เรามาร่วมกันแชร์ คลิปนี้เพื่อ
แสดงความจงรักภักดีถึง
พ่อ ร.9 ของพวกเรากัน
จะมีสักกี่ครั้งที่นักร้องระดับโลกจะแต่งและร้องเพลงให้กับใครสักคน ยิ่งมาจากประเทศเล็กๆที่หลายคนๆในโลกนี้ไม่รู้จัก
ฟังแล้วน้ำตาซึมเลย เพลง..ที่ชาวต่างชาติ ได้แก่
1. อเมริกัน
2.ฝรั่งเศส
3.อังกฤษ
4.เนเธอร์แลนด์
5.ไอร์แลนด์
6. ญี่ปุ่น
7. อินเดีย
8.ฟิลิปปินส์
และอีกมากฯลฯ
ร่วมกันแต่งและร่วมกันร้องล่าสุด!
ร้องได้ไพเราะและภาพประกอบก็สุดซึ้ง ยอดเยี่ยมจริง ๆ เลยครับ
https://youtu.be/Ra2LG-nbBAo
同時也有8部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅Omiyage JAPAN,也在其Youtube影片中提到,#ครอบครัวญี่ปุ่น #หมาชิบะ #OmiyageJAPAN Natto Chan T-shirt → Line nattojaa Member ship → https://www.youtube.com/channel/UCFmOVVg9qEurW8_XywEWrHQ/jo...
「พ่อ ญี่ปุ่น」的推薦目錄:
- 關於พ่อ ญี่ปุ่น 在 โหรฟันธง ลักษณ์ เรขานิเทศ Facebook 的最佳貼文
- 關於พ่อ ญี่ปุ่น 在 เข็มทิศชีวิต ฐิตินาถ ณ พัทลุง Facebook 的精選貼文
- 關於พ่อ ญี่ปุ่น 在 Eat with Pal Li - พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง Facebook 的最讚貼文
- 關於พ่อ ญี่ปุ่น 在 Omiyage JAPAN Youtube 的精選貼文
- 關於พ่อ ญี่ปุ่น 在 Little Monster Family Youtube 的最佳解答
- 關於พ่อ ญี่ปุ่น 在 Little Monster Family Youtube 的精選貼文
- 關於พ่อ ญี่ปุ่น 在 คำว่า "พ่อแม่" ในภาษาญี่ปุ่น 親 (おや) กับ 両親(りょうしん) ต่าง ... 的評價
- 關於พ่อ ญี่ปุ่น 在 ภาษาญี่ปุ่น 1 วัน 1 นาที :... - Wasu's thought on Japan - Facebook 的評價
พ่อ ญี่ปุ่น 在 เข็มทิศชีวิต ฐิตินาถ ณ พัทลุง Facebook 的精選貼文
รัชกาลที่ 3 ทำให้ แผ่นดินไทยมั่งคั่ง พระองค์ ได้ชื่อว่า เจ้าสัวถุงแดง ขอบารมีของพระองค์ ส่งให้ทุกท่านร่ำรวย เงินเต็มห้อง ทองเต็มบ้าน เทอญ 🙏🙏🙏
Cr. ภาพ วันทำบุญ วันคล้ายวันขึ้นครองราชย์ ร.3
21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 (ค.ศ. 1824)
เจ้าสัวเรือสำเภา โกยรายได้เข้าชาติ "รัชกาลที่ 3" รักษาเอกราช ด้วยเงินถุงแดง
ณ ขณะที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงพระประชวร กระทั่งต่อมาพระองค์เสด็จสวรรคต เมื่อมีพระชนมพรรษาได้ 57 พรรษา ครองราชย์ได้ 15 ปี โดยพระองค์มิได้ตรัสมอบราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสองค์ใด พระราชวงศานุวงศ์และบรรดาเสนาบดี ผู้เป็นประธานในราชการจึงปรึกษา เห็นว่า เจ้าฟ้ามงกุฎฯ ยังผนวชและมีพระชนม์เพียง 20 พรรษา จึงเห็นพ้องให้อัญเชิญพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ หรือ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 3 พระราชโอรสจาก เจ้าจอมมารดาเรียม หรือ สมเด็จพระศรีสุลาไลย ขึ้นครองราชย์ในวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 ขึ้น 7 คํ่า เดือน 9 ปีวอก ขณะนั้นพระองค์ทรงมีพระชนมพรรษาได้ 37 พรรษา
ในหลวงรัชกาลที่ 3 เสด็จพระราชสมภพ ณ พระราชวังเดิม กรุงเทพมหานคร ขณะที่ ในหลวงรัชกาลที่ 1 (ปู่) และในหลวงรัชกาลที่ 2 (พ่อ) ได้เสด็จยกทัพไปตีเมืองทวาย จึงนับว่าเป็นยามที่บ้านเมืองเพิ่งก่อร่างสร้างกรุง ด้วยทรงละม้ายคล้ายในหลวงรัชกาลที่ 1 จึงได้รับความพระเมตตาเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งพระชนมายุครบ 21 พรรษา โปรดให้ทรงผนวช ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระองค์ทรงงานร่วมกับพระราชบิดามาโดยตลอด
"เจ้าสัว" ของพ่อ ทรงปราดเปรื่องเรื่อง ค้าขาย กฎหมาย บ้านเมือง
ความเก่งกาจฉลาดปราดเปรื่องเป็นที่เรื่องลือ จนข้าราชบริพาร และพระประยูรญาติ ทราบถึงคำชมเชยที่ในหลวงรัชกาลที่ 2 ได้กล่าวถึงโอรสพระองค์นี้อย่างสม่ำเสมอ ทว่าเมื่อครั้งที่ทรงกำกับราชการกรมท่า (ในสมัยรัชกาลที่ 2) พระองค์ได้ทรงแต่งสำเภาบรรทุกสินค้าออกไปค้าขายในต่างประเทศ ทำให้ไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นในท้องพระคลังเป็นอันมาก
พระราชบิดาทรงเรียกพระองค์ว่า "เจ้าสัว" เพราะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดีกว่าใครในช่วงเวลานั้น กระทั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 2 เสด็จสวรรคต โดยมิได้ตรัสมอบราชสมบัติแก่ผู้ใด ขุนนางและพระราชวงศ์ต่างมีความเห็นพ้องต้องกันว่าพระองค์ (ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นกรมหมื่นเจษฏาบดินทร์ มีพระชนมายุ 37 พรรษา) ทรงรอบรู้กิจการบ้านเมืองดี ทรงปราดเปรื่องในทางกฎหมาย การค้า และการปกครอง จึงพร้อมใจกันอัญเชิญขึ้นครองราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ 3
พลิกแผ่นดินกอบกู้เศรษฐกิจ พระคลังหลวงเงินล้น นำพัฒนาประเทศ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้นครองราชย์สมบัติ ต้องยอมรับว่าในครานั้นประเทศไทยตกอยู่ในภาวะยากจน เนื่องจากเมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ประเทศไทยได้ใช้เงินจำนวนมาก ทำนุบำรุงบ้านเมืองขึ้นมาใหม่ ประกอบกับกรุงศรีอยุธยาสูญเสียทรัพย์สินจากการพ่ายแพ้สงคราม เหตุนี้เอง พระองค์จึงตั้งระบบการจัดเก็บภาษีขึ้นมาเพื่อหาเงินเข้าท้องพระคลังหลวง ทำให้รายได้เข้าประเทศหลายอย่าง คือ จังกอบ อากรฤชา ส่วย ภาษี เงินค่าราชการจากพวกไพร่ เงินค่าผูกปี้ข้อมือจีน เป็นต้น
รายได้ของรัฐจึงมีเพิ่มมากขึ้นกว่ารัชกาลก่อนๆ ทั้งนี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงการเก็บภาษีอากรจากรูปของสินค้าและแรงงานเป็นชำระด้วยเงินตรา และที่สำคัญ คือ ภาษีที่ตั้งขึ้นมาใหม่ถึง 38 อย่าง การเก็บภาษีอากรภายในประเทศนี้ พระองค์ทรงตั้งระบบการเก็บภาษีโดยให้เอกชนประมูลรับเหมาผูกขาด ไปเรียกเก็บภาษีจากราษฎรเอง เรียกว่า เจ้าภาษี หรือนายอากร ซึ่งส่วนใหญ่ชาวจีน จะเป็นผู้ประมูลได้ การเก็บภาษีด้วยวิธีการนี้ ทำให้เกิดผลดีหลายประการในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสามารถเก็บเงินเข้า พระคลังมหาสมบัติได้สูงแล้ว ยังส่งผลดีทางด้านการเมือง เพราะทำให้เจ้าภาษีนายอากรที่ส่วนใหญ่ที่เป็นชาวจีนนั้น มีความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ และมีความผูกพันกับแผ่นดินไทยแนบแน่นขึ้น
รายได้เข้าประเทศ จากการค้าสำเภา เสถียรภาพมั่นคง รัฐมีเงินเพิ่ม
นอกจากนี้รายได้ของรัฐอีกส่วนหนึ่ง ได้มาจากการค้าขายกับชาวต่างประเทศ ภาษีหลายชั้น คือ ภาษีเบิกร่อง ภาษีขาออก และการค้าแบบผูกขาดของพระคลัง นอกจากนี้ไทยยังส่งเรือสินค้าเข้าไปค้าขายในประเทศต่างๆ เนื่องจากพระองค์ทรงสนพระราชหฤทัย และเชี่ยวชาญการส่งเรือสินค้ามาตั้งแต่ครั้งดำรงพระยศเป็น พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ จึงทรงสนับสนุนการค้าขึ้นอีก เป็นจำนวนมาก ทรงมีเรือกำปั่นพาณิชย์ประมาณ 11-13 ลำ เรือกำปั่นของขุนนางที่สำคัญอีก 6 ลำ
รายได้จากการค้าสำเภานี้นับเป็นรายได้ที่สำคัญยิ่งอีกประเภทหนึ่ง เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพมั่นคงและรัฐมีรายได้มากขึ้น รายได้นี้จึงได้นำมาใช้ในการทำนุบำรุงบ้านเมือง การป้องกันประเทศ การศาสนา และด้านอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ ทั้งในรัชสมัยของพระองค์เองและในรัชสมัยต่อมา กล่าวคือ รายได้ของแผ่นดินในรัชกาลนี้ปรากฏว่าสูงขึ้นมาก บางปีมีจำนวนมากถึง 25 ล้านบาท
ทำนุบำรุงรักษาวัด พัฒาประเทศไทย
เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต เงินในท้องพระคลังหลวงซึ่งหมายรวมถึงเงินค่าสำเภาด้วย เหลือจากการจับจ่ายของแผ่นดิน มี 40,000 ชั่ง และด้วยทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยในด้านการสร้างและปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่างๆ ก่อนที่จะเสด็จสวรรคต ทรงมีพระราชปรารภให้แบ่งเงินส่วนนี้ไปทำนุบำรุงรักษาวัดที่ชำรุดเสียหาย และวัดที่สร้างค้างอยู่ 10,000 ชั่ง ส่วนที่เหลืออีก 30,000 ชั่ง โปรดให้รักษาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการแผ่นดินต่อไป เงินจำนวนดังกล่าวนี้ กล่าวกันว่าโปรดให้ใส่ถุงแดงเอาไว้ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำมาใช้จ่ายเป็นค่าปรับในกรณีพิพาทระหว่างประเทศ เมื่อ ร.ศ. 112 (พ.ศ.2436) จะเห็นได้ว่า แม้สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจะเสด็จสวรรคตไปแล้ว พระองค์ทรงมีส่วนช่วยเหลือประเทศให้รอดพ้นวิกฤตการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ก็ด้วยเงินถุงแดง ที่พระองค์ทรงเก็บสะสมไว้
สมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระมหากษัตริย์กู้วิกฤติการเมือง
การปกครองในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น สืบทอดมาจากสมัยอยุธยาและกรุงธนบุรี ยึดหลักปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของการปกครองประเทศ และทรงเป็นประมุขผู้พระราชทานความพิทักษ์รักษาบ้านเมืองให้ปลอดภัย ตำแหน่งรองลงมา คือ พระมหาอุปราช ซึ่งดำรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล เช่นเดียวกับในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ตำแหน่งบังคับบัญชาในด้านการปกครอง แยกต่อมา คือ อัครมหาเสนาบดีฝ่ายทหาร คือ พระสมุหพระกลาโหม และฝ่ายพลเรือน คือ สมุหนายก ตำแหน่งรองลงมา เรียก เสนาบดีจตุสดมภ์ คือ เสนาบดีเมืองหรือเวียง กรมวัง กรมพระคลัง และกรมนา
ส่วนการบริหารราชการแผ่นดิน ยังคงจัดแบ่งออกเป็นหัวเมืองชั้นนอก หัวเมืองชั้นใน และหัวเมืองประเทศราช ดังที่เคยปกครองกันมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งการแบ่งการปกครองในลักษณะนี้ก่อให้เกิดปัญหาในการปกครองหัวเมืองประเทศราช เช่น ลาว เขมร และมลายู เพราะหัวเมืองเหล่านี้พยายามหาทางเป็นเอกราช หลุดจากอำนาจของอาณาจักรไทย
สนธิสัญญาเบอร์นี
รัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว "เฮนรี เบอร์นี" ทูตอังกฤษในขณะนั้น ได้เดินทางเข้ามายังกรุงรัตนโกสินทร์ใน พ.ศ. 2368 เพื่อเจรจาปัญหาทางการเมืองและการค้า ในด้านการค้า รัฐบาลอังกฤษประสงค์ขอเปิดสัมพันธไมตรีทางการค้ากับรัตนโกสินทร์ และขอความสะดวกในการในการค้าได้โดยเสรี การเจรจาได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2369 และมีการลงนามในสนธิสัญญากัน
สนธิสัญญาเบอร์นี ประกอบด้วย สนธิสัญญาทางพระราชไมตรีรวม 14 ข้อ และมีสนธิสัญญาทางพาณิชย์ แยกออกมาอีกฉบับหนึ่ง รวม 6 ข้อ ที่เกี่ยวกับการค้า ได้แก่ ข้อ 5 ให้สิทธิพ่อค้าทั้งสองฝ่ายค้าขายตามเมืองต่างๆ ของอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างเสรีตามกฎหมาย ข้อ 6 ให้พ่อค้าทั้งสองฝ่ายเสียค่าธรรมเนียมของอีกฝ่าย และข้อ 7 ให้สิทธิแก่พ่อค้าจะขอตั้งห้าง เรือน และเช่าที่โรงเรือนเก็บสินค้าในประเทศอีกฝ่ายหนึ่งได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของกรมการเมือง
ยกทัพสู้ศึก ป้องกันประเทศ ปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์
และแม้ว่าการสงครามทางด้านทิศตะวันตก ระหว่างไทยกับพม่าจะเบาบาง และสิ้นสุดในรัชกาลที่ 3 เพราะพม่ารบกับอังกฤษ แต่บ้านเมืองก็ไม่ได้ว่างเว้นจากศึกสงคราม ต้องยกทัพไปสู้รบป้องกันพระราชอาณาเขตส่วนทางด้านทิศตะวันออก ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งในรัชสมัยนี้ มีเหตุการณ์ทำสงครามที่สำคัญ คือ เมื่อ พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์ เวียงจันทน์ เป็นกบฏ โปรดให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพย์ เป็นแม่ทัพไปปราบปราม และยึดเมืองเวียงจันทน์ได้ในปี พ.ศ. 2370
พ.ศ. 2376-2391 การทำสงครามกับญวนที่พยายามชิงเขมรไปจากไทย 4 ครั้ง และญวนสามารถสู้รบกันในแผ่นดินเขมรส่วนนอก เป็นเวลานานถึง 15 ปี จนเลิกรบกัน ผลของสงครามทำให้ไทยได้เขมรมาอยู่ในปกครองอีก นอกจากนั้น ทรงเตรียมรบอยู่พร้อมสรรพ มีการสร้างป้อมป้องกันศัตรูทางน้ำ เช่น ที่เมืองสมุทรสาคร เป็นต้น ในปลายรัชกาลโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเรือกำปั่นรบ กำปั่นลาดตระเวน ไว้รักษาพระนครและค้าขาย นอกจากนี้ยังทรงมีอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้เป็นอันมาก คลองต่างๆ ที่ขุดขึ้นในรัชสมัย นอกจากตั้งพระราชหฤทัยจะให้ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมแล้ว ยังใช้เป็นทางลัดไปมาระหว่างสงครามอีกด้วย
ค้าขายแลกเปลี่ยน เอเชีย ยุโรป สหรัฐอเมริกา
ประเทศไทย มีการติดต่อกับต่างประเทศ ทั้งทวีปเอเชียและยุโรป ด้านการทูตและด้านการค้า ชาติที่สำคัญในทวีปเอเชีย ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนชาติในทวีปยุโรป ได้แก่ อังกฤษ โปรตุเกส เป็นต้น ในสมัยรัชกาลที่ 1 ไทยมีความสัมพันธ์อันดีกับ จีน ญวน เขมร ลาว และ มลายู แต่มีประเทศโปรตุเกสเป็นชาติเดียวในยุโรปที่เข้ามาติดต่อในสมัยรัชกาลที่ 1 ต่อมามีชาวยุโรปอื่นเข้ามาเจรจาเปิดสัมพันธไมตรี คือ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา
ในบรรดาประเทศต่างๆ ในเอเชียนั้น ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีกับไทย ทั้งทางด้านการทูตและการค้า ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ไทยจัดส่งราชทูตเชิญพระราชสาสน์ และเครื่องราชบรรณาการไปเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศจีน ใน พ.ศ. 2368 และการค้าระหว่างไทยกับจีนก็ดำเนินไปได้ด้วยดีตลอดรัชสมัย
ในขณะนั้นประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ได้เข้ามาติดต่อเจริญสัมพันธไมตรี และตกลงทำสัญญาการค้า ซึ่งเจรจาตกลงเรื่องการค้าไม่ประสบผลสำเร็จนัก ด้วยในตอนต้นทรงมีนโยบายไม่ยอมอ่อนข้อให้กับประเทศตะวันตก ด้วยระมัดระวังในเกียรติของชาติ รวมถึงประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ การทำสัญญาการค้าในประเภทที่ไทยจะต้องเสียเปรียบก็ไม่ทรงยินยอม พระองค์ทรงพยายามที่จะรักษาประโยชน์ของชาติให้มากที่สุด ที่ทรงกระทำเช่นนั้นไม่ใช่ว่าจะไม่ทรงตระหนักถึงภัยจากการรุกรานของมหาอำนาจตะวันตกที่มีต่อประเทศใกล้เคียง แต่พระองค์ทรงเข้าพระทัยดี
ต่อมาจึงได้พระราชทานกระแสเกี่ยวกับการต่างประเทศไว้ในอนาคต ก่อนหน้าที่จะเสด็จสวรรคตว่า “การศึกสงครามข้างญวนข้างพม่าก็เห็นจะไม่มีแล้ว จะมีก็อยู่แต่ข้างพวกฝรั่ง ให้ระวังให้ดีอย่าให้เสียท่าแก่เขาได้ การงานสิ่งใดของเขาที่คิดควรจะเรียนเอาไว้ก็เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสกันทีเดียว”
โดยเฉพาะที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม อันเป็นวัดที่สำคัญที่โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะในรัชกาลของพระองค์ ความรู้และตำราต่างๆ ที่โปรดให้จารึกไว้นั้น มีทั้งวิชาอักษรศาสตร์ แพทยศาสตร์ พุทธศาสตร์ และโบราณคดี เช่น ตำราโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ตำรายา ตำราโหราศาสตร์ พร้อมกันนั้นก็ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปั้นรูปฤาษีดัดตน แสดงท่าบำบัดโรคลม กับคำโคลงบอกชนิดของลม ตั้งไว้ในศาลารายรอบเขตพุทธาวาส ทำให้ประชาชนสามารถศึกษาหาความรู้ในด้านต่างๆ ได้อย่างแพร่หลาย จนคนไทยทั้งหลายในยุคนั้นกล่าวว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเมืองไทย
พระราชนิพนธ์ วรรณกรรม มากความสามารถด้านกวี
ก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์ ได้พระราชนิพนธ์วรรณกรรมไว้หลายเรื่อง คือ โคลงปราบดาภิเษกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย บทละครเรื่องสังข์ศิลป์ชัย เพลงยาวสังวาส และบทเสภาบางตอนในเรื่องขุนช้างขุนแผน ต่อมา เมื่อทรงครองราชย์ พระองค์ทรงมีพระราชกรณียกิจมากมาย ทำให้ไม่มีเวลาในการพระราชนิพนธ์วรรณกรรมด้วยพระองค์เอง แต่ถึงกระนั้นก็ทรงทำนุบำรุงวรรณกรรมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะวรรณคดีทางพระพุทธศาสนา
ในรัชสมัยนี้ยังมีกวีที่สำคัญๆ เช่น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส และสุนทรภู่ ซึ่งมีชื่อเสียงมาตั้งแต่รัชกาลที่ 2 แล้ว วรรณคดีที่แต่งขึ้นมาในรัชสมัยนี้ ได้แก่ ลิลิตตะเลงพ่าย ปฐมสมโพธิ์กถา กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ ระเด่นลันได โคลงสุภาษิตโลกนิติ เป็นต้น
ในส่วนของการทำนุบำรุงศิลปกรรมในรัชสมัยนี้ แบ่งออกได้ 2 ลักษณะ คือ ศิลปกรรมที่สร้างขึ้นมาใหม่ และศิลปะแบบพระราชนิยม โดยศิลปกรรมที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้ เฉพาะด้านสถาปัตยกรรม เป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน และตะวันตก ด้วยติดต่อค้าขายกับชาวต่างประเทศ ทำให้อิทธิพลทางด้านศิลปะเข้ามาผสมผสาน ส่วนศิลปะแบบพระราชนิยม เป็นศิลปกรรมไทยที่มีลักษณะโดดเด่นมาก เป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์อย่างแท้จริง ซึ่งยังหลงเหลือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมมาจนทุกวันนี้ ก่อนที่ศิลปะทางตะวันตกจะเข้ามาอิทธิพลในงานศิลปะไทยในยุคต่อมา
ราษฎรผู้มีทุกข์ จะสามารถตีกลองร้องถวายฎีกา
พระองค์ทรงดูแลทุกข์สุขของราษฎร เสด็จออกนอกพระราชวัง โปรดให้นำกลองวินิจฉัยเภรีออกตั้ง ณ ทิมดาบกรมวัง ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อราษฎรผู้มีทุกข์จะได้ตีกลองร้องถวายฎีกา เพื่อให้มีการชำระความกันต่อไป โดยพระองค์จะคอยซักถามอยู่เนืองๆ ทำให้ตุลาการผู้ทำการพิพากษาไม่อาจพลิกแพลงคดีเป็นอื่นได้
ในรัชสมัยของพระองค์ได้มีมิชชันนารีชาวอเมริกันและชาวอังกฤษเดินทางเข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์เพิ่มมากขึ้น หนึ่งในจำนวนนี้คือ ศาสนาจารย์ นายแพทย์แดน บีช บรัดเลย์ หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม "หมอบรัดเลย์" ได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ และการฉีดวัคซีนป้องกันอหิวาตกโรค และการทำผ่าตัดขึ้นเป็นครั้งแรกในกรุงรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้ หมอบรัดเลย์ ยังได้คิดตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้น (ปี พ.ศ. 2379) ทำให้มีการพิมพ์หนังสือภาษาไทยเป็นครั้งแรกโดยพิมพ์คำสอนศาสนาคริสต์เป็นภาษาไทย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2379 ต่อมาปี พ.ศ. 2385 หมอบรัดเลย์พิมพ์ปฏิทินภาษาไทยขึ้นเป็นครั้งแรก
ในด้านการหนังสือพิมพ์ฉบับแรกในสมัยรัชกาลที่ 3 หมอบรัดเลย์ได้ออกหนังสือพิมพ์แถลงข่าวรายปักษ์เป็นภาษาไทย ชื่อ บางกอกรีคอร์เดอร์ (Bangkok Recorder) มีเรื่องสารคดี ข่าวราชการ ข่าวการค้า ข่าวเบ็ดเตล็ด ฉบับแรกออกเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2387
หนังสือบทกลอนเล่มแรกที่พิมพ์ขาย และผู้เขียนได้รับค่าลิขสิทธิ์คือ นิราศลอนดอน ของหม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร) โดย หมอบรัดเลย์ ซื้อกรรมสิทธิ์ไปพิมพ์ในราคา 400 บาท เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2404 และตีพิมพ์จำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2404
“ถุงแดง” และทรัพย์ส่วนพระองค์ช่วยชาติ
พ.ศ. 2431 ประเทศไทยมีเรื่องพิพาทกับฝรั่งเศส เรื่องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง เพราะฝรั่งเศสคอยพาลกล่าวหาว่า ไทยรุกล้ำดินแดนญวนและเขมร ซึ่งฝรั่งเศสยึดครองเป็นอาณานิคมไว้แล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯ ให้รวมเมืองต่างๆ ขึ้นเป็นภาค เช่น ภาคอุดร ภาคอีสาน ภาคลาวพวน ลาวกาว ลาวพุงขาว ต่อมาเกิดกรณีพิพาทในการรังวัดเขตแดน เช่น แย่งปักธงในทุ่งเชียงคำ เขตลาวพวน และถึง พ.ศ.2436 เกิดกรณีพระยอดเมืองขวาง ต่อสู้กับ นายทหารฝรั่งเศส ซึ่งจะขับไล่ไทยออกจากเมืองคำม่วน
ฝ่ายฝรั่งเศสแพ้ นายทหารฝรั่งเศสตาย 1 คน ทหารญวนตายประมาณ 20 คน ไทยตาย 5-6 คน รัฐบาลฝรั่งเศสได้ส่งเรือรบโคเมต์ กับเรือลังกองสตอง เข้ามาในน่านน้ำไทย สมทบกับเรือลูตัง ซึ่งเข้ามาจอดอยู่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส ตั้งแต่ พ.ศ. 2435 ทั้งนี้ก็เพราะฝรั่งเศสมีเจตนาจะยึดครองดินแดนไทยให้ได้
เมื่อเรือทั้ง 2 ลำของฝรั่งเศสเข้ามาถึงป้อมพระจุลจอมเกล้า เรืออรรคเรศของไทยจึงยิงเรือรบฝรั่งเศสเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติไทย ขณะนั้นฝรั่งเศสเป็นมหาอำนาจ และประสงค์จะยึดครองไทยเป็นอาณานิคม เหมือนดังที่ยึดครองดินแดนประเทศต่างๆ ในอินโดจีนไว้หมดแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงต้องดำเนินนโยบาย เสียน้อยเพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้ มีการเจรจาตกลงกันระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ซึ่งในที่สุดไทยต้องยอมตามข้อเรียกร้องของฝรั่งเศส โดยยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ฝรั่งเศส เป็นเงิน 3 ล้านบาท และไทยต้องสละสิทธิในดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส และฝรั่งเศสได้เข้ายึดเมืองจันทบุรีไว้เป็นตัวประกัน ซึ่งยึดไว้เป็นเวลานานถึง 10 ปี
สมภพ จันทรประภา อดีตรองอธิบดีกรมศิลปากร เขียนเล่าไว้ว่า “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้องทรงนำเงินที่ใส่ ‘ถุงแดง’ จำนวนสามหมื่นชั่ง (2,400,000บาท) ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานไว้สำหรับแผ่นดิน และ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มิได้ทรงนำไปใช้จ่าย มาทรงใช้ในการนี้ และส่วนที่ยังขาดอยู่ 6 แสนบาทนั้น ใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของพระบรมวงศานุวงศ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายในช่วยกันออก ส่วนใหญ่เป็นของ สมเด็จกรมพระยาสุดารัตนราชประยูร ที่ทรงเก็บไว้ใต้ถุนตำหนัก”
จึงนับได้ว่า “เงินถุงแดง” นี้ ช่วยรักษา “เอกราช” ของชาติไว้ได้หาไม่แล้ว ความพยายามหลากหลายวิธีของฝรั่งเศสก็จะต้องสัมฤทธิผลและไทยจะต้องตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส เช่นเดียวกับระเทศเพื่อนบ้านของไทย แต่เป็นบุญของชาติไทยที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถ ทรงรักชาติบ้านเมือง ทรงรักและซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินและประชาชนดังเช่น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพสกนิกรไทยทั้งปวงสมควรน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดทูนพระเกียรติคุณของพระองค์ให้ยิ่งใหญ่ไพศาลตลอดกาล
สร้างวัดผสมผสาน ศิลปะไทยและจีน
ยุคสมัยของรัชกาลที่ 3 เป็นยุคที่การค้าขายเจริญรุ่งเรือง บ้านเมืองปราศจากศึกสงคราม จึงมีเวลาทำนุบำรุงบ้านเมือง ทั้งด้านการก่อสร้าง สถาปัตยกรรม และพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ศาสนสถาน” ในครานั้นพระองค์ทรงสร้างวัดขึ้นใหม่ในแบบอย่างสถาปัตยกรรมที่แตกต่างออกไปทุกรัชกาลที่ผ่านมา โดยผสานระหว่างศิลปไทยและจีน สืบมาจนถึงปัจจุบัน เช่น “วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร” วัดราชนัดดารามวรวิหาร วัดเทพธิดาราม วัดยานนาวา วัดนางนองวรวิหาร และวัดกัลยาณมิตร เป็นต้น
Cr.เนื้อหา ไทยรัฐ และ. Fb พัชรี ทับโคตร
พ่อ ญี่ปุ่น 在 Eat with Pal Li - พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง Facebook 的最讚貼文
❗️ #อัพเดท... สถานการณ์ Covid-19 ในฮ่องกง
(14 มีค 63 เวลา 12.00 น.)
.
สรุป ข่าวของวันที่ 13 มีค ค่ะ
.
#ไฮไลท์
- ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6 คน เกือบทั้งหมดมีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ตุรกี ฯลฯ
.
- ฮ่องกงพบผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นชายชราชาวฮ่องกง มีโรคประจำตัวเป็นโปลิโอ ความดันโลหิต และหลอดเลือดสมอง แพทย์ระบุว่า เสียชีวิตจากโควิด-19
.
- เด็กฮ่องกงอายุประมาณขวบครึ่ง ถูกระบุว่าติดเชื้อ โดยเพิ่งกลับจากอังกฤษพร้อมพ่อแม่ ซึ่งถูกระบุว่าติดเชื้อไปก่อนหน้านี้
สื่อรายงานว่า ครอบครัวนี้ นั่งใกล้คนอังกฤษที่ถูกระบุว่าติดเชื้อไปก่อนหน้า ตอนบินกลับฮ่องกง
.
- ฮ่องกงเพิ่มมาตรการกักตัวคนที่กลับจากอียิปต์ และกลุ่มประเทศเชงเก้น
.
- WHO ประกาศให้ยุโรป เป็นศูนย์กลางการแพร่เชื้อโควิด19 แห่งใหม่
.
#ฮ่องกง
- (13 มีค) พบผู้ติดเชื้อ 6 คน เสียชีวิต 1 คน รักษาหาย 3 คน
- (ยอดรวมแบบสะสม) ติดเชื้อแบบ confirmed case 137 คน ยังไม่คอนเฟิร์ม (probable case) 1 คน เสียชีวิต 4 คน รักษาหาย 78 คน
.
==============
#สถิติ ผู้ติดเชื้อแบบสะสมในฮ่องกง (รวม probable case)
(ณ วันที่ 13 มีค)
==============
#พลเมือง
ฮ่องกง (131 คน, 95%)
จีนแผ่นดินใหญ่ (7 คน, 5%)
.
#เพศ (ติดเชื้อ)(รักษาหาย)(เสียชีวิต)
ชาย (69 คน, 50%)(37 คน, 54%)(3 คน, 4%)
หญิง (69 คน, 50%)(41 คน, 59%)(1 คน, 1%)
.
#อายุ (ติดเชื้อ)(รักษาหาย)(เสียชีวิต)
1-10 ปี (1 คน, 1%)
11-20 ปี (1 คน, 1%)(1 คน, 100%)
21-30 ปี (13 คน, 9%)(9 คน, 69%)
31-40 ปี (15 คน, 11%)(9 คน, 60%)(1 คน, 7%)
41-50 ปี (15 คน, 11%)(7 คน, 47%)
51-60 ปี (36 คน, 26%)(21 คน, 60%)
61-70 ปี (35 คน, 25%)(22 คน, 69%)(1 คน, 3%)
71-80 ปี (17 คน, 12%)(8 คน, 47%)(2 คน, 12%)
81-97 ปี (5 คน, 4%)(1 คน, 20%)
.
#สถานที่ที่คาดว่าติดเชื้อ
นอกฮ่องกง (41 คน, 30%)
ในฮ่องกง (97 คน, 70%)
.
#ลักษณะการติดเชื้อ
เคสใหม่ (56 คน, 41%)
เกี่ยวโยงกับผู้ที่ติดเชื้อแล้ว (78 คน, 57%)
ระบุไม่ได้(ติดเชื้อนอกฮ่องกง) (4 คน, 2%)
.
#ติดเชื้อภายในกลุ่ม (cluster): 26 กลุ่ม
.
#กรณีพิเศษ
(1) ผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับวัด Fook Wai Ching She Buddist Worship Hall บนตึก Maylun Apartment (North Point):
19 คน (เคยไปที่วัด 13 คน)
.
(2) ผู้ติดเชื้อที่ถูกระบุในฮ่องกงหลังจากกลับจากเรือ Diamond Princess: 10 คน
หมายเหตุ:
- คนฮ่องกงติดเชื้อบนเรือและรักษาในญี่ปุ่น 72 คน เสียชีวิต 1 คน
- คนฮ่องกงที่ตรวจพบว่าหายแล้วที่ญี่ปุ่น แต่กลับมาพบเชื้อในฮ่องกงอีกครั้ง: 1 คน
.
(3) ผู้ติดเชื้อที่เคยเป็น probable case และกลายเป็น confirmed case: 3 คน (จาก 4 คน)
.
(4) ผู้ที่กลับจากหูเป่ย: 1 คน
.
(5) ผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับทริปต่างประเทศเดียวกัน
- อินเดีย: 8 (ร่วมทริป 5 คน)
- อียิปต์: 9 คน (ร่วมทริป 9 คน)
.
#ผู้เสียชีวิต รวม 4 คน เพศ/อายุ/โรคประจำตัว:
(1) ชาย/39/เบาหวาน
(2) ชาย/70/เบาหวานและไต
(3) หญิง/76/เบาหวาน
(4) ชาย/80/โปลิโอ,ความดันโลหิต,หลอดเลือดสมอง
.
#อัตราการเสียชีวิต (4 คน, 2.90%)
#อัตราการรักษาหาย (78 คน, 56.52%)
.
==============
#ผู้เสียชีวิตรายที่4
- ชายชาวฮ่องกง วัย 80 ปี พื้นฐานเป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัว คือ โปลิโอ หลอดเลือดสมอง และความดันโลหิต
- เป็นสามีของผู้ติดเชื้อรายที่ 74
- อาศัยอยู่ในตึก Maylun Apartments (North Point) ซึ่งเป็นตึกเดียวกับวัดพุทธ Fook Wai Ching She ที่เกิดการติดเชื้อแบบ cluster โดยภรรยาไปวัดทุกเช้า แต่ตัวเค้าไม่เคยไป
- Timeline:
23 กพ ภรรยาถูกระบุว่าติดเชื้อ ขณะนี้ยังอยู่ใน รพ
25 กพ ตัวเค้าเริ่มมีไข้และไอ แอดมิทที่ รพ Pamela Youde Nethersole (Chai Wan)
26 กพ ถูกระบุว่าติดเชื้อรายที่ 89 อาการไม่รุนแรง
6 มีค ระดับออกซิเจนลดลง และเริ่มมีอาการทรงๆ ทรุดๆ
13 มีค ช่วงเช้า อาการทรุดหนัก ต่อมาถูกระบุว่า เสียชีวิตแล้วจากโควิด-19
- รวมเวลาตั้งแต่มีอาการจนกระทั่งเสียชีวิต: 16 วัน
.
#ผู้ติดเชื้อรายที่133และ138
- #133 เด็กชายชาวฮ่องกง วัย 1 ปี 4 เดือน พื้นฐานสุขภาพแข็งแรง
- #138 ชายชาวฮ่องกง วัย 66 ปี พื้นฐานสุขภาพแข็งแรง ไม่มีประวัติเดินทาง
- #133 เป็นลูกชายของผู้ติดเชื้อคู่สามี(#131)และภรรยา(#130) ส่วน #138 คือ บิดาของ #130
- ทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกันที่ iPlace (Kwai Chung)
- Timeline:
29 กพ #133 กลับจากอังกฤษถึงฮ่องกง พร้อมพ่อแม่
3 มีค พ่อและแม่ของเด็กเริ่มมีไข้
11 มีค แม่ของเด็กถูกระบุว่าติดเชื้อ พ่อของเด็กถูกส่งมาแอดมิทที่ รพ Princess Margaret (Lai Chi Kok) ในฐานะคนใกล้ชิด
12 มีค พ่อของเด็กถูกระบุว่าติดเชื้อ เด็กเริ่มน้ำมูกไหล จึงส่งตัวไปที่ รพ เดียวกับพ่อแม่
13 มีค เด็กถูกระบุว่าติดเชื้อ อาการไม่รุนแรง หมอให้แค่ยาพาราเซตตามอล #138 ก็ถูกระบุว่า ติดเชื้อเช่นกัน โดยไม่มีอาการใดๆ ถูกส่งไปรักษาที่ รพ เดียวกัน
- หมายเหตุ:
(1) ทางการระบุว่า ทั้งสองติดเชื้อแบบคนใกล้ชิดของผู้ที่มีแนวโน้มติดเชื้อในฮ่องกง
(2) ตอนบินกลับจากอังกฤษ ครอบครัวนี้(พ่อ-แม่-ลูก) นั่งใกล้กับคนอังกฤษที่ถูกระบุว่าติดเชื้อไปแล้ว
.
#ผู้ติดเชื้อรายที่134
- ชายชาวฮ่องกง อายุ 67 ปี พื้นฐานสุขภาพแข็งแรง
- ทำงานเป็นผู้บริหารระดับสูง บริษัท Lion Rock Group
- อาศัยอยู่ที่ Ng Tung Chai (Lam Tsuen)
- Timeline:
27 กพ - 8 มีค อยู่ในลอนดอน พบกับคนอิตาลีที่ไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด
8 มีค โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส เที่ยวบิน CX250 จากลอนดอนถึงฮ่องกง
9 มีค เข้าออฟฟิศมาประชุมกับลูกค้าที่ตึก 625 King’s Road (North Point)
10 มีค เริ่มมีไข้และไอ
11 มีค หาหมอที่ รพ Ruttonjee (Wan Chai)
13 มีค ถูกระบุว่า ติดเชื้อ อาการไม่รุนแรง รักษาที่ รพ Prince of Wales (Sha Tin)
- หมายเหตุ:
(1) ทางการระบุว่า น่าจะติดเชื้อในฮ่องกง
(2) ภรรยาก็เริ่มมีอาการเจ็บคอ เข้ารักษาที่ รพ Alice Ho Miu Ling Nethersole (Tai Po)
.
#ผู้ติดเชื้อรายที่135
- หญิงชาวฮ่องกง อายุ 30 ปี พื้นฐานสุขภาพแข็งแรง
- อาศัยโดยลำพังที่ View Villa (Tai Ping Shan)
- Timeline:
10-26 กพ อยู่ที่กรีซ
26-27 กพ เดินทางจากเอเธนส์ ไปลอนดอนและต่อไปยังปารีส
27 กพ - 4 มีค อยู่ปารีส
5 มีค โดยสารชั้นบิสเนสคลาส จากปารีส เที่ยวบิน TK1828 ทรานสิทที่อีสตันบูล ต่อเที่ยวบิน TK30 กลับฮ่องกง
8 มีค ไป hiking ที่ Clearwater Bay ในช่วงเย็นเริ่มมีรู้สึกเหนื่อยและมีไข้ จึงไปพบแพทย์ที่ รพ Ruttonjee (Wan Chai)
13 มีค ถูกระบุว่า ติดเชื้อ อาการไม่รุนแรง ถูกส่งไปรักษาที่ รพ Queen Mary (Pok Fu Lam)
- หมายเหตุ: ทางการระบุว่า น่าจะติดเชื้อในฮ่องกง
.
#ผู้ติดเชื้อรายที่136
- ชายชาวฮ่องกง วัย 61 ปี พื้นฐานสุขภาพแข็งแรง
- อาศัยอยู่เพียงลำพังที่ 18 Stanley Street (Stanley)
- Timeline:
27 กพ - 9 มีค อยู่โคโลราโด้ สหรัฐอเมริกา
7 มีค เริ่มไอและเจ็บคอ พบว่า ญาติหลายคนที่รี่ก็ไม่สบาย
10 มีค กลับฮ่องกงโดยทรานสิทในญี่ปุ่นด้วยไฟลท์ NH811
12 มีค ส่งน้ำลายไปตรวจหาเชื้อ
13 มีค ผลตรวจถูกระบุว่า ติดเชื้อ อาการไม่รุนแรง ถูกส่งไปรักษาที่ รพ Pamela Youde Nethersole Eastern (Chai Wan)
- หมายเหตุ:
(1) ทางการระบุว่า น่าจะติดเชื้อในฮ่องกง
(2) จากข่าวของ South China Morning Post ผู้ติดเชื้อรายนี้อาจเป็นหมอ
.
#ผู้ติดเชื้อรายที่137
- หญิงชาวฮ่องกง วัย 54 ปี พื้นฐานสุขภาพแข็งแรง
- อาศัยอยู่เพียงลำพังที่ Tai Hang Terrace, Block A (Tai Hang)
- Timeline:
13 กพ - 8 มีค อยู่ที่ฝรั่งเศสและโมรอคโค
6 มีค เริ่มไอ
8 มีค เดินทางจากโมรอคโคถึงอัมสเตอร์ดัม ด้วยเที่ยวบิน HV5760 ชั้นประหยัด และ ทรานสิทต่อเที่ยวบิน KL887 ชั้น premium economy กลับฮ่องกง
9 มีค ถึงฮ่องกง
11 มีค ไปที่ Cavendish Height, Block 2 (Jardine’s Lookout)
12 มีค หาหมอที่ Sai Ying Pun Jockey Club General Out-patient Clinic
13 มีค ถูกระบุว่า ติดเชื้อ อาการไม่รุนแรง ถูกส่งไปรักษาที่ รพ Pamela Youde Nethersole Eastern (Chai Wan)
- - หมายเหตุ: ทางการระบุว่า ติดเชื้อจากต่างประเทศ
.
#ผู้รักษาหายรายที่77และ78
- พลเมืองฮ่องกง ไม่ทราบเชื้อชาติ เพศหญิง วัย 29 ปี (#77) และ 47 ปี (#78) ทั้งคู่พื้นฐานสุขภาพแข็งแรง
- ทั้งคู่ทำงานเป็นแม่บ้านให้ผู้ติดเชื้อรายที่ #85 (เจ้าของหมาปอม)
- อาศัยอยู่กับนายจ้างที่ Swiss Towers, Block 4 (Tai Hang)
- Timeline:
16 กพ #77 เริ่มมีไข้
20 และ 24 กพ #77 หาหมอ
25 กพ นายจ้างถูกระบุว่าติดเชื้อ #77 แอดมิทที่ รพ Ruttonjee (Wan Chai) เนื่องจากเป็นคนใกล้ชิดและมีอาการ
26 กพ #77 ถูกระบุว่าติดเชื้อ#90 อาการไม่รุนแรง
8 มีค นายจ้างออกจาก รพ ส่วน #78 เธอไม่มีอาการใดๆ และก่อนหน้านี้(ไม่ทราบวันที่)ถูกส่งตัวไปที่ศูนย์กักตัวของทางการ เมื่อถูกระบุว่าติดเชื้อ#113 ในวันนี้ เธอจึงถูกส่งไปรักษาที่ รพ Prince of Wales (Sha Tin)
13 มีค ทั้งคู่ถูกระบุว่า ออกจาก รพ ได้
- รวมเวลาใน รพ ตั้งแต่ถูกระบุว่า ติดเชื้อ: 16 วัน (#77) และ 5 วัน (#78)
.
#ผู้รักษาหายที่เป็นผู้ติดเชื้อรายที่36
- ชายชาวฮ่องกง วัย 23 ปี
- อยู่ในครอบครัวที่พบผู้ติดเชื้อถึง 13 คน จากการทาน hotpot ร่วมกันในวันที่ 26 มค ที่ Lento Party Room (Kwun Tong)
- อาศัยอยู่ที่ Wan Chai Central Building (Wan Chai)
Timeline:
7 กพ เริ่มมีอาการ
9 กพ ถูกระบุว่าติดเชื้อ#36 รักษาที่ รพ Ruttonjee (Wan Chai)
24 กพ ถูกระบุว่า ออกจาก รพ ได้
25 กพ ทางการกลับไประบุว่า อยู่ใน รพ
13 มีค ถูกระบุว่า ออกจาก รพ ได้
- รวมเวลาใน รพ ตั้งแต่ถูกระบุว่า ติดเชื้อ: 33 วัน
.
หมายเหตุ:
เลขลำดับผู้ติดเชื้อ จะรวมจำนวนทั้งเคส confirmed และ เคส probable
.
==================
#สรุปข่าวโควิด19ที่เกี่ยวกับฮ่องกง
- รัฐบาลยกระดับการเดินทางไปกลุ่มประเทศใหม่ให้เป็น “ระดับสีแดง” ได้แก่ ประเทศอียิปต์และกลุ่มประเทศยุโรป(เชงเก้น) อันได้แก่ Austria, Belgium, Czech Republic, Denmark, Estonia, Finland, France, Germany, Greece, Hungary, Iceland, Italy, Latvia, Liechtenstein (บางพื้นที่), Lithuania, Luxembourg, Malta, the Netherlands, Norway, Poland, Portugal, Slovak Republic, Republic of Slovenia, Spain, Sweden, and Switzerland
โดยให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไป หากไม่จำเป็น
ส่วนใครที่เดินทางเข้ามาจากกลุ่มประเทศเชงเก้นและเกาหลีใต้ ต้องกักตัวเองดูอาการ 14 วัน ยกเว้นที่ประกาศก่อนหน้านี้ คือ คนที่เดินทางมาจาก อิตาลี, สเปน(บางพื้นที่), เยอรมัน, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น (ฮอกไกโด) ต้องกักตัวที่ศูนย์ของทางการ
.
- นักจุลชีววิทยาอันดับต้นๆ ในฮ่องกง ให้คำแนะนำรัฐบาลว่า ควรกักตัวดูอาการคนที่เข้าฮ่องกงจากอังกฤษด้วย
.
- องค์การโรงพยาบาลฮ่องกง ยอมรับว่า บางครั้งต้องใช้ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนรักษาผู้ป่วย ในกรณีที่ยาตัวอื่นที่ขึ้นทะเบียนขาดตลาด
โดยยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนที่นำมารักษา คือ Tazocin ผลิตในจีนแผ่นดินใหญ่ ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจ ทางเดินปัสสาวะ กระดูกและข้อ ในช่องท้อง และในกระแสเลือด
โดยแม้ยานี้จะไม่ได้ขึ้นทะเบียนในฮ่องกง แต่ได้ขึ้นทะเบียนในต่างประเทศ
.
- ไปรษณีย์ฮ่องกงปรับการให้บริการในบางประเทศทั่วทุกทวีป เนื่องจากได้รับผลกระทบจากจำนวนเที่ยวบินที่จำกัด สามารถเช็ครายละเอียดได้ที่ >> https://www.info.gov.hk/gia/general/202003/13/P2020031300678.htm
.
- กระทรวงเกษตร,ประมง,และอนุรักษ์ อนุมัติการจ่ายเงินให้เจ้าของเรือประมงตามโครงการช่วยเหลือสถานการณ์โควิด19 แล้ว เป็นเงิน HK$6,680,000 (ราว 27 ล้านบาท) ทั้งนี้ ทางการยังเปิดให้ยื่นแบบฟอร์มขอเงินช่วยเหลือได้ถึง 17 เมย นี้
.
- นักเรียนที่มีฐานะยากจน กำลังประสบปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ฯลฯ ในการเรียนทางออนไลน์ ในระหว่างที่ทางการสั่งปิดโรงเรียนเนื่องจากไวรัส
.
- สมาชิกสภาเขตเกาะฮ่องกงทางตอนใต้ เรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือภัตตาคารลอยน้ำ Jumbo Kingdom ที่เพิ่งประกาศปิดตัวชั่วคราวจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยอ้างว่า ภัตตาคารแห่งนี้ เป็นสัญลักษณ์ของเมือง Aberdeen และของฮ่องกง
.
- (13 มีค) ดัชนีหั่งเส็ง เปิดตลาดในแดนบวกราว 1,700 จุด แต่กลับปิดตลาดในแดนลบ 267 จุด (-1.1%) มาอยู่ที่ 24,032 จุด
.
==================
#ภาพรวมโควิด19
- องค์การอนามัยโลก ประกาศให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 แห่งใหม่
.
#eatlike852 #covid19hongkong
พ่อ ญี่ปุ่น 在 Omiyage JAPAN Youtube 的精選貼文
#ครอบครัวญี่ปุ่น #หมาชิบะ #OmiyageJAPAN
Natto Chan T-shirt → Line nattojaa
Member ship → https://www.youtube.com/channel/UCFmOVVg9qEurW8_XywEWrHQ/join
@柴犬なっとうShibainu Natto chan
ติดต่องาน Line takawwe22
พ่อ ญี่ปุ่น 在 Little Monster Family Youtube 的最佳解答
ปิดทริปญี่ปุ่น! สวนสนุกและงานดอกไม้ไฟ สนุกจนไม่อยากกลับบ้าน!!
ติดตาม Little Monster ได้ที่...
::: Subscribe Channel :::
Little Monster Family :
: http://bit.ly/2dIlj7F
Little Monster Song :
http://bit.ly/2dZiOel
Facebook :
https://www.facebook.com/littlemonsterrocknroll
พ่อ ญี่ปุ่น 在 Little Monster Family Youtube 的精選貼文
พ่อเหว่งพามาฉลอง จินขึ้นป.1 มื้อใหญ่ กินกันเก่งมาก จนพ่อหมดตัวววว
ติดตาม Little Monster ได้ที่...
::: Subscribe Channel :::
Little Monster Family :
: http://bit.ly/2dIlj7F
Little Monster Song :
http://bit.ly/2dZiOel
Facebook :
https://www.facebook.com/littlemonsterrocknroll
IG : https://www.instagram.com/littlemonsterrocknroll/?hl=th
พ่อ ญี่ปุ่น 在 ภาษาญี่ปุ่น 1 วัน 1 นาที :... - Wasu's thought on Japan - Facebook 的推薦與評價
คำศัพท์ว่า พ่อ นั้น คำที่เราเรียนกันคำแรกๆคือคำว่า お父さん {おとうさん} [โอะโตะซัง] "otosan" แปลว่า "พ่อ" แต่หลังจากที่ผมได้ดูละครญี่ปุ่น ... ... <看更多>
พ่อ ญี่ปุ่น 在 คำว่า "พ่อแม่" ในภาษาญี่ปุ่น 親 (おや) กับ 両親(りょうしん) ต่าง ... 的推薦與評價
คำศัพท์ภาษา ญี่ปุ่น น่ารู้วันนี้ ขอเสนอคำว่า 親 (おや) กับ 両親(りょうしん) ซึ่งทั้ง 2 คำนี้มีความหมายคล้ายกันว่า " พ่อ แม่" ... ... <看更多>