วันนี้แมร์ไปจ.นนทบุรีมาค่ะ มีโอกาส ได้ไปมอบสิ่งของจำเป็น ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องปรุงต่างๆ เช่น น้ำปลา , น้ำตาล , น้ำมันพืช , ปลากระป๋อง ผ้าอ้อมเด็กและผู้ใหญ่ รวมทั้งเลี้ยงไก่ทอด และ ไอศกรีม เป็นมื้อเที่ยงให้กับเด็กๆผู้พิการที่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านนนทภูมิ จ. นนทบุรี มูลค่า 100,000 บาท
เพราะช่วงสถานการณ์ โควิด-19 ระบาดแบบนี้ คนบริจาคน้อยกว่าเดิมมาก บ้านนนทภูมิจึงประสบปัญหาขาดแคลนสิ่งของจำเป็นหลายอย่าง รวมทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ซึ่งแต่ละวันใช้จำนวนมากเพราะที่นี่ให้การอุปการะเลี้ยงดูเด็กพิการทางร่างกาย พิการทางการได้ยิน , พิการทางการเห็นและเด็กพิการซ้ำซ้อนทั้งชายและหญิงอายุระหว่าง 7-18 ปี จำนวน 315 คน
ของที่ต้องการ คือ ผ้าอ้อมอนามัย ไซส์ M ผู้ใหญ่ / แชมพู (แกลลอน,ขวด) / สบู่ / ถุงขยะดำ / น้ำยาฆ่าเชื้อเดทตอล / น้ำยาถูพื้น / น้ำยาปรับผ้านุ่ม / โรลออน / โลชั่นทาผิว / แป้งเด็ก / ยาสีฟัน-แปรงสีฟัน / ผงซักฟอก / ไม้กวาดอ่อน / ไม้กวาดแข็งด้ามยาว / กางเกงยางยืด (ผู้หญิง) / ช้อนสั้นแสตนเลส / กางเกงในชาย-หญิง (XL) / เสื้อยกทรง ไซส์ 40 ขึ้นไป
แมร์ขอเป็นกำลังใจให้พี่เลี้ยง ครู อาสาทุกท่านที่ได้เสียสละตนเองดูแลน้องๆทุกคน เพราะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาต้องนอนอยู่ที่นี่และไม่ได้กลับบ้าน เพราะเกรงว่าอาจจะมีความเสี่ยงเมื่อกลับบ้าน ดังนั้นจึงต้องนอนกับเด็กๆที่นี่มาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว เป็นกำลังใจให้กับคุณครูพี่เลี้ยงทุกคนด้วยค่ะ
ผู้ที่สนใจร่วมทำบุญสามารถนำอาหารมาเลี้ยงได้ โดยติดต่อมาก่อนล่วงหน้านะคะ เบอร์ 02-583-8396 , 02-583-7999 หรือ สามารถโอนเข้าได้ที่
🙏🏻 บัญชี สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านนนทภูมิ จังหวัดนนทบุรี
ธนาคารกรุงไทย สาขาปากเกร็ด (กระแสรายวัน)
เลขบัญชี 123-6-00734-4
🙏🏻 หรือ บัญชี มูลนิธิเด็กพิการบ้านนนทภูมิ
ธนาคารกรุงไทย สาขาปากเกร็ด (ออมทรัพย์)
เลขบัญชี 123-1-52598-3
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過3萬的網紅Gary Golf,也在其Youtube影片中提到,#บันทึกลับสามก๊ก เคาทู สร้างความ เสียหาย 210% แก่ศัตรู 1 ตัว หากพลังชีวิตเป้าหมายมากกว่า 50% จะสร้างความเสียหายเพิ่ม 400% เอฟเฟค สนามรบก๊กวุย -เมื...
「มีโอกาส คือ」的推薦目錄:
- 關於มีโอกาส คือ 在 Facebook 的最讚貼文
- 關於มีโอกาส คือ 在 Money Coach Facebook 的最佳解答
- 關於มีโอกาส คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
- 關於มีโอกาส คือ 在 Gary Golf Youtube 的最佳解答
- 關於มีโอกาส คือ 在 แม่ก้อยพาทำ Channel Youtube 的最佳貼文
- 關於มีโอกาส คือ 在 โอกาส คือคำนิยามของความท้าทายสู่เป้าหมาย | นวลพรรณ ล่ำซำ 的評價
- 關於มีโอกาส คือ 在 โอกาส” คือสะพานไปถึง “ฝัน” | ความหมายของคำว่า ... - Facebook 的評價
มีโอกาส คือ 在 Money Coach Facebook 的最佳解答
DAY 33: วางแผนให้ดี ก่อนออกจากงาน
ช่วงโควิดหลายคนประสบปัญหารายได้จากการทำงานประจำลดลง จึงเริ่มสร้างอาชีพที่ 2 และ 3 ทำควบคู่ไปกับงานประจำ จนเมื่อรายได้จากอาชีพเสริมเริ่มเพิ่มขึ้น บางคนจึงเริ่มคิดออกจากงานประจำ เพื่อมาลุยสร้างธุรกิจของตัวเอง
และนั่นจึงเป็นที่มาของคำถามสุดฮิตอีกหนึ่งคำถามในช่วงนี้ นั่นคือ “ลาออกจากงานประจำ มาทำธุรกิจส่วนตัวดีมั้ย”
อันที่จริงต้องออกตัวก่อนเลยว่า คำถามแบบนี้ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดแบบ 100% เพราะก็มีหลายคนที่ตอนทำอาชีพเสริมควบคู่กับงานประจำดูไปได้ดี แต่พอออกมาลุยทำธุรกิจเต็มๆ แล้วไปไม่รอด ในขณะที่บางคนทุบหมอข้าว ออกจากงานประจำมาลุยธุรกิจเลย แล้วกิจการเติบโตก้าวหน้าดี ก็มีให้เห็นอยู่เยอะ
วันนี้ผมเลยขอตอบจากมุมคิดส่วนตัวของผมเองก็แล้วกันนะครับ ว่าตอนที่ผมออกจากงานประจำมาทำธุรกิจส่วนตัว ผมคิดและจัดการอย่างไร เผื่อจะเป็นแนวทางหนึ่งให้กับคนที่กำลังคิดไม่ตกกับคำถามนี้
สำหรับคนที่กำลังทำงานประจำและคิดอยากออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ผมมีคำแนะนำเบื้องต้น ดังนี้ครับ
1. ควรเริ่มหรือลองทำธุรกิจส่วนตัว ควบคู่ไปกับงานประจำก่อน
ประเภทลาออกแล้วนับหนึ่งเลย ผมไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ ไม่ใช่แค่เรื่องความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง ที่ระหว่างสร้างกิจการ เงินสะสมที่มีจะค่อยๆ ร่อยหรอ และกว่ากิจการจะทำกำไร อาจจะบั่นทอนความคิดความรู้สึกของเราเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
นอกจากความเสี่ยงทางการเงิน อีกเรื่อง คือ ความเสี่ยงด้านเวลาและการจัดการตัวเอง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงออกจากงานประจำช่วงแรก ถ้าหากวางแผนการทำงานไม่ดี มีโอกาส “เคว้ง” หรือ “เท้งเต้ง” อยู่ช่วงเวลานึงเลยครับ ไม่รู้จะหยิบจับทำอะไรก่อนดี
ดังนั้น การเริ่มสร้างกิจการตั้งแต่ตอนทำงานประจำจึงเป็นเรื่องที่ดีกว่า ใช้เวลาช่วงเลิกงานและวันหยุด ค่อยๆ สร้าง ค่อยๆ ทำ แม้ว่าจะเหนื่อยสักหน่อย เวลาสำหรับธุรกิจมีน้อยไปหน่อย แต่ผมว่าคุณจะได้ฝึกเรื่องของการบริหารธุรกิจและการบริหารเวลาไปพร้อมๆ กัน อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อนี้แนะนำไว้เป็นอันดับ 1 เลยครับ
2. เริ่มทำธุรกิจใน Scale ที่พร้อมล้มเหลวได้
ช่วงเริ่มต้นทำอย่าบู๊มาก มีหลายคนพอคิดจะทำอะไรต้องใหญ่ไว้ก่อน (กลัวโลกไม่จำ) หลายครั้งสิ่งที่เป็นไอเดียที่เคยคิดว่าดี พอลุยจริงแล้วแป๊กตั้งแต่เริ่มเยอะแยะเลยครับ ลองไปถามคนทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จดูก็ได้ ว่าสินค้าที่ขายดีวันนี้ ใช่สินค้าที่ตั้งใจจะขายตั้งแต่วันแรกหรือเปล่า รับรองว่ามีคำตอบเซอร์ไพรส์แน่ๆ
การทำในสเกลที่ล้มเหลวได้ จัดเป็นวิธีการจำกัดความเสี่ยงแบบหนึ่ง ค่อยๆ ลองทำ เรียนรู้และพัฒนาการสร้างธุรกิจไปทีละน้อย เช่น อยากทำร้านอาหาร อาจเริ่มจากการลองทำอาหารกล่องขายแบบพรีออเดอร์กับคนใกล้ตัวก่อน หรือถ้าจะรับสินค้ามาขายหรือทำตลาด ก็อาจซื้อล๊อตเล็กๆ มาขายดูก่อนก็ได้
การจำกัดความเสี่ยงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราล้มแล้วไม่เจ็บตัวเกินไป ล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ได้เร็ว แถมยังเป็นการทดลองตลาดว่าเรามีความเข้าใจตลาดของสินค้าและบริการที่เราจะทำดีหรือไม่ หรืออย่างน้อยก็จะได้เรียนรู้และพัฒนา ในระดับความเสียหายที่ไม่แพงเกินไป
3. ให้ “กำไร” จากอาชีพเสริม มากกว่างานประจำ ต่อเนื่องสัก 1 ปี ถึงเริ่มคิดลาออก
มีหลายคนที่พอเริ่มทำอาชีพเสริมแล้วปุบปับโชคดี ได้เงินก้อนใหญ่ ได้รายได้งาม จนคิดว่าเราจะได้แบบนั้นไปตลอด แล้วพอออกมาทำเต็มตัวจริงๆ กลับไม่เป็นอย่างนั้น
ที่สำคัญหลายคนไม่เข้าใจว่ารายได้จากอาชีพเสริม ไม่ใช่รายได้ที่เราจะนำมาจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันได้ทันทีเหมือนกับเงินเดือน เพราะบางงานบางกิจการมีต้นทุนที่ต้องจ่าย (และอาจไม่ใช่น้อยๆด้วย) ที่ถูกต้องจึงควรพิจารณาที่ “กำไร” ของงานหรือธุรกิจเสริมที่เราทำเป็นหลัก ไม่ใช่รายได้
ดังนั้นการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายของงานเสริมหรือของกิจการ จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้เราสามารถตรวจสอบเงินสดไหลเข้าออกได้ (ที่จริงรายได้จากเงินเดือนก็ควรทำบัญขีด้วยนะ) รู้ต้นทุนและกำไรที่แท้จริงของกิจการที่เราทำ และหากคิดจะออกจากงาน ก็ควรสร้างและพัฒนากำไรของเราให้โตต่อเนื่อง และมากกว่างานประจำสัก 1 ปี ถึงค่อยคิดเรื่องลาออก
นอกจากนี้ เราอาจต้องพิจารณาแนวโน้มหรือเทรนด์ของกิจการหรืองานเสริมของเราด้วย เพราะกำไรเป็นผลประกอบการในอดีต แต่ถ้าจะออกจากงานไปทำเต็มตัว เราต้องดูแนวโน้มของงานเสริมเราในอนาคต ว่าจะไปได้สวย ไปได้ดี ต่อไปอีกนานแค่ไหน
4. เตรียมเงินสำรองทั้ง “ตัวเอง” และ “กิจการ”
เมื่อทำงานเสริมควบคู่ไปกับงานประจำ แล้วมี “กำไร” ก็ต้องสะสมกำไรเอาไว้ อย่าเอาไปกินใช้จนหมด เก็บสะสมกำไรไว้หมุนเวียนหรือขยายกิจการในวันที่ออกไปทำเต็มตัวจริงๆ ด้วยก็ดี เงินสำรองกิจการควรมีอย่างน้อย 1 ปี ทั้งนี้ควรแยกออกจากเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินส่วนตัว 6 เดือนด้วย
กินใช้ส่วนตัว สะสมเงินสำรองจากเงินเดือน เงินสำรองหมุนเวียนกิจการ สะสมจากกำไรในขณะทดลองกิจการควบคู่กับงานประจำ ถ้ามีเงินสำรองได้แบบนี้ ก็จะช่วยลดความกังวลในช่วงเริ่มต้นออกมาลุยเต็มด้วยได้ครับ
5. ระวังการบริหาร “เวลา” ให้ดี
ข้อดีข้อหนึ่งของการเป็นเจ้าของกิจการ ก็คือ อิสระด้านเวลา ที่เราสามารถจัดสรรเวลาได้เอง ไม่ต้องเข้างาน 9 โมง เลิก 5 โมง จนถึงขั้นคิดไปว่า จะทำงานเมื่อไหร่ก็ได้ เอาเข้าจริงไม่ใช่เลยครับ ถ้าออกจากงานมาแล้วใช้ชีวิตไร้ระเบียบ ใช้เวลาไม่เป็นประโยชน์ บอกเลยว่า “พัง” แน่นอน
หลายคนพอออกจากงานประจำมา ก็กลายเป็นคนไร้ระเบียบไปเลย นอนดึก ตื่นสาย กว่าจะตื่นก็ใกล้เที่ยง กว่าจะตั้งหลักลงมือทำอะไร ก็หมดไปอีกวัน ต้องระวังให้ดี จากแต่เดิมทำงานประจำไม่ต้องคิดมาก ตื่นเช้าไปทำงานทันเวลา ระหว่างวันมีอะไรให้ทำ ก็ทำไปตามนั้น พอทำธุรกิจส่วนตัว จะทำแบบนั้นไม่ได้ครับ เราต้องวางแผน ลงตารางเวลาทำงานของเราเอง และต้องมีวินัยมากกว่า ข้อเท็จจริงหนึ่งที่ผมพบในตอนธุรกิจส่วนตัวก็คือ การควบคุมตัวเองยากกว่าให้คนอื่นควบคุมเราเสียอีก
ทั้งหมดคือ คำแนะนำเบื้องต้นจากประสบการณ์ที่ผมเจอมากับตัวเอง อันที่จริงการเป็นผู้ประกอบการยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องใส่ใจและพัฒนาอีกเยอะ แต่ผมว่าเราสามารถเรียนรู้ไปขณะสร้างกิจการได้ แต่ทั้ง 5 ข้อที่ผมหยิบมาคุยวันนี้ ผมว่าเป็น A Must ที่ต้องคำนึงถึงและพิจารณาให้ดีก่อนออกจากงานประจำ
ชีวิตเถ้าแก่สนุกนะครับ แต่ถ้าเตรียมพร้อมไม่ดี ก็เหนื่อยและเครียดไม่น้อยเลย
ยังไงวางแผนดีๆ ครับ
#โค้ชหนุ่ม
มีโอกาส คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
"เมื่อ รมต. อุดมศึกษาฯ ประกาศจะส่งยานอวกาศไปดวงจันทร์ ในอีก 7 ปีข้างหน้า .. มันจะเป็นไปได้แค่ไหน?"
ตามคำเรียกร้องของหลายๆท่าน ที่อยากจะให้ช่วยวิเคราะห์ข่าวเรื่องนี้ ว่ามันเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ... ก็จะขอเรียบเรียงข้อมูลให้ฟังตามนี้นะครับ ยาวหน่อยนะ
1. เมื่อ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมต. ก. การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้กล่าวปาฐกถาว่า "เร็วๆ นี้ไทยจะเป็นชาติที่ 5 ของเอเชีย ที่จะสามารถผลิตยานอวกาศและส่งไปโคจรรอบดวงจันทร์ได้ โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการไม่เกิน 7 ปี และอาจมีการขอความร่วมมือและสนับสนุนจากประชาชนในการระดมทุน เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้จะเปลี่ยนวิธีคิดของคนไทย ว่าไทยไม่ใช่ประเทศที่ด้อยพัฒนาอีกแล้ว เราเป็นประเทศที่มีอนาคต มีโอกาส และมีความหวัง"(จาก https://www.sanook.com/news/8316210/)
2. หลังจากนั้น ก็เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายต่างๆ ตามมาอย่างหนัก ส่วนผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปที่ GISTDA (จิสด้า) หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ได้รับการยืนยันว่า มีโครงการนี้จริง แต่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ โดยทางรัฐมนตรีฯ จะเป็นผู้แถลงข่าวเรื่องนี้อีกครั้ง (จาก https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/138400)
3. จากที่ผมได้รับข้อมูลมาจากแหล่งข่าววงในทางด้านดาราศาสตร์ ทำให้ทราบว่า จริงๆแล้วไม่ใช่เป็นยานอวกาศใหญ่โตอะไร แต่เป็นยานขนาดเล็กระดับ "ดาวเทียม" ภายใต้โครงการ Thai Space Consortium หรือ TSC ซึ่งร่วมมือกับประเทศจีนอยู่แล้ว และจะพัฒนาให้มีศักยภาพสูงขึ้น ด้วยการใส่ระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ที่เรียกว่า ion drive (ไออ้อน ไดรฟ์) มาใช้ในการบังคับให้ดาวเทียมนี้ ไปโคจรรอบดวงจันทร์ เพื่อการสำรวจถ่ายภาพพื้นผิวดวงจันทร์ ด้วยงบประมาณที่ต่ำมาก ในแบบเดียวกับที่ประเทศอินเดียใช้สำหรับโครงการสํารวจดวงจันทร์
4. โครงการ TSC นั้น กำลังดำเนินการพัฒนาดาวเทียม TSC-1 ที่เป็นฝีมือคนไทยออกแบบและสร้างเอง เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีทางอวกาศของไทย ซึ่งโครงการนี้ดูแลโดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ , จิสด้า และสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน เป็นดาวเทียมวิจัยขนาดเล็ก ประมาณ 100 กิโลกรัม ใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท จุดเด่นคือ จะมีกล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 ซม. และมีอุปกรณ์ตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงสภาพอวกาศที่ใกล้กับชั้นบรรยากาศด้านบนสุดของโลก คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์กลางปี 2564 และจะมีการติดต่อและจองเครื่องปล่อยดาวเทียม และถูกส่งขึ้นสู่อวกาศปี 2567 ภายใต้ความร่วมมือกับ สถาบันทัศนศาสตร์ กลศาสตร์ขั้นสูงและฟิสิกส์แห่งฉางชุน สาธารณรัฐประชาชนจีน (จาก https://www.thairath.co.th/news/local/1487588)
5. ดังนั้นถ้ามีการพัฒนาให้ดาวเทียมดวงต่อไปของโครงการ TSC คือ TSC-2 มีศักยภาพสูงขึ้น ให้สามารถจะไปโคจรที่ดวงจันทร์ได้ ก็น่าจะทำคล้ายกับที่โครงการ SMART-1 ขององค์การอวกาศยุโรป ESA เคยทำมาก่อน ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไอออนไดรฟ์เหมือนกัน (อันนี้ผมคาดเดาเอง)
6. เทคโนโลยี Ion Drive (เครื่องขับดันไอออน) เป็นแนวคิดค่อนข้างใหม่ ของการสร้างระบบขับเคลื่อนในอวกาศ ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงกำลังอัดสูง ปริมาณมหาศาล อย่างในอดีต แต่ใช้พวกก๊าซเฉื่อย (อย่างก๊าซ ซีนอน xenon) มาทำให้แตกตัวเป็นไอออน (อนุภาคที่มีประจุขนาดเล็กจิ๋ว) จากนั้น เร่งความเร็วของไอออนเหล่านั้น ให้ผลักดันออกไปยังด้านหลังของยาน ด้วยความเร็วสูงถึง 20-50 กิโลเมตรต่อวินาที ทำให้ได้แรงผลักดันที่มาก ต่อมวลเชื้อเพลิงขับดันอันน้อยนิด ดังเช่นที่เคยใช้ในยานสำรวจอวกาศดอว์น Dawn, ยานดีพสเปซวัน Deep Space 1, ยานฮายาบูซะ Hayabusa ฯลฯ ซึ่งเครื่องยนต์ Ion Drive มีแรงขับดันที่ค่อนข้างต่ำ อัตราเร่งต่ำ เหมาะกับยานขนาดเล็ก และต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางเป็นเวลานาน (จาก https://m.facebook.com/NARITpage/photos/a.148308931899396/982060195190928/?type=3)
7. ตัวอย่างของการทำยานสำรวจดวงจันทร์ ที่ใช้ระบบ ion drive ก็ได้แก่ ยานสมาร์ต-1 (SMART-1 , Small Mission for Advanced Research and Technology) เป็นยานสำรวจดวงจันทร์ลำแรกของยุโรป มีน้ำหนักเพียง 366 กิโลกรัม ออกเดินทางจากโลกเมื่อปี 2546 และเดินทางถึงดวงจันทร์ปี 2547 ด้วยเส้นทางที่ยาวนาน ใช้วิธีวนรอบโลกหลายรอบ พร้อมกับขยายวงโคจรออกไปเรื่อย ๆ ก่อนจะบ่ายหน้าสู่ดวงจันทร์ ด้วยการใช้เครื่องยนต์ไอออนในการเดินทางในอวกาศจริงเป็นครั้งแรก และการใช้เครื่องยนต์ไอออนร่วมกับแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ ในการปรับเส้นทางยานเข้าโคจรรอบดวงจันทร์ โดยใช้เวลาโคจรอีกราว 16 เดือน ทำการศึกษาดวงจันทร์ทั้งด้านสัญฐานวิทยา องค์ประกอบของแร่บนพื้นผิว ทั้งย่านความถี่แสงขาว อินฟราเรด และรังสีเอกซ์ ซึ่งภารกิจของสมาร์ต-1 นี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น (จาก http://thaiastro.nectec.or.th/news/2548/)
8. ส่วนที่มีการอ้างอิงว่า โครงการสำรวจดวงจันทร์ของประเทศไทย จะพยายามใช้โมเดลเรื่องงบประมาณคล้ายๆ ของประเทศอินเดียนั้น ล่าสุด อินเดียได้ส่งยานลงจอดและสำรวจพื้นผิวดวงจันทร์ชื่อ "วิกรม” (Vikram) และยานโคจรรอบดวงจันทร์ ชื่อ "จันทรายาน 2" (Chandrayaan-2) ไปเมื่อปี 2562 ซึ่งเกือบทั้งหมดพัฒนาขึ้นเองในอินเดีย และใช้งบประมาณเพียง 140 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับปฏิบัติการสำรวจดวงจันทร์ของนาซาที่ใช้เงินถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 30 ล้านล้านบาท ในโครงการอะพอลโล (Apollo) (จาก https://mgronline.com/science/detail/9620000086182)
สรุป : แม้จะถูกเก็บเป็นความลับ (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะลับไปทำไม) แต่ประเมินศักยภาพและงบประมาณตามที่ผมคาดการณ์ว่าจะเป็นนั้น ก็ฟังขึ้นว่า "เป็นไปได้" ที่คนไทยเราจะพัฒนายานสำรวจขนาดเล็ก หรือดาวเทียม ไปโคจรรอบดวงจันทร์ได้จริงๆ และถ้าทำได้สำเร็จ ก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ และจะเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับการศึกษาวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีด้านอวกาศของไทย ให้ก้าวหน้ามากขึ้น
ปล. แต่ผมว่าจริงๆ น่าจะผลักดันโครงการ "ส่งนักบินอวกาศไทยคนแรก" ขึ้นไปอวกาศให้ได้นะครับ ใช้งบประมาณก็ไม่มากเกินไป ความร่วมมือกับนานาชาติก็มีอยู่แล้ว และจะได้ผลเรื่องการสร้างไอดอลด้านอวกาศ ให้เป็นแรงบันดาลใจกับเยาวชนของไทยเราต่อไปนะครับ
มีโอกาส คือ 在 Gary Golf Youtube 的最佳解答
#บันทึกลับสามก๊ก
เคาทู
สร้างความ เสียหาย 210% แก่ศัตรู 1 ตัว หากพลังชีวิตเป้าหมายมากกว่า 50% จะสร้างความเสียหายเพิ่ม 400%
เอฟเฟค สนามรบก๊กวุย
-เมื่อเริ่มเทิร์น เพิ่มพลังป้องกัน 15% แก่ทุกคนในทีม จนจบการต่อสู้ เมื่อใดก็ตามที่ขุนพลฝ่ายเราโจมตีศัตรูที่มีดีบัพ จะโจมตีแรงขึ้น 3% ต่อดีบัพ สูงสุด 15%
สกิลโกรธ
-โจมตี ศัตรู 1 ตัว ด้วยพลัง 650% ไม่สนพลังป้องกัน 40% และ สร้างความเสียหาย 700% แก่เป้าหมายหลัก พร้อมทั้งสตัน 1 เทิร์น และ สร้างความเสียหาย แก่ศัตรูโดยรอบ 50%
-เพิ่มอัตราแม่นยำ 20% แก่เพื่อนในทีมทุกคน 2 เทิร์น
-หากทีมเรามีฮีโร่ก๊กวุย 3 คนขึ้นไปจะเปิดเอฟเฟค สนามรบของก๊กวุย
ท่าไม้ตาย
-โจมตีศัตรู 1 ตัว ด้วยพลัง 975% ไม่สนพลังป้องกัน 50% และ สร้างความเสียหาย 1200% แก่เป้าหมายหลัก มีโอกาสตันศัตรู ถ้าหากเป้าหมาย อยู่ในสถาณะคอนโทรล จะฟื้นฟูพลังชีวิต 30% ของพลังโจมตีครั้งนี้ พร้อมทั้ง สร้างความเสียหาย 50% แก่ศัตรูรอบเป้าหมาย
-เคาทูจะเข้าสู่โหมด เสือคลั่ง 2 เทิร์น ในระหว่างที่อยู่ในโหมดนี้ แดมเมจที่เคาทูได้รับจะเป็น 0 ยกเว้นความเสียหายทางอ้อม อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าความเสียหายทางอ้อมนี้หมายถึงพิษหรือไฟหรือเปล่านะครับ หลังจากนี้ 2 เทิร์น ความเคาทูจะได้รับความเสียหายทั้งหมดในระหว่างที่อยู่ในโหมดเสือคลั่ง
เตียวหุย
โดมตีศัตรู แถวหน้า เพิ่มโอกาสคริ และ ความแม่นยำ 30%
เอฟเฟคสนามรบก๊กจ๊ก
-หากทีมเราใช้ขุนพลก๊กจ๊ก 3 คนหรือมากกว่า เมื่อเริ่มเทิร์นจะเปิดเอฟเฟคสนามรบก๊กจ๊ก
-เมื่อเริ่มเทิร์น จนจบการต่อสู้ ทุกคนในทีม จะได้รับเอฟเฟค ดูดเลือด 10% และ เพิ่มพลังโจมตี 5%
ในเทิร์นแรกจะได้อัตราต้านคริ เพิ่ม 30% และ ลดความเสียหายคริ 30%
โกร
-สร้างความเสียหายแก่ศัตรูแถวหน้า การโจมตีนี้เพิ่มโอกาสคริ และ ความแม่นยำ 30%
-มีโอกาส 40% ทำให้ศัตรูไม่สามารถขยับได้ด้วยความกลัว และ ลดอัตราหลบหลีก ต้านคริ 30% ไม่สามารถล้างได้ นาน 1 เทิร์น
-เพิ่มอัตราคริให้ทุกคนในทีม 20% นาน 2 เทิร์น
-หากเป้าหมายมีพลังชีวิตมากกว่า 50% จะสร้างความเสียหายเพิ่ม 800%
-หากเป้าหมายมีพลังโจมตีสูงกว่าเตียวหุย จะโดนลดพลังโจมตี 15% นาน 2 เทิร์น
ท่าไม้ตาย
-สร้างความเสียหาย 522% แก่ศัตรูแถวหน้า การโจมตีครั้งนี้ จะมีโอกาสติดคริ และ แม่นยำเพิ่่ม 30 %
-มีโอกาส 60% ทำให้ศัตรูขยับไม่ได้ด้วยความกลัว ขยับไม่ได้ และ ลดอัตราหลบหลีกนาน 1 เทิร์น
-ห่ากเป้าหมายมีพลังชีวิตมากกว่า50% สร้างความเสียหายเพิ่ม 1200%
-หากเป้าหมายมีพลังโจมตีมากกว่าเตียวหุย จะโดนลดพลังโจมตี 15%
-เตียวหุยจะเข้าสู่โหมด หนึ่งคนสู้พันคน จนจบการต่อสู้
-โหมด หนึ่งคนสู้พันคน คือ เตียวหุยจะต้านคริติคอล และ เมื่อใข้สกิลโกรธ จะฟื้นฟูแต้มโกรธ 2 แต้มให้เพื่อนในทีมแบบสุ่ม่ 2 คน เมื่อเพื่อนในทีม ใช้สกิลโกรธ เตียวหุยจะฟื้นฟูค่าโกรธ 2 แต้ม สูงสุด 4 แต้ม
โลซก
-สร้างความเสียหาย 79% แก่ศัตรู ทั้งหมด
-สร้างควาามเสียหายเผาไม้ที่ไม่สามารถล้างได้ ทุกๆเทิร์นสร้างความเสียหาย 80% ของพลังโจมตี โลซก ไม่สนพลังป้องกัน นาน 2 เทิร์น
โกรธ
-โจมตี 217% แก่ทุกคน
-ไฟไม่สามารถล้างได้นาน 2 เทิร์น โดยในแต่ละเทิร์นจะได้ความความเสียหาย 100% ของพลังโจมตีโลซก ไม่สนพลังป้องกัน และ มีโอกาส 20% ที่จะสตัน 1 เทิร์น
-โจมตีตัวติดไฟแรงขึ้น 300%
-เพิ่มอัตราบล็อคให้ทุกคนในทีม นาน 2 เทิร์น
เอฟเฟคสนามรบก๊กง่อ
-มีขุนพลง่อ สามคนหรือมากกว่า
-เมื่อเริ่มเทิร์นจะเพิ่มอัตราต้านความเสียหาย 15% ลดลงเรื่อยๆ 5% ในแต่ละเทิร์น แต่จะไม่ลดต่ำกว่า 10% เอฟเฟคนี้อยู่จนจบการต่อสู้
ท่าไม้ตาย
-สร้างงความเสียหาย 325% แก่ศัตรูทุกคน
-ติดไฟไม่สามารถล้างได้นาน 2 เทิร์น โดยในแต่ละเทิร์นจะได้ความความเสียหาย 140% ของพลังโจมตีโลซก ไม่สนพลังป้องกัน และ มีโอกาส 20% ที่จะสตัน 1 เทิร์น
-โจมตีศัตรูที่ติดไฟ แรงขึ้น 400%
-รีเฟรชสถาณะไฟทุกอย่างที่ศัตรู ให้กลายเป็น 2 เทิร์น ก็จะติดไฟนานขึ้น
อิเกียด
โจมตีศัตรูแบบสุ่ม 3 คน มีโอกาาส 75% สร้างความเสียหายเพิ่ม 300%
โกรธ
-สร้างความเสียหาย 348% แก่ศัตรูแบบสุ่ม 3 คน การโจมตีครั้งนี้มีความแม่นยำเพิ่ม 30%
-ทำให้ติดพิษ ในแต่ละเทิร์นจะสร้างความเสียหาย 100% ของพลังโจมตีอิเกียด ไม่สนป้องกัน นาน 2 เทิร์น
-สร้างความเสียหายเพิ่ม 500%
-มีโอกาส 30% ที่จะทำให้ ศัตรูติดสถาณะเงา นาน 1 เทิร์น สถาณะเงา จะทำให้ขยับไม่ได้ และ จะได้รับความเสียหาย 10% ของความเสียหายที่ศัตรูตัวอื่นๆได้รับ
-เพิ่มอัตราหลบหลีก 20% ให้ทุกคนในทีม
เอฟเฟคสนามรบก๊กขุนพล
-เมื่อเริ่มเทริ์น เพิ่มพลังโจมตี และ คริ 15% ให้ทุกคนในทีม นาน สามเทิร์น
ท่าไม้ตาย
-สร้างความเสียหาย 522% แก่ศัตรูแบบสุ่ม 3 คน
-ทำให้ติดพิษ 150% ของพลังโจมตีอิเกียด ไม่สนป้องกัน 2 เทิร์น
-โจมตีเพิ่มอีก 800%
-มีโอกาส 40% ทำให้เป้าหมายติดสถาณะ ควบคุมใจ นาน 1 เทิร์น
-สถาณะควบคุมใจ คือ เป้าหมายจะไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ และ เมื่อเปป้าหมาย ได้รับความเสียหาย จะฟื้นฟูพลังชีวิตของ อิเกียด เท่ากับ 30% ของความเสียหายที่ได้รับ
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/_MI32GMoQtc/hqdefault.jpg)
มีโอกาส คือ 在 แม่ก้อยพาทำ Channel Youtube 的最佳貼文
สวัสดีค่ะเพื่อนเกษตรที่น่ารักทุกคน
วันนี้ แม่ก้อยขอพา เพื่อนมา #โดนใจสุด เป็นที่พักใกล้ๆ เขาใหญ่
คือ #ออโรร่ารีสอร์ทเขาใหญ่ #ไอเดียบ้านสวย นะจ๊ะ
มีเวลา มีโอกาส ให้เวลากับคนที่เรารักนะจ๊ะ
แม่ก้อย ไปพักผ่อน กับครอบครัวนะจ๊ะ ไม่ได้มา เขาใหญ่ 15 ปี แล้วคะ
ได้มาครั้งนี้ เลย เอาบรรยากาศอบอุ่น ธรรมชาติ มาฝาก เพื่อนเกษตรที่น่ารักทุกคนนะจ๊ะ
แม่ก้อย เอา ไอเดียบ้านสวน สวย มากฝาก ไป ดัด แปลงดูนะจ๊ะ
ถ้ามีประโยชน์อย่าลืมกดติดตามแม่ก้อยพาทำ ช่อง Playground kids channel
???? แม่ก้อยขอขอบ คุณเพื่อนเกษตรที่น่ารักทุกคน ที่กดติดตาม กดไลด์ กดแชร์ ให้ แม่ก้อยเสมอมา ด้วยรัก จากใจ ♥️แม่ก้อยพาทำ
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/YI57T_f2Gno/hqdefault.jpg)
มีโอกาส คือ 在 โอกาส” คือสะพานไปถึง “ฝัน” | ความหมายของคำว่า ... - Facebook 的推薦與評價
ความหมายของคำว่า โอกาส ของคุณ คือ อะไร ? สำหรับน้อง สโรซา เมอแลกู หรือน้องซาโร หญิงสาวจากชนเผ่าอาข่า ที่ มี ควานฝันในการเป็นครู... ... <看更多>
มีโอกาส คือ 在 โอกาส คือคำนิยามของความท้าทายสู่เป้าหมาย | นวลพรรณ ล่ำซำ 的推薦與評價
A CEO, an investor, a fashionista, yet a football team manager. Nualphan is a working woman who dedicates great effort in everything she ... ... <看更多>