What's my name What's my name?
ไหนคะใครชนะ ไหนคะใครชนะ
เก็บแต้มแบบเต็มๆ ไม่มีตกหล่นนะคะ
.
นัดนี้มหาเมพโจนส์ปังไม่ไหวเจ้าค่ะ ถ้าบอกว่านัดนี้กัปตันคือ คนนี้ก็เชื่อนะ อายุ 20 แต่เอาเกมอยู่ทุกตรง เล่นเนียนตา เคลียร์บอล ตัดบอล เลี้ยงยาว ว่างๆ ก็ไปช่วยร็อบโบ้ สักพักขึ้นมายิงเองเฉย หลายโอกาสในเกมก็ได้คนนี้นี่แหละ คือ ผู้นำเชียร์ที่แท้ทรู แล้วเดี๋ยวก่อนหายใจเข้าก็แอสซิสต์ หายใจออกก็แอสซิสต์แบบนี้ก็ได้หรอ เล่นขนาดนี้เอาตรงไหนมาโป๊ะ อื้มมมมมมนะ~สำหรับครู 'มารดา' นัดนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากท่านมหาเมพโจนส์ค่ะ ♥️⚽️
同時也有55部Youtube影片,追蹤數超過41萬的網紅DeeJung Studio,也在其Youtube影片中提到,สวดบูชาพ่อเเม่ 3 คาถา ท่องทุกวันก่อนนอน พบเจอแต่ความก้าวหน้า อิมินาสักกาเรนะ ข้าขอกราบสักการบูชา อันพระบิดร มารดา ตัวข้าขอน้อมระลึกคุณ ท่านมีเมตตาการ...
「มารดา」的推薦目錄:
- 關於มารดา 在 Facebook 的最佳貼文
- 關於มารดา 在 sittikorn saksang Facebook 的最佳貼文
- 關於มารดา 在 Facebook 的最佳解答
- 關於มารดา 在 DeeJung Studio Youtube 的精選貼文
- 關於มารดา 在 FNDiary Youtube 的最讚貼文
- 關於มารดา 在 ช่องแม่นนะหนึ่ง 88 Youtube 的最讚貼文
- 關於มารดา 在 ป๋วย อึ๊งภากรณ์ จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน - YouTube 的評價
- 關於มารดา 在 โรงเรียนมารดานฤมล 的評價
มารดา 在 sittikorn saksang Facebook 的最佳貼文
“โสกราตีสกับการเคารพเขื่อฟังกฎหมาย”
เมื่อพิจารณาศึกษานักคิดที่ให้ความสำคัญกับ”หลักการเคารพเชื่อฟังกฎหมายที่เป็นเครื่องมือของรัฐที่ควบคุมทางสังคม” ที่คลาสสิคและเป็นที่กล่าวถึงมากที่สุด คือ โสกราตีส
กล่าวคือ โสกราตีส ได้วางหลักการแนวคิดการยอมรับกฎหมายที่ตัวเองไม่มีความผิดในข้อหา “สร้างเทพเจ้าขึ้นใหม่และบ่อนทำลายจิตใจของคนหนุ่มสาวกรีก” สมัยนั้น โดนพิพากษาลงโทษดื่มยาพิษ โสกราตีส ยืนยันที่ยอมรับโทษประหารชีวิต ถึงแม้ได้ประกาศว่าตนเองนั้นไม่มีความผิด กฎหมายหรือคำสั่งของผู้ปกครองที่ขัดต่อหลักกฎหมายธรรมชาติถือว่าเป็นกฎหมายหรือคำสั่งของผู้ปกครองเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ตามและที่สำคัญแม้ตนเองจะมีช่องทางหลบเลี่ยงโทษมหันต์ได้ แต่ โสกราตีส ต้องการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย อันเป็นหลักคุณธรรมของเขาว่า “ประชาชนทุกคนต้องเคารพปฏิบัติตามกฎหมายโดยไม่คำนึงว่ากฎหมายนั้นจะเป็นธรรมหรือไม่ก็ตาม”
โดยผู้เขียนขอนำข้อความบางส่วนในหนังสือ “ไครโต (โสกราตีส) เปลโต เขียน ส. ศิวรักษ์ แปล” ได้เขียนเกี่ยวกับหลักการเคารพเชื่อฟังกฎหมายที่เป็นเครื่องมือของรัฐของโสกราตีส ซึ่งเป็นสนทนาระหว่าง โสกราตีสกับใครโต มาอธิบาย ดังนี้
“โสกราตีส .......
ไครโต .......
โสกราตีส “เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ขอให้เราจงมาพิจารณาว่า ถ้าเราจากไปโดยมิได้รับอนุญาตจากรัฐ เราจะได้ชื่อว่าทำความผิดไหมและเป็นความผิดอันเราจะกระทำให้แก่คน ผู้ไม่ควรรับโทษทัณฑ์อันนี้เลยหรือเปล่า เราคงจะยึดมติที่เรายอมรับว่าถูกหรือไม่
ไครโต “ข้าพเจ้าตอบไม่ได้ดอก โสกราตีส เพราะข้าพเจ้าไม่เข้าใจ”
โสกราตีส “ถ้าเช่นนั้นก็ขอให้ข้าพเจ้าพูดใหม่ สมมติว่าเราหนีหรือจะเรียกว่ากระไรก็ตามและสมมติว่า กฎหมายและบ้านเมืองจะมาถามปัญหาว่า “โสกราตีส บอกเราหน่อยว่าการกระทำของท่านั้น หมายความว่ากระไรท่านทำการเพราะไม่ยอมเคารพสถาบันแห่งนี้ใช่ไหมท่านไม่นำพาต่อกฎหมายและจักรภพก็เท่ากับว่ารัฐนี้ควรตั้งอยู่ หรือควรสลายตัวลง” ไครโต เราจะตอบถ้อยคำนั้น ๆว่าอย่างไร อาจพูดได้มากยิ่งศิลปะวาทีด้วยแล้วยิ่งพูดได้คล่องว่า กฎหมายอันพิพากษาตัดสินสิ้นสุดไปแล้วนั้นไม่ดี หรือเราจะตอบว่า “ก็เพราะรัฐทำผิดก่อนคำตัดสินไม่ยุติธรรม” เราจะพูดว่ากระนั้นหรือพูดว่ากระไร”
ไครโต “พูดอย่างนี้ได้แน่”
โสกราตีส “ถ้ากฎหมายจะตอบว่า “ท่านกับเราตกลงกันแล้วมิใช่หรือ ท่านสาบานว่าจะทำตามคำตัดสินของบ้านเมือง” ถ้าเราแสดงความแปลกใจนี้กับคำพูดนี้ กฎหมายบ้านเมืองก็จะกล่าวต่อไปว่า “อย่าแปลกใจเลย โสกราตีสเรารู้ว่าท่านชอบถามและตอบปัญหา เราตอบก่อนว่า ท่านมีอะไรที่คิดคัดค้านต่อต้านนครนี้ จนพยายามที่จะทำลายเรา เราไม่ได้ให้กำเนิดท่านมาดอกหรือ ไม่ใช่เพราะอาศัยเราดอกหรือที่บิดาท่านได้กับมารดาจนเกิดท่าน ท่านเห็นว่ากฎหมายสมรสผิดกระนั้นหรือ” ข้าพเจ้าก็ต้องตอบว่า เปล่า “ถ้าเช่นนั้นท่านก็ต้องเห็นว่า กฎหมายว่าด้วยทารกสงเคราะห์และการศึกษาผิด ทั้ง ๆ ที่เราให้การศึกษาแก่ท่าน เราทำผิดหรือ เมื่อเราสั่งให้บิดาให้การศึกษาแก่ทาน ให้บำรุงเลี้ยงดูให้ฝึกหัดท่านทั้งทางกายและทางใจ” ข้าพเจ้าก็ต้องตอบว่าไม่ผิดหรือ
รัฐย่อมกล่าวต่อไปว่า “ดีแล้วก็เมื่อท่านเกิดเติบโตและได้เรียนรู้แล้ว ท่านจะว่าตัวท่านตลอดจนผู้สืบสายโลหิตของท่านต่อไปไม่ใช่ลูกของรัฐ บ่าวของรัฐอย่างไรก็ได้ถ้าเช่นนั้นแล้ว ท่านมีสิทธิที่จะทำกับเราได้เช่นเดียวกับที่เราจะทำกับท่านกระนั้นหรือ ถ้าท่านมีนาย ท่านจะทำกับนายอย่างที่ทำกับท่านไหม นายว่าท่าน ท่านว่านาย นายเฆี่ยนท่าน ท่านเฆี่ยนนาย นายทำให้ท่านเดือดร้อนท่านก็ทำกับนายเช่นนั้นบ้าง ท่านจะพยายามอย่างยิ่งที่จะทำลายล้างเรากระนั้นหรือ ท่านจะอ้างสิทธิที่จะทำเช่นนั้นไหม ท่านผู้รักคุณงามความดี
ปัญญาของท่านไม่ได้สั่งสอนให้ทราบดอกหรือ ว่าสิ่งซึ่งสูงกว่าบิดามารดาและญาติกาทั้งหลายก็คือ “ประเทศชาติ” อันเป็นที่รักยิ่งและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าบรรพบุรุษ ทั้งเทวดาและมนุษย์ที่มีความคิด ย่อมให้เกียรติรัฐยิ่งกว่าบุคคลท่านเคารพประเทศชาติ ยอมอยู่ใต้อำนาจ ทำการงานให้ยามเมื่อชาติต้องการยิ่งกว่าบิดามารดา ถ้าอยากให้รัฐทำตามเราก็ต้องเสนอแนะให้รัฐเห็นดีด้วย ถ้ารัฐออกคำสั่งท่านก็ต้องเชื่อฟังอย่างไม่ปริปาก จะสั่งอย่างไรก็ต้องทำตามจะขัง จะเฆี่ยนหรือฆ่าก็ตาม ที่ทำตามนั้นถูกต้องแล้วจะหนี จะเลี่ยง จะละหน้าที่ หาได้ไม่ ไม่ว่าจะในสงคราม ในศาลหรือที่ไหน ๆ ก็ตาม เราต้องทำตามคำของรัฐ เว้นไว้แต่เราจะพูดให้รัฐเชื่อตามหลักความยุตะรรมของเรา จะใช้กำลังต่อต้านบิดา มารดา ยังไม่ได้ แล้วจะไปขัดขืน ปิตุภูมิ มาตุภูมิ จะมียิ่งแล้วใหญ่หรือ” ไครโต เราจะตอบว่าอย่างไรที่กฎหมายบ้านเมืองว่ามานั้นจริงไหม”
ไครโต “.......
โสกราตีส ....
ไครโต “ข้าพเจ้าไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว โสกราตีส”
โสกราตีส “ถ้าเช่นนั้นก็พอแล้ว ไครโต ปล่อยให้ข้าพเจ้าได้สนองเทวโองการตามที่ควรจะเป็นไปเถิด”
จากบทสนทนาระหว่าง โสกราตีสกับไครโตนี้ ศาสตราจารย์ ดร.ไชยยันต์ ไชยพร ได้ตั้งคำถามหรือตั้งข้อสงสัยในเรื่องที่เกี่ยวกับการเคารพเชื่อฟังกฎหมายที่เป็นเครื่องมือของรัฐควบคุมคนในสังคมของ โสกราตีส ว่า “จะมี” หรือ “ไม่มีแนวคิดลัทธิอะไร” นอกเหนือไปจากการมีความรักในปัญญา ความรู้”
แต่สิ่งที่น่าสงสัย คือ ทำไม “นครรัฐเอเธนส์ที่เป็นประชาธิปไตยอันลือชื่อจึงไม่ยอมให้พลเมืองอย่าง โสกราตีส มีเสรีภาพทางความคิดได้ ?
ทำไม่สังคมเสรีอย่างเอเธนส์จึงตัดสินพิพากษาลงโทษโสกราตีสได้” ?
ทำให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดที่ว่า “เป็นสังคมที่ได้รับการยกย่องว่าให้สิทธิพลเมืองมีเสรีภาพในการพูด แสดงความคิดเห็นโดยการประหารชีวิตผู้รักในความรู้ในฐานะที่ได้กระทำความผิดอันร้ายแรงจากการใช้สิทธิเสรีภาพดังกล่าว”
เป็นไปได้หรือไม่ว่าปัญญาความรู้อย่างจริงจัง ย่อมนำมาซึ่งการตั้งคำถามกับ “ความจริงที่ดำรงอยู่อันเป็นปฏิปักษ์ต่อจารีตแบบแผนกฎเกณฑ์ที่ดำรงอยู่ในบ้านเมืองขณะนั้นด้วยเสมอ”
ทำให้นครรัฐเอเธนส์เกิดข้อสงสัยว่า “ผู้รักในความรู้ในระบอบประชาธิปไตยที่ให้สิทธิเสรีภาพในการพูดแก่ทุกคนและขณะเดียวก็เป็นระบอบที่ขับเคลื่อนด้วย “มติมหาชน” นั้นบางเรื่องก็ไม่สามารถไปด้วยกันได้เช่นกัน
มารดา 在 Facebook 的最佳解答
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เกิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นับตั้งแต่ พ.ศ. 2506 เป็นต้นมา เพื่อให้การสงเคราะห์ #ด้านสาธารณภัยและด้านการศึกษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์พระบรมราชูปถัมภกแห่งมูลนิธิองค์ปัจจุบัน ทรงมีพระราชปณิธานที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด การดำเนินงานของมูลนิธิเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ทำให้มีเด็กที่ขาดโอกาสในการศึกษาเนื่องด้วยบิดา มารดา หรือผู้ปกครองที่อุปการะเสียชีวิต มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้มอบโอกาสให้เด็ก #สามารถศึกษาเล่าเรียนได้สูงสุดตามความสามารถ #โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ให้เป็นดั่งแสงเทียนส่องทางให้เดินผ่านพ้นความมืดมิดในชีวิต เพื่อที่จะไปสู่อนาคตอันสดใส และส่งต่อโอกาสให้กับผู้อื่นต่อไป โดยรับเด็กเหล่านี้เป็นนักเรียนทุนพระราชทานเพื่อการศึกษาสงเคราะห์ จนกว่าจะสำเร็จการศึกษาสูงสุดตามความสามารถ #เหมือนกับกรณีเด็กกำพร้าจากสาธารณภัยอื่นๆที่มูลนิธิดำเนินการอยู่แล้วตามหลักเกณฑ์
ส่วนกรณีเด็กไร้ผู้อุปการะ #สามารถเลือกที่จะเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 19-43 และ 45-57 ซึ่งเป็นโรงเรียนประเภทอยู่ประจำ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย #เพื่อให้เด็กได้เรียนหนังสือและมีที่พักอาศัยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
โดยเบื้องต้นได้มอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพิจารณาตามขั้นตอนของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ
ซึ่งการสงเคราะห์ด้านการศึกษาของมูลนิธินั้น จะให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็กกำพร้าหรือเด็กอนาถาที่ครอบครัวประสบสาธารณภัย ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดีจบจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และให้การสนับสนุนกิจการของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 281 1902 ในเวลาทำการ (ทุกวันไม่เว้นวันหยุด)
ตรวจสอบรายชื่อโรงเรียนได้ที่ https://www.rajk.org/ เลือก โรงเรียนราชประชานุเคราะห์
#ทรงพระเจริญ
มารดา 在 DeeJung Studio Youtube 的精選貼文
สวดบูชาพ่อเเม่ 3 คาถา ท่องทุกวันก่อนนอน พบเจอแต่ความก้าวหน้า
อิมินาสักกาเรนะ ข้าขอกราบสักการบูชา อันพระบิดร มารดา ตัวข้าขอน้อมระลึกคุณ ท่านมีเมตตาการุณ อุปการะคุณต่อบุตรธิดา ท่านให้กำเนิดลูกมา ทั้งการศึกษาและอบรม ถึงแม้ลำบากขื่นขม ทุกข์ระทมสักเพียงใด ท่านไม่เคยหวั่นไหว ต่อสิ่งใดที่ได้เลี้ยงมา พระคุณท่านล้นฟ้า ยิ่งกว่าธาราและแผ่นดิน ข้าขอบูชาเป็นอาจิณ ตราบจนสิ้นดวงชีวา ขอปวงเทพไท้รักษาอันพระบิดรมารดาของข้า เทอญ..
มัยหัง มาตาปิตูนังวะปาเทสุ วันทามิ สาทะรัง (กราบ 1 ครั้ง)
อะนันตะคุณะ สัมปันนา ชะเนติชะนากา อุโภ มัยหัง มาตา ปิตูนังวะ ปาทา วันทามิ สาทะรัง
บทสวดขออโหสิกรรม
“กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โย โทโส อันว่าโทษใดความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอให้คุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คุณพี่ คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย”
มารดา 在 FNDiary Youtube 的最讚貼文
ตามมาฟังผีพม่าตัวสุดท้าย !! ( SNEAKchannel ) ►► https://tinyurl.com/yhpgoqd3
ผีขี้ และ ผีไทยที่น้อยคนรู้จัก : https://youtu.be/tA7zlDzkLww
ไทยที่ฝรั่งกลัว : https://youtu.be/L8188boghGc
FB : https://www.facebook.com/FNDiary
IG : https://goo.gl/FnJaQ6 IG : FNDiary
LINE Sticker :https://store.line.me/search/en?q=jr_krit
Twitter : https://twitter.com/diary_fn
-------------------------------------------
♫ Background Music ♫
Pendulum Waltz : Audionautix is licensed under a Creative Commons Attribution license (https://creativecommons.org/licenses/...) Artist: http://audionautix.com/
==Photo Credits==
www.pixabay.com
www.freepik.com
มารดา 在 ช่องแม่นนะหนึ่ง 88 Youtube 的最讚貼文
#หลวงพ่อบุญเสริม #ถูกหวย #แก้กรรม
พระครูวิมลธรรมรัตน์ หลวงพ่อบุญเสริม ธัมมปาโล วัดป่าสวนกล้วย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ท่านเกิด ณ บ้านหนองตาโผ่น บ้านเลขที่ 125 ถนนกันทรลักษ์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองตาโผ่น (ปัจจุบันเป็นโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองตาโผ่น) และเข้าเรียนต่อชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 - 7 โรงเรียนวารินชำราบ บิดา มารดา เป็นคนขยันขันแข็ง มีอาชีพค้าขาย จึงเข้าไปค้าขายในตลาดอำเภอวารินชำราบ ในช่วงหลังจบ ประถมศึกษาปีที่ 7 ช่วงวัยรุ่น ท่านมีโอกาสได้พบกับพระอาจารย์ฉลวย ซึ่งเป็นเพื่อนกับหลวงปู่ชา ได้จาริกแสวงบุญมาถึงอำเภอวารินชำราบ บิดา(ตาเกลี้ยง) ได้มีโอกาสพบสนทนาธรรมจึงฝากลูกให้บวชเณร เพื่อศึกษาธรรมะในเบื้องต้น ท่านได้ติดตามพระอาจารย์ฉลวยไปศึกษาธรรมะ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นานถึง 3 พรรษา แต่ด้วยเหตุที่พ่อได้เข้าวัดศึกษาธรรมะ แม่ต้องหาเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ท่านจึงได้ลาสิกขาบท กลับมาช่วยแม่ทำงานหาเงินเลี้ยงน้อง ๆ ขายสินค้าทุกชนิดแล้วแต่แม่จะจัดการ บางครั้งก็หาสินค้ามาขายเอง เงินกำไรเอามารวมให้แม่ บางครั้งท่านไปกับคาราวานขายสินค้าไปตามต่างจังหวัด ถึงนครพนม สกลนคร อุดร มหาสารคาม ขอนแก่น เมื่อกลับมาท่านจะส่งเงินให้แม่ทุกครั้ง ด้วยความรู้สึกน้อยใจแม่ ท่านได้นำเงินที่ขายสินค้าได้หนีแม่ไปกรุงเทพ ตามหาพี่ชายคนโต และคิดจะไปหางานทำในกรุงเทพ แต่กลับต้องไปเลี้ยงหลานแทน สุดท้ายจึงหาวิธีหาเงินเดินทางกลับบ้านวารินชำราบ อีกครั้ง ด้วยความสำนึกในบุญคุณของพ่อแม่ และกลับมาเรียนตัดผมกับพ่อ เพื่อเป็นนักตัดผมมืออาชีพ และนักออกแบบทรงผมมือดี
เพื่อความก้าวหน้าของครอบครัวพ่อแม่ ได้พาลูก ๆ ที่โตแล้ว เข้าไปเช่าบ้านในตัวเมือง แถวห้าแยกวงกลม วาริน บ้านเลขที่ 21/7 ถนนกันทรลักษ์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากบ้านสวน 1 กิโลเมตร และเปิดกิจการร้านตัดผม มีพ่อ(ตาเกลี้ยง)เป็นหลักให้ มีนายบุญส่ง นายบุญเสริม เป็นนายช่างรอง มีช่างในร้าน 3-4 คน นับเป็นร้านที่มีชื่อเสียงพอสมควร และเป็นร้านแรกที่มีพัดลม (ใช้ผ้าผืนใหญ่ๆ พัดโบกไปมาให้แขกที่มาตัดผม) พี่น้องคนอื่น ๆ ไปค้าขายในตลาดสดวารินชำราบ เป็นครอบครัวที่อยู่ท่ามกลางคนจีนแคระ แต้จิ๋ว จนทำให้พระอาจารย์บุญเสริมพูดภาษาจีนได้ดีทั้ง จีนแคระ และจีนแต้จิ๋ว ด้วยความเป็นผู้มีอัธยาศัยดี ทำให้ท่านมีเพื่อนมากมาย ทั้งเพื่อนในวัยเดียวกัน รุ่นน้อง วัยรุ่นหลายรุ่น ท่านมีเรื่องเล่ามากมายไม่จบไม่สิ้น อารมณ์ดี หลายคนเข้ามาในร้าน ไม่ได้มาตัดผม แต่มารอฟังว่า วันนี้พี่เสริมจะเล่าอะไรให้ฟัง
ถึงช่วงหนึ่งของชีวิตท่านได้ไปประกวดร้องเพลงที่ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ในแนวเพลงไทยสากล หลังจากนั้นท่านเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้อง และได้เป็นนักร้องประจำวง Spider ของ พันเอก สุบัน คงนิล รับใช้พี่น้องชาวอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง นานหลายปี โดยยังคงเป็นช่างตัดผม ขวัญใจวัยรุ่นในตอนกลางวัน และรับงานร้องเพลง ตอนกลางคืน จนสุดท้าย ท่านได้ร่วมกันตั้งวงดนตรีสตริง กับเพื่อนรัก (เฮียเตี้ย โรงหนังวาริน) ชื่อวง Big Ant รับงานทั่วไป ประมาณ 3 ปี
ความทีท่านเป็นเพื่อนกับเฮียเตี้ยโรงหนังวาริน วันใดที่นักพากย์หนังไม่มา ท่านก็ต้องไปรับงานพากย์หนัง นี่คือที่มาของนักพากย์หนัง ประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต และได้เพิ่มอีก อาชีพคือการทำหนังเร่ ซึ่งการฉายหนังล้อมผ้าต้องพากย์เอง คุมการฉาย การล้อมผ้าเอง นี่คือ นักบริหารจัดการ ท่านไม่เคยพัก จนท่านต้องทิ้งอาชีพช่างตัดผมไปโดยปริยาย ในขณะที่ พ่อแม่ เข้าวัดหนองป่าพงโดยสมบูรณ์ การทำมาหากินยังไม่สิ้น ท่านพาน้อง ๆ ค้าขาย ทำมาหากินไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดนิ่ง กิจการหนังเริ่มต้องหยุดตัว นักพากย์ตกงานเพราะมีหนัง 35 ม.ม. เข้ามาเครื่องฉายต้องปรับเปลี่ยน สุดท้าย บริษัทหนังเร่ใหญ่จากสุรินทร์ ได้ให้โอกาสท่านได้เข้าร่วมงานเป็นผู้จัดการหนังเร่ ประจำสาขาที่ ศรีสะเกษ และได้เพิ่มสาขาในวารินชำราบ อีก 1 สาขา ท่านทำหนัง 4 - 5 ปี ก็ต้องหยุด เพราะแม่ไม่สบาย ส่วนพ่อได้จาริกแสวงบุญไปกับหลวงปู่ชาไปเรื่อย ๆ ครอบครัวได้ย้ายกลับมาอยู่รวมกันที่บ้านหนองตาโผ่นครอบครัวใหญ่อีกครั้ง
ปี 2533 นางสาวพิสมัย อุกาพรหม ได้เสียชีวิตด้วยโรค ติดเชื้อในกระแสโลหิต พ่อไปแสวงบุญที่ วัดป่าคล้อเจริญธรรม น้ำยืน แม่ที่ป่วยไม่มีใครดูแล ท่านจึงออกจากตำแหน่งผู้จัดการบริษัทหนังเร่ มาดูแลแม่ โดยไปร้องเพลงที่ซีซอไนต์คลับ ในเวลากลางคืน และกลางวันดูแลแม่ที่ไม่สบาย น้องที่เป็นครูที่โรงเรียนสตรีสิริเกศ ต้องเดินทางไปกลับ อุบล - ศรีสะเกษ เพื่อเปลี่ยนกันดูแลแม่ สุดท้ายท่านสงสารโยมแม่มากจึงตั้งใจบวชพระอีกครั้ง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แม่ แม่จะได้สุขภาพดีแข็งแรง เจ้อ๋า(วารินเบเกอรี่) ได้พาท่านไปบวชที่วัดป่าใหญ่ โดยท่านเจ้าอาวาสเป็นอุปัชฌาย์ บวชและจำพรรษาที่วัดหนองป่าพง และมีโอกาสได้บริบาล ท่านหลวงปู่ชา สุภัทโท ซึ่งป่วยในขณะนั้น แม่อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนท่านก็ติดวัด และบวชต่อไม่มีวี่แววว่าจะลาสิกขาบท ความห่วงหมดไป เพราะน้องที่เป็นครู ได้กลับมาสร้างบ้านให้พ่อกับแม่ในปี 2535 และย้ายมาโรงเรียนโนนค้อวิทยาคม อำเภอโนนคูณ ศรีสะเกษ สามารถกลับมาดูแลพ่อแม่แทนท่านได้ และในปี 2536 ท่านได้แวะมาบอกที่บ้าน กับพ่อใหญ่สา ว่าท่านจะไปอยู่ที่วัดป่ากัทลิวัน บ้านสวนกล้วย (ส่วนใหญ่เรียกจนติดปากว่าท่านอยู่วัดป่าบ้านสวนกล้วย จนทุกวันนี้
มารดา 在 โรงเรียนมารดานฤมล 的推薦與評價
โรงเรียนมารดานฤมล · Page · Middle School · 45/12 ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง · +66 38 533 337 · mandanarumol.ac.th · See more about โรงเรียนมารดานฤมล. ... <看更多>
มารดา 在 ป๋วย อึ๊งภากรณ์ จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน - YouTube 的推薦與評價
... พระไพศาล วิสาโล และจอน อึ๊งภากรณ์ ติดตามชมสารคดี ป๋วย อึ๊งภากรณ์ จากครรภ์ มารดา ถึงเชิงตะกอน ทุกวันเสาร์ เวลา 21.10 – 22.00 น. ... <看更多>