"Location ยอดฮิตของตัวท็อป"
หากใครเล่น Instagram (IG) คงจะสังเกตเห็นว่าพักหลังมานี้ มีโลเคชั่นยอดฮิตแห่งหนึ่งที่เหล่าเซเล็บ ดารา นักร้อง นักแสดง ตัวท็อปของวงการบันเทิงไทย ฮิตไปกันมาก ฮิตขนาดที่ว่าบางคนต้องแท็กโลเคชั่นนี้วันละมากกว่า 10 รอบ! บางคนแทบจะดำเนินกิจกรรมทุกอย่างในชีวิตอยู่แต่ที่โลเคชั่นนี้ที่เดียวเลยก็ว่าได้
ไม่ว่าดินแดนกิมจิจะมาแรงขนาดไหนจากอิทธิพลของดาราเกาหลีหน้าเป๊ะความสามารถปัง หรือคนจะแห่ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมากขึ้นเพียงใดหลังจากมีการประกาศยกเลิกการต้องทำวีซ่าสำหรับคนไทย แต่ก็ยังมิอาจสู้ความป๊อปปูล่าร์ของโลเคชั่นลึกลับนี้ได้ ทั้งๆ ที่ไม่มีใครเคยเห็นรูปร่างหน้าตาของมันเลยสักครั้ง
โลเคชั่นที่ว่านี้ก็คือ
“งด-ฝาก-ร้าน”
ตลกดีไหมครับ โลเคชั่นที่มาแรงเป็นอันดับต้นๆ ในหมู่คนบันเทิง กลับไม่ใช่ “โลเคชั่น” ด้วยซ้ำ เพราะมันไม่ใช่ “สถานที่” ที่เดินทางไปด้วยพาหนะใดได้ ไม่ใช่จุดใดจุดหนึ่งบนแผนที่โลกที่มีตำแหน่งชัดเจน แต่เป็น “คำขอร้อง” ที่ถูกแปะไว้ทั่วซะมากกว่า (บางครั้งก็เหมือนคำเตือน บางครั้งก็เหมือนคำสั่ง แล้วแต่คนจะมอง)
โลเคชั่นนี้มักมีชื่อที่ใช้แท็กแตกต่างกันออกไป ตามบุคลิกและความครีเอทีฟของแต่ละคน
แบบเบสิกก็ “ไม่ฝากร้านนะคะ”
ถ้าให้น่ารักน่าชังขึ้นมาหน่อยก็ “ไม่ฝากร้านนะตัวเอง”
ถ้าออกแนวหงุดหงิดนิดๆ ก็ “ไม่รับฝากร้าน ไม่มีเวลามาดูให้”
หรือถ้าแบบโผงผางตรงไปตรงมาก็ “ใครฝากร้านบล็อก!”
เหตุที่โลเคชั่นนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็เพราะเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่แห่ขบวนกันมา “ฝากร้าน” ในส่วนคอมเมนท์กันอย่างหนาแน่นนั่นแหละ จนทำให้มีปริมาณข้อความฝากร้านมากกว่าข้อความที่เป็นคอมเมนท์จริงๆ ด้วยซ้ำ
ถ้าไม่แน่ใจว่ามันจะส่งผลทางอารมณ์ยังไง ลองนึกภาพน้องใหม่ ดาวิกา อัพรูปเบื้องหลังการถ่ายแฟชั่นเช็ตใหม่ล่าสุดสดๆ ร้อนๆ แบบ real time ความลงตัวของเสื้อผ้า หน้า ผม แสง สี ในภาพสะกดทุกสายตา ไม่ถึงนาที ยอดไลค์พุ่งกระฉูดทะลัก IG ในใจเราเองก็กำลังคิดว่า “นี่คนหรือนางฟ้ากันแน่ ทำไมสวยได้อลังการขนาดนี้!” ต่อมความอยากรู้อยากเห็นกระตุกให้นิ้วมือเราขยับโดยอัติโนมัติ เราเลื่อนจอมือถือลงไปใต้ภาพเพื่อสอดส่องดูว่าคนอื่นๆ คิดเหมือนกันกับเราบ้างไหม
แต่ทันใดนั้น สายตาของเราก็ต้องหยุดชะงักที่ความคิดเห็นที่ชวนตกตะลึงยิ่งกว่าภาพที่เห็น
“ฝากร้านน้ำยาปลูกผมทำจากมะกรูดแท้สดจากไร่ 100% ผมดกดำทันตาเห็นแน่นอนค่ะ!!!”
(ตัดภาพไป คงเห็นทีมงานแฟชั่นของใหม่ ดาวิกา นั่งร้องไห้หนักมาก กับฟีดแบคสุดบวกที่ได้รับ)
ปัญหาก็คือ คนที่มาฝากร้านแบบนี้ไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่มากันเป็นสิบเป็นร้อย!
นี่ยังดีที่เป็นแค่รูปทำงาน บางคนเข้าไปฝากร้านในรูปงานศพหรือภาพที่เขากำลังเขียนอำลาสุนัขสุดรักที่เพิ่งจากไป!
ถ้ามองจากมุมของเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าใน IG ก็อาจจะบอกว่าไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แค่อยากทำธุรกิจ และแค่อยากให้คนเข้าใจ เห็นใจหัวอกคนที่ทำมาค้าขายบ้าง
แต่คุณจะคาดหวังความเข้าใจ ความเห็นใจจากคนอื่นไม่ได้ ถ้าคุณเองยังไม่พยายามเข้าใจ และไม่เคยเห็นใจคนที่คุณหวังพึ่งเขา
จริงๆ ถ้าเพียงแค่เรารู้จักสังเกตสถานการณ์สักนิด เอาใจเขามาใส่ใจเรากันให้มากขึ้นอีกสักหน่อย เราก็น่าจะพอคิดได้ว่าอะไรควรไม่ควร
“คิด” ก่อน แล้วค่อย “พิมพ์"
ผมว่าหลักการหนึ่งที่ใช้ได้ง่ายๆ กับการจะพิมพ์ไม่พิมพ์อะไรในโลก online คือลองจินตนาการสถานการณ์ให้เป็นเวอร์ชั่นโลก offline
ขออัญเชิญน้องพลับ...
"สมมุตินะครับสมมุติ!" (ใครเข้าใจมุกนี้ แสดงว่าคุณได้เกิดทันยุคทองของวงการเพลงไทย จงภูมิใจ ส่วนใครไม่เข้าใจ โปรดปล่อยผ่านและอ่านต่อเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น) สมมุติว่า Instagram ของเรา คือห้องจัดแสดงแกลอรี่ภาพส่วนตัวของเรา และที่มุมหนึ่ง ใกล้รูปหนึ่ง เรากำลังยืนจับกลุ่มสนทนากับผู้คนที่แวะเวียนมาชมรูปนั้นอยู่ แล้วจู่ๆ ก็มีคนแปลกหน้าที่ไม่ได้รู้จักกับใครเลยเดินเข้ามา ไม่ทันสวัสดี ไม่ทันแนะนำตัว ไม่ทันถามไถ่สารทุกข์สุขดิบสักคำ ก็โพล่งออกมาว่า “ซื้อสบู่ดับกลิ่นกายสักก้อนไหมคะ"
เราจะรู้สึกยังไง?
ถ้าเป็นผม แวบแรกผมคงคิดว่าคนๆ นี้ไม่มีมารยาทเลย ไม่เห็นเหรอว่าเขาคุยเรื่องอะไรกันอยู่
แต่ที่น่าเศร้ากว่านั้น ไม่มีมารยาทยังไม่เท่าไร ไม่มี “ชั้นเชิง” เลยอีกต่างหาก
เวลาเราจะจีบใครสักคน เรายังต้องมีชั้นเชิงในการจีบเลย ต้องมีการศึกษาหาข้อมูล ชวนคุยเรื่องอื่นๆ ทั่วไปก่อน เช่น “ชื่ออะไร" "มากับใคร" "มาที่นี่บ่อยไหม" "ชอบทำอะไรเป็นพิเศษ" ฯลฯ ไม่ใช่อยู่ดีๆ เจอหน้ากันปุ๊บ ก็พุ่งตรงเข้าไปแล้วบอกว่า “ฝากหัวใจผมไว้หน่อยครับ” (เอ่ออออ... คิดว่าจะจีบติดไหมล่ะนั่น!)
ในการขายของก็เช่นกัน หากพุ่งพรวดเข้าไปแบบนั้น จะมีสักกี่คนที่หันมายิ้มหวานให้และสนใจสินค้าของคุณ?
มีคนบันเทิงหลายคนที่ไม่แท็กโลเคชั่นยอดฮิต ไม่ห้ามฝากร้าน แต่ขอแค่ให้คอมเมนท์อะไรเกี่ยวกับภาพก่อน
ประมาณว่า ถ้าคุณแสดงความสนใจในสิ่งที่เขากำลังพูดอยู่บ้าง เขาก็พอจะเปิดใจรับฟังสิ่งที่คุณอยากพูดบ้างเช่นกัน
ซึ่งก็แสดงว่า คุณไม่ได้สิ้นหวัง ยังมีพื้นที่ให้คุณเดินเข้าไปขายของได้ แต่คุณต้องหาพื้นที่เหล่านั้นให้เจอ และศึกษากฎเกณฑ์ให้ดี
เพียงแค่คุณรู้จักสังเกต “คน” ที่คุณกำลังจะพูดด้วย สังเกต “สถานการณ์" แล้วเลือก “วิธี” สื่อสารที่เหมาะสม ก็อาจทำให้อีกฝ่ายยินดีที่จะรับฟังสิ่งที่คุณอยากพูดมากขึ้น
ไม่เพียงแต่กับการขายของในโลกออนไลน์ แต่กับเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตจริงที่อยู่ในโลกออฟไลน์ด้วยเช่นกัน
จะ “ฝาก” สิ่งใดไว้กับใคร หรือจะ “ให้” อะไรกับใคร อย่ามัวคิดถึงแต่ตัวเราเองที่เป็น “ผู้ให้” แค่ฝ่ายเดียว แต่ลองคิดถึงอีกฝ่ายที่เป็น “ผู้รับ” ให้มากขึ้น ลองจินตนาการให้เราอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา ถ้าเราเป็นเขา เราจะอยากได้ในสิ่งที่เรากำลังจะให้เขาในตอนนี้หรือไม่
“คิด” ก่อน แล้วค่อย “พูด"
“คิด” ก่อน แล้วค่อย ทำ"
แม้กระทั่งสิ่งที่เรามองว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่าง “ความรัก” หรือ “ความหวังดี” ถ้าให้ผิดคน ผิดที่ ผิดจังหวะ ผิดวิธี อาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดมากกว่าดีใจก็เป็นได้
ในทางกลับกัน ถ้ามันถูกหยิบยื่นให้ในวันที่พอดี สถานการณ์ที่พอดี ด้วยการกระทำที่พอดีสำหรับคนๆ นั้น มันคงจะมีค่ามากๆ สำหรับคนที่ได้รับมันไป
การขายที่ดี ไม่ใช่สักแต่ว่า ขายๆๆ ตามแบบของเราไป โดยไม่เคยวิเคราะห์ว่า "ผู้บริโภค" กำลังอยู่ในสภาวะใด มีความต้องการอะไร
ความรักที่ดี ก็ไม่ใช่สักแต่ว่า รักๆๆ ตามแบบของเราไป โดยไม่เคยใส่ใจคนที่เรารัก ว่าเขาเป็นคนแบบไหน กำลังคิดและรู้สึกอะไร ตีความคำว่า “รัก” ไว้อย่างไร
ความหวังดีที่มีพลัง ก็ไม่ใช่สักแต่ว่า หวังดีๆๆ ตามแบบของเราไป โดยไม่เคยสังเกตว่าคนที่เราหวังดีกับเขานั้น มองสิ่งที่เราให้เป็นสิ่งที่ “ดี” สำหรับเขาเช่นกันหรือไม่
ระวังให้ดีนะครับ
ไม่เช่นนั้นความรัก ความหวังดี ของคุณอาจกลายเป็นเหมือน “น้ำยาปลูกผมทำจากมะกรูดแท้” ที่เขารู้สึกถูกยัดเยียดให้
และคุณก็อาจกลายเป็นเหมือน "นักฝากร้าน" คนหนึ่งที่ผลักให้ตัวท็อปของคุณต้องหลบหนีไปอยู่ใน “โลเคชั่นยอดฮิต” โดยไม่รู้ตัวก็ได้!
ผมขอ “ฝาก” ให้ไปคิด
ด้วย “รักและหวังดี” (นะจ๊ะ)
การขายที่ดี 在 จรรยาบรรณของนักขายที่ดี () - Coggle 的推薦與評價
มีมนุษย์สัมพันธ์ดี พนักงานที่ดีต้องสามารถเข้ากับคนอื่นๆ ได้อย่างดี. จรรยาบรรณที่นักขายทั่วไปควรมี ✓. 1.บุคลิกภาพดี พนักงานขายควรมีกิริยา ท่าทาง เรียบร้อย ... ... <看更多>
การขายที่ดี 在 BrandThink - How To: 10 อุปนิสัยของคน 'ขาย' เก่ง . หากเป็นสมัย ... 的推薦與評價
วันนี้ BrandThink เลยอยากชวนทุกคนมาพัฒนาทักษะการขาย มาดูกันว่า 10 ... มีไหวพริบ : พนักงานขายที่ดี ต้องสามารถปรับเปลี่ยนและยืดหยุ่นได้ ... ... <看更多>
การขายที่ดี 在 ลักษณะของนักขายดีและไม่ดี | ทำอย่างไรจึงจะเป็นนักขายที่ดี 的推薦與評價
เราทุกคนทราบว่านัก ขายที่ ไม่ ดี จะขายไม่ออก ดังนั้นอะไรกันที่ทำให้เราเป็นนัก ขายที่ดี ? มันซับซ้อนกว่า การ ไม่มีทักษะ... ... <看更多>