “ออนไลน์”
.
ออนไลน์ คือ เครื่องมือที่ทำให้ผมสามารถทำเงินได้เทียบเท่ากับการทำงานประจำ 1 ปี ได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน และทำให้ผมมีเงินเก็บเทียบเท่าการออมตลอด 10 ปี ได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลลัพธ์แค่ช่วงเริ่มต้นเพียง 1 ปี เท่านั้น ยังไม่นับรวมอัตราเร่งจากการเติบโตที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
.
พูดง่ายๆ คือ ผมตื่นนอนมายังไม่ทันไปล้างหน้า ตอบแชทลูกค้านิดหน่อยระหว่างกำลังนั่งบนชักโครก อยู่ๆ เงินก็เข้าบัญชีแล้ว
.
ออนไลน์ ทำให้ผมเรียนรู้ว่า เงินไม่ได้หายาก เพราะเงินมันลอยอยู่ในอากาศ อยู่ที่ว่าใครจะมองเห็นมัน
.
10) อย่าโฟกัสที่ “เงิน”
.
คุณไม่มีทางได้รับอะไรจากผู้คน ถ้าคุณยังไม่รู้จักเป็นผู้ให้มากพอ หลายคนเข้ามาปรึกษาผมว่าอยากทำเพจอยากสร้างตัวตนให้ดังทำยังไง ผมจึงถามกลับไปว่า อยากดังเพื่ออะไร คำตอบที่มักได้กลับมาคือ สร้างรายได้ เพราะเห็นว่าออนไลน์ได้เงินง่าย
.
ผมก็จะตอบกลับไปว่า คุณไม่มีทางทำสำเร็จ ถ้าเอาแต่โฟกัสว่าจะเอาอะไรจากคนอื่น โดยไม่คิดจะให้หรือแก้ปัญหาให้ใคร
.
ลองคิดดูว่าเวลามีคนมาขายของ แล้วพยายามจะขายให้ได้เพื่อบีบให้เราจ่ายเงิน เราจะอยากให้เงินเขาไหม คำตอบคือ ไม่ แถมยังอึดอัดอีกต่างหาก
.
เหมือนเวลาคุณไปหาหมอ เมื่อหมอรักษาคุณได้ คุณก็ยินดีจ่ายเงินให้หมอ แถมยังกล่าวขอบคุณหมออีกต่างหาก
.
ทุกวันนี้เป้าหมายธุรกิจของผมไม่ใช่ยอดขาย แต่คือ ยอดการแก้ปัญหา เวลามีคนเข้ามาปรึกษา ผมก็จะพยายามแก้ปัญหา แนะแนวทาง และช่วยหาทางออกให้เขาก่อน แล้วค่อยบอกว่าหนังสือเล่มไหนที่จะช่วยเขาได้
.
คือ ผมขายวิธีแก้ปัญหาโดยมีหนังสือเป็นเครื่องมือ เหมือนคลินิกที่จ่ายยาเป็นหนังสือ คือ โฟกัสที่ปัญหาแล้วหาหนังสือที่แก้ได้มาให้เขา บางปัญหาหนังสือแก้ไม่ได้ผมก็แนะนำให้ใช้อย่างอื่นแทน ไม่ได้บอกว่าต้องซื้อจากผมอย่างเดียว
.
สิ่งที่ได้กลับมา คือ ลูกค้ายินดีจ่ายเงินให้ แถมเต็มใจที่จะซื้อราคาเต็ม โดยที่ผมไม่ต้องลดราคาเลย บางคนถึงขนาดโอนเงินเกินมาด้วยซ้ำ แถมยังขอบคุณผมอีกต่างหาก
.
ฉะนั้น ไม่ว่าจะทำอะไร อย่าโฟกัสว่าจะเอาเงินจากใคร แต่โฟกัสที่การแก้ปัญหาให้ผู้คน ส่วนเงินให้คิดเสียว่ามันคือผลพลอยได้ที่จะตามมาเอง
.
11) เป็นปีที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมากเท่าที่ควร
.
ด้วยความที่ปีนี้ผมโฟกัสเรื่องงาน และ การสร้างเนื้อสร้างตัวมากๆ จึงทำให้ผมมีเวลาให้กับครอบครัวน้อยมาก กลับไปบ้านเยี่ยมบ้านเกิดน้อยลง คุยกับพ่อแม่พี่น้องและคนรักน้อยลง ส่วนตัวก็รู้ตัวเอง แต่มันก็ยากมากที่จะปลีกตัว แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าปีหน้าจะทำให้ดีกว่านี้
.
12) ยิ่งให้ ยิ่งได้
.
นี่คือสิ่งที่ผมเชื่อมาตลอดสมัยผมสอนเทควันโด ตอนยังเรียนปี 1 ผมเคยให้เด็กคนหนึ่งเรียนเทควันโดฟรี เพราะพ่อของเขาประสบอุบัติเหตุไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเรียนได้ ผมจึงให้เขาเรียนฟรีจนกว่าพ่อจะหาย
.
หลังจากนั้นไม่เกิน 1 เดือน ก็มีคนมาสมัครเรียนกับผมมากมาย จากมีนักเรียนแค่ 5 คน ตลอด 1 ปี หลายเป็น 30 คน อย่างรวดเร็วภายใน 1 เดือน
.
ปีนี้ก็เช่นกัน เมื่อผมทำเงินได้มากขึ้น สิ่งที่ผมทำคือ การบริจาคหนังสือให้กับโรงเรียน สถานพินิจ และ คนด้อยโอกาส เพราะผมมองว่าถ้าบริจาคเงิน มันคือสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป แต่การให้ความรู้คือสิ่งที่เขาจะนำไปใช้สร้างเงินได้
.
รวมถึงผู้คนรอบข้างผมก็จะให้ก่อนเสมอ และให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ผมได้กลับมามันมากมายมหาศาลกว่าที่ให้ไปหลายเท่า โดยที่ผมไม่ต้องร้องขอเลย
.
13) การวางแผนเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องพร้อมยืดหยุ่นเสมอ
.
ปีนี้ทำให้ผมเรียนรู้ว่าต่อให้เราวางแผนไว้ดีแค่ไหน พอถึงเวลาจริงๆ มันไม่ค่อยได้ทำตามแผนหรอก เพราะสถานการณ์มันเปลี่ยนไปตลอด
.
การการวางแผนเป็นสิ่งที่ดี แต่เราก็ต้องพร้อมยืดหยุ่นเสมอ
.
ผมจึงหันมาให้ความสำคัญกับแผนระยะสั้นมากกว่าระยะยาว แต่ถ้าถามว่าแผนระยะยาวไหม คำตอบคือ “มี” แต่ผมจะโฟกัสแผนระยะสั้นมากกว่า แล้วค่อยเอาผลลัพธ์ที่ได้ไปปรับใช้ในระยะยาวอีกที
.
เอาแค่ในปีนี้ แผนที่ผมวางไว้ตอนต้นปี ผมก็ไม่ได้ทำสักอย่าง และสิ่งที่หลายคนเห็นว่าผมทำสำเร็จตอนสิ้นปี ผมก็ไม่ได้วางไว้ช่วงต้นปีด้วยซ้ำ
.
ตอนแรกผมตั้งเป้าหมายว่า จะทำงานประจำที่ปัจจุบันจนถึงสิ้นปี 2020 แล้วจะย้ายงานเพื่อไปหาประสบการณ์เพิ่ม เก็บเงินออมโดยการหัก 10 เปอร์เซ็นต์จากเงินเดือน จากนั้นทำงานประจำต่อไปอีกสัก 3 ปี แล้วค่อยออกมาทำธุรกิจ
.
แต่ไปๆ มาๆ ช่วงโควิต-19 งานอดิเรกของผมซึ่งเป็นการเขียนบทความในเพจกลับมียอดผู้ติดตามจากหลักพันขึ้นมาเป็นหลักแสนสะอย่างนั้น
.
ผมจึงคิดโมเดลธุรกิจคือการขายหนังสือผ่านเพจ เพื่อเป็นรายได้เสริม ตั้งเป้าหมายว่าแค่มีรายได้เสรืมเป็นเงินเก็บสักเดือนละ 3,000 บาท ก็พอแล้ว
.
แต่ทำไปทำมารายได้มันกลับแซงงานประจำเฉยเลย จนผมตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอีก 3 ปี จะเริ่มเขียนหนังสือของตัวเอง
.
แต่ทำไปทำมาพอรายได้มันดันแซงงานประจำไปจนถึง 6 เท่า แถมผมเริ่มจะมีโอกาสใหม่ๆ เข้ามามากมาย จากที่คิดว่าอีก 3 ปีจะเขียนหนังสือของตัวเอง กลายเป็นเริ่มเขียนตั้งแต่ 3 เดือนหลังจากนั้นเลย สุดท้ายตอนแรกที่ว่าจะย้ายงานใหม่เพื่อเก็บประสบการณ์ กลับกลายเป็นลาออกมาทำธุรกิจและเขียนหนังสือสะอย่างนั้น
.
เชื่อไหมว่า เป้าหมายทางธุรกิจ การทำงาน การเงิน ยอดผู้ติดตาม ที่สำเร็จในปี 2020 ผมเพิ่งจะตั้งเป้ามันเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2020 เท่านั้นเอง
.
จะว่าไปชีวิตคนเราก็พลิกผันมากๆ เราไม่รู้เลยว่าเดือนหน้าหรือปีหน้า เราจะเจอกับโอกาส หรือ วิกฤตอะไรบ้าง ผมจึงค่อนข้างจะยืดหยุ่นกับการตั้งเป้าหมายมากๆ เพราะคิดเสมอว่าสถานการณ์มันเปลี่ยนได้ตลอด ผมจึงเน้นการปรับตัวเร็วมากกว่า
.
คือ ไม่ได้ยึดติดว่า อายุ 45, 50, 60 ปี จะต้องเป็นอะไร
.
เพราะผมมองว่าการตั้งเป้าหมายใหญ่มันจะไปถึงได้ยาก ที่สำคัญคือ เราจะมองไม่ค่อยเห็นเส้นทางด้วย เหมือนเป็นการโยนหินถามทางเสียมากกว่า แต่ถ้าเราโฟกัสกับการทำเป้าหมายเล็กๆ ให้สำเร็จก่อน มันจะทำให้เราเริ่มมีวิสัยทัศน์และมองเห็นเส้นทางยาวไกลมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเมื่อทำป้าหมายเล็กสำเร็จ มันจะก่อร่างสร้างฐานเป็นผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์เป้าหมายใหญ่เอง
.
14) ความสำเร็จ กับ เป้าหมาย เป็นคนละเรื่องกัน
.
ปี 2020 เป็นปีที่ผมทำเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จมากมาย ทั้งเป้าหมายทางการเงิน ธุรกิจ ยอดขาย ผลกำไร และ ยอดผู้ติดตาม
.
แต่น่าแปลกที่ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด ผมเริ่มรู้สึกเคว้งคว้างเหมือนช่วงที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจออีกครั้ง ผมเกิดความสงสัยในตัวเองและมีคำถามมากมายในหัวก่อนนอนทุกคืน
.
ว่าสรุปแล้ว “ความสำเร็จ” ของผมคืออะไรกันแน่ แล้วผมจะมีเงินล้านไปทำไม ทำไมผมถึงไม่รู้สึกประสบความสำเร็จ ทั้งที่สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ทั้งหมดได้แล้ว
.
จนผมได้มาเจอข้อความหนึ่งที่ Simon Sinek เขียนเอาไว้ในหนังสือ Start with why ว่า “ความสำเร็จ” กับ “การบรรลุเป้าหมาย” เป็นคนละเรื่องกัน แต่บ่อยครั้งคนเรามักคิดว่ามันเหมือนกัน เป้าหมายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ มีความหมายชัดเจน และตรวจวัดได้ ในขณะที่ความสำเร็จเป็นเรื่อง “ความรู้สึก” หรือ “ภาวะ” บางอย่าง
.
การบรรลุเป้าหมาย คือ การทำสิ่งที่ต้องการเสร็จลุล่วง ส่วนความรู้สึกว่า “ประสบความสำเร็จ” นั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณเข้าใจว่าทำไมคุณถึงต้องการสิ่งนั้น
.
ตอนแรกที่อ่านบทนี้ผมยอมรับว่าไม่เข้าใจ แต่ก็พยายามอ่านซ้ำวนหลายรอบ ไปพร้อมๆ กับการนึกภาพย้อนกลับไปในอดีตของตัวเอง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นและความรู้สึกตอนผมเริ่มลงมือทำทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วเขียนสิ่งที่คิดทั้งหมดลงในกระดาษว่า ทำไมผมถึงต้องการสิ่งนั้น ทำไมผมถึงต้องการเงินล้าน ทำไมผมถึงต้องการเป้าหมายที่ตั้งไว้ อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ผมเริ่มต้นทำสิ่งเหล่านี้ ผมเขียนลงไปหลายอย่างมาก จนสุดท้ายผมก็ค้นพบว่า
.
ความจริงแล้ว ผมอยากมีเงินล้านก็เพราะตอนนั้นผมขัดสนและไส้แห้ง ผมรู้สึกเครียดเมื่อเงินในบัญชีใกล้จะหมดตอนสิ้นเดือน ผมจึงอยากมีเงินเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่รู้สึกกังวลเรื่องพวกนี้อีก
.
ผมอยากมีอิสรภาพทางการเงิน เพื่อที่ผมจะได้สามารถกินข้าวกับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่บนโต๊ะอาหารในห้องครัว
.
ความสำเร็จจึงไม่ได้วัดจากจำนวนเงินที่ทำให้เราสามารถกินข้าวกับไข่ปลาคาเวียร์มื้อละหมื่นบนโต๊ะอาหารสุดหรู แต่การได้กินข้าวต้มกับปลาเค็มบนโต๊ะอาหารกับครอบครัวโดยที่ตัวผมไม่ต้องดิ้นรนทำงานหาเงินอยู่ในกรุงเทพฯ ต่างหาก คือ ความสำเร็จ
.
นี่คงเป็นเหตุผลที่ตอนเด็กเราถึงไม่ได้อยากประสบความสำเร็จ เพราะจริงๆ เราประสบความสำเร็จตั้งแต่ตอนเด็กแล้ว ที่เราดิ้นรนอยากมีเงินล้านทุกวันนี้ก็เพื่อกลับไปสัมผัสความรู้สึกแบบตอนที่เรายังเด็กเท่านั้นเอง สิ่งนี้ต่างหากคือสิ่งที่ผมโหยหาอย่างแท้จริง ซึ่งมันไม่ใช่เงินล้านแต่อย่างใด
.
จำนวนยอดขาย ผลกำไร และผู้ติดตามจากเพจสมองไหล ทำให้ผมบรรลุเป้าหมาย แต่ข้อความจากผู้คนที่ส่งเข้ามาว่า “พวกเขาเติบโตในปีนี้ได้ก็เพราะติดตามเพจสมองไหล” ต่างหาก ที่ทำให้ผมรู้สึกประสบความสำเร็จ เพราะนี่คือเหตุผลตั้งแต่วันแรกที่ผมเริ่มต้นทำเพจ
.
ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่า “เงินไม่สำคัญ” นะครับ เพียงแต่อยากให้เข้าใจว่า เงิน คือ “เป้าหมาย” แต่เหตุผลที่เราอยากหาเงินต่างหากคือ “ความสำเร็จ” และ เราจะสัมผัสมันได้ก็ต่อเมื่อเรารู้เหตุผลที่ทำสิ่งนั้น
.
สองสิ่งนี้ต้องไปคู่กัน แต่มันเป็นคนละเรื่องกัน ผมหลงคิดว่า การบรรลุเป้าหมาย คือ ความสำเร็จ มันจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จเสียที
.
เพราะต่อให้ผมบรรลุเป้าหมายจนทำเงินล้านได้ แต่ไม่ได้กลับไปกินข้าวพร้อมหน้ากับครอบครัว หรือ ต่อให้ผู้ติดตามเพจสมองไหลทะลุ 1 ล้านคน แต่ไม่มีใครเติบโตได้จากสิ่งที่ผมทำ มันก็ไม่สามารถทำให้ผมรู้สึกว่าผมประสบความสำเร็จได้ แม้ว่าเป้าหมายทุกอย่างจะเสร็จลุล่วงก็ตาม
.
นี่คงเป็นเหตุผลที่คนประสบความสำเร็จทางการเงินจนมีทุกอย่างแล้ว มักจะบอกเสมอว่า เขาไม่ได้ต้องการอะไรมาก ขอแค่เห็นลูกหลานอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาก็พอ เพราะเหตุผลที่เขาทำทุกอย่างมาทั้งชีวิตก็เพื่อสิ่งนี้แหละ
.
.
มาถึงตรงนี้ ต้องขอนับถือคนที่อ่านจนจบมากๆ นะครับ ยอมรับว่าบทนี้คือ บทที่ผมเขียนยาวที่สุดตั้งแต่ทำเพจมา และมันก็มากกว่าบทความสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ของปี 2019 ถึง 10 เท่า เพราะมันถูกเขียนยาวถึง 10 หน้า ของกระดาษ ขนาด A4
.
อาจเป็นเพราะปีนี้ผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ เยอะมากด้วย ไม่ได้หวังจะให้ทุกคนที่เห็นอ่านจบ แต่ผมเขียนเอาไว้สะท้อนตัวเอง ว่าปีนี้เราผ่านอะไรมาบ้าง และถ้าจะมีใครสักคนอ่านจนจบผมก็ต้องขอขอบคุณมากๆ และหวังว่าสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในปีนี้ จะทำให้คุณก้าวต่อไปเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในปีหน้า ที่คงหนักหนากว่าปีนี้หลายเท่า...
.
สมัยเรียนเราจะเรียนรู้ก่อน แล้วไปลงมือทำ แต่พอชีวิตจริง เราต้องลงมือทำก่อนถึงจะได้รับบทเรียน ซึ่งตลอด 1 ปี มันก็กลั่นออกมาเป็นบทความนี้ และจะทำให้เราเติบโตขึ้นอีกในปีหน้า
.
2021 นี้ เราจะเติบโตไปด้วยกัน “สวัสดี ปีใหม่” ครับ
กฎจักรวาล 在 ครูแอ้ กสิณา สอนวิชาความรัก ความสุข เนรมิตชีวิต Facebook 的最佳解答
#ปล่อยวางความรัก แล้วคุณจะได้ความรัก #คอร์สพัฒนาความสัมพันธ์ #ความรัก #ความสัมพันธ์ #ครูแอ้ #แก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ #ชีวิตคู่ #กฎแรงดึงดูด #กฎจักรวาล #selflove #selfesteem #selfconfidence
กฎจักรวาล 在 HealthyChill เฮลตี้สายชิล Youtube 的精選貼文
#ครอสออนไลน์#
สนใจครอส Eat Chill กินแล้วผอม สอบถาม สมัครเรียน
Line@ : @healthychill (มี@ด้านหน้านะคะ)
https://lin.ee/rQpDMRp
ติดต่องานสปอนเซอร์/ วิทยากร : puipalouis@gmail.com
______________________
Facebook Page : HealthyChill เฮลตี้สายชิล
https://www.facebook.com/palouis/
IG : healthychill_palouis
https://www.instagram.com/healthychill_palouis/
Line@ : @healthychill (มี@ด้านหน้านะคะ)
https://line.me/R/ti/p/%40healthychill
ครอสออนไลน์/ โค้ชตัวต่อตัว /คลื่นเสียงบำบัด
https://healthychill.co/
กฎจักรวาล 在 HealthyChill เฮลตี้สายชิล Youtube 的最佳貼文
มาออกกำลังกาย 5 นาที 5 ท่าเพื่อสุขภาพดี #ช่วงกักตัว พร้อมเคล็ดลับ #ดื่มดีมีS กันน้าา
ใครออกกำลังกายด้วยกันเสร็จแล้ว มาเติมเครื่องดื่มดีๆ ให้ร่างกายสดใสสุขภาพดีแบบสุดๆ กัน แล้วไปเล่นกิจกรรมสนุกๆ กับ "ชาเม่อยากแจก"
แค่โพสรูปหรือวิดิโอของเรา คู่ ชาเม่ ซาย คอฟฟี่ ก็ลุ้นรับรางวัลกันได้เล้ยย
ไปเล่นเกันเยอะๆๆๆ น้าา
.
ดูรายละเอียดกิจกรรมที่
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=4296177343772177&id=136198769770076
______________________
Facebook Page : HealthyChill เฮลตี้สายชิล
https://www.facebook.com/palouis/
IG : healthychill_palouis
https://www.instagram.com/healthychill_palouis/
Line@ : @healthychill (มี@ด้านหน้านะคะ)
https://line.me/R/ti/p/%40healthychill
ครอสออนไลน์/ โค้ชตัวต่อตัว /คลื่นเสียงบำบัด
https://healthychill.co/
เกี่ยวกับครูปุ๋ย สายชิล
https://healthychill.co/about-coach/
กฎจักรวาล 在 HealthyChill เฮลตี้สายชิล Youtube 的最讚貼文
เฮลตี้สายชิล เส้นทางแห่งการดูแล กาย-ใจ อย่างสมดุล มีความสุขสดใสในทุกมิติ :)
โทรปรึกษา 30 นาที ราคาโปรโมชั่น ติดต่อทีมงานจองเวลาที่ https://line.me/R/ti/p/%40healthychill
เวิร์คช็อป Mind &Body Detox ดูแลร่างกายและจิตใจ เพิ่ม Vibration ประจำเดือน
https://line.me/R/ti/p/%40healthychill
(ติดตามที่แฟนเพจค่ะ)
ติดต่องานสปอนเซอร์/ วิทยากร : puipalouis@gmail.com
______________________
Facebook Page : HealthyChill เฮลตี้สายชิล
https://www.facebook.com/palouis/
IG : healthychill_palouis
https://www.instagram.com/healthychill_palouis/
Line@ : @healthychill (มี@ด้านหน้านะคะ)
https://line.me/R/ti/p/%40healthychill
ครอสออนไลน์/ โค้ชตัวต่อตัว /คลื่นเสียงบำบัด
https://healthychill.co/
เกี่ยวกับครูปุ๋ย สายชิล
https://healthychill.co/about-coach/
กฎจักรวาล 在 3 กฎจักรวาล ที่จะทำให้ชีวิตคุณรุ่งโรจน์ | Bundit Ungrangsee 的推薦與評價
3 กฎจักรวาล ที่จะทำให้ชีวิตคุณรุ่งโรจน์----ถ้าคุณเข้าใจ กฎจักรวาล หรือ กฎธรรมชาติ ชีวิตคุณจะง่าย. ไหล. สุขคลิปนี้ผมบอก3 ข้อครับติดตามผลงานผม ... ... <看更多>
กฎจักรวาล 在 2 กฎจักรวาล บันดาลโชคดี | Bundit Ungrangsee - YouTube 的推薦與評價
พูดคุยกับผมได้ที่นี่▻ LINE OA :: http://line.me/ti/p/%40mdl4971x▻ Facebook :: m.me/BunditUngrangsee==========================... ... <看更多>
กฎจักรวาล 在 ดึงพลังจักรวาล กฎแรงดึงดูด ให้ส่งเสริมชีวิตคุณให้ประสบความสำเร็จ 的推薦與評價
กฎ แรงดึงดูด หากคุณเริ่มเข้าใจและปฎิบัตได้สิ่งที่คุณจะได้แน่นๆคือความสุขในชีวิตขึ้นทันทีและหากคุณอยากประสบความสำเร็จเอาตัวเองเข้าไปสู่ใน Flow ... ... <看更多>