บทสวดพระพุทธมนต์ "อาฏานาฏิยปริตร"ที่ควรสวดทุกๆวันช่วงนี้ ตามที่ หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว)เคยสอนแนะนำให้ผมสวดทุกๆวัน ครับ
วิปัสสิสสะ นะมัตถุ จักขุมันตัสสะ สิรีมะโต
-ความนอบน้อมจงมี แด่พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ทรงมีปัญญาจักษุ ผู้ทรงไว้ซึ่งพระสิริ
สิขิสสะปิ นะมัตถุ สัพพะภูตานุกัมปิโน
-ความนอบน้อมจงมี แด่พระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ทรงมีพระทัยเอ็นดู ต่อสัตว์ทั้งปวง
เวสสะภุสสะ นะมัตถุ นะหาตะกัสสะ ตะปัสสิโน
-ความนอบน้อมจงมี แด่พระเวสสภูสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ทรงมีกิเลสอันชำระแล้ว ผู้ทรงมีตบะธรรม
นะมัตถุ กะกุสันธัสสะ มาระเสนัปปะมัททิโน
-ความนอบน้อมจงมี แด่พระกกุสันธะสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ทรงย่ำยีเสียได้ ซึ่งมารและเหล่าเสนาทั้งหลาย
โกนาคะมะนัสสะ นะมัตถุ พ๎ราห๎มะณัสสะ วุสีมะโต
-ความนอบน้อมจงมี แด่พระโกนาคมนะสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ลอยบาปเสียได้ ผู้ทรงอยู่จบพรหมจรรย์แล้ว
กัสสะปัสสะ นะมัตถุ วิปปะมุตตัสสะ สัพพะธิ
-ความนอบน้อมจงมี แด่พระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ทรงพ้นแล้วจากกิเลสทั้งปวง
อังคีระสัสสะ นะมัตถุ สัก๎ยะปุตตัสสะ สิรีมะโต
-ความนอบน้อมจงมี แด่พระอังคีรสะสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ทรงเป็นโอรสแห่งศากยราช ผู้ทรงไว้ซึ่งพระสิริ
โย อิมัง ธัมมะมะเทเสสิ สัพพะทุกขาปะนูทะนัง
-ซึ่งได้ทรงแสดงธรรมนี้ไว้ อันเป็นเครื่องบรรเทาเสีย ซึ่งทุกข์ทั้งปวง
เย จาปิ นิพพุตา โลเก ยะถาภูตัง วิปัสสิสุง
-อนึ่ง แม้ชนเหล่าใดในโลก เห็นแจ้งธรรมตามความเป็นจริง ดับกิเลสได้แล้ว
เต ชะนา อะปิสุณา มะหันตา วีตะสาระทา
-ชนเหล่านั้น ไม่มีความส่อเสียด เป็นผู้ใหญ่โดยคุณธรรม
ปราศจากความครั่นคร้ามแล้ว
หิตัง เทวะมะนสสานัง ยัง นะมัสสันติ โคตะมัง
-พากันนอบน้อมอยู่ ซึ่งพระพุทธเจ้าพระองค์ใด ผู้ทรงเป็นโคตมโคตร
ผู้ทรงเกื้อกูล แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
วิชชาจะระณะสัมปันนัง มะหันตัง วีตะสาระทัง ฯ
-ผู้ทรงถึงพร้อมแล้ว ด้วยวิชชาและจรณะ ผู้ทรงถึงความเป็นใหญ่
ปราศจากความครั่นคร้ามใดๆ แล้ว
( วิชชาจะระณะสัมปันนัง พุทธัง วันทามะ โคตะมันติ )
(-ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอนัสการ พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ผู้เป็นโคตมโคตร ผู้ทรงถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชาและจรณะ ดังนี้ )
นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินัง
-ข้าพเจ้าขอนอบน้อม แด่พระพุทธเจ้าทั้งปวง
ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ซึ่งทรงบังเกิดขึ้นแล้ว
ตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโส
-คือพระตัณหังกร ผู้ทรงกล้าหาญ
พระเมธังกร ผู้ทรงมียศใหญ่
สะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโร
-พระสรณังกร ผู้ทรงเกื้อกูลแก่โลก
พระทีปังกร ผู้ทรงไว้ซึ่งปัญญา
โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ
-พระโกญทัญญะ ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งหมู่ชน
พระมังคะละ ผู้ทรงเป็นบุรุษประเสริฐ
สุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโน
-พระสุมนะ ผู้ทรงเป็นปราชญ์ มีพระหฤทัยงดงาม
พระเรวตะ ผู้ทรงเพิ่มพูนความยินดี
โสภิโต คุณะสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม
-พระโสภิตะ ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยพระคุณ
พระอโนมะทัสสี ผู้ทรงอุดมในหมู่ชน
ปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถี
-พระปทุมะ ผู้ทรงทำโลกให้สว่าง
พระนารทะ ผู้ทรงเป็นสารถีผู้ประเสริฐ
ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัปปะฏิปุคคะโล
-พระปทุมุตตระ ผู้ทรงเป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์
พระสุเมธะ ผู้ทรงหาบุคคลเปรียบมิได้
สุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภ
-พระสุชาตะ ผู้ทรงเลิศกว่าสัตว์โลกทั้งปวง
พระปิยะทัสสี ผู้ทรงเป็นนรชนประเสริฐ
อัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท
-พระอัตถะทัสสี ผู้ทรงมีพระกรุณา
พระธรรมะทัสสี ผู้ทรงบรรเทาความมืดคืออวิชชา
สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร
-พระสิทธัตถะ ผู้ทรงหาบุคคลเสมอมิได้ ในโลก
พระติสสะ ผู้ทรงประเสริฐกว่านักปราชญ์ทั้งหลาย
ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโม
-พระปุสสะพุทธเจ้า ผู้ทรงประทานธรรมอันประเสริฐ
พระวิปัสสี ผู้ทรงหาที่เปรียบมิได้
สิขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโก
-พระสิขี ผู้ทรงเป็นพระศาสดา เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
พระเวสสภู ผู้ทรงประทานความสุข
กะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโห
-พระกกุสันธะ ผู้ทรงนำสัตว์ออกจากกันดาร คือ กิเลส
พระโกนาคมนะ ผู้ทรงกำจัดเสียซึ่งข้าศึก คือ กิเลส
กัสสะโป สิริสัมปันโน โคตะโม สัก๎ยะปุงคะโว ฯ
-พระกัสสปะ ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยพระสิริ
พระโคตมะ ผู้ทรงประเสริฐแห่งหมู่ศากยราชทั้งหลาย
เอเต จัญเญ จะ สัมพุทธา อะเนกะสะตะโกฏะโย
-พระพุทธเจ้าเหล่านี้ก็ดี เหล่าอื่นก็ดี
ซึ่งนับจำนวนได้หลายร้อยโกฏิ
สัพเพ พุทธา อะสะมะสะมา สัพเพ พุทธา มะหิทธิกา
-พระพุทธเจ้าเหล่านั้นทั้งหมด เป็นผู้ทรงเสมอกันกับพระพุทธเจ้า
ผู้ทรงหาใครเสมอมิได้ พระพุทเจ้าทุกๆ พระองค์ ทรงมีมหิทธิฤทธิ์
สัพเพ ทะสะพะลูเปตา เวสารัชเชหุปาคะตา
-ทุกๆ พระองค์ ทรงประกอบด้วยทศญาณ
ทรงประกอบด้วยเวสารัชชญาณ
สัพเพ เต ปะฏิชานันติ อาสะภัณฐานะมุตตะมัง
-ทุกๆ พระองค์ ทรงปฏิญญาพระองค์
ในฐานะผู้มีคุณธรรมอันสูงสุด
สีหะนาทัง นะทันเต เต ปะริสาสุ วิสาระทา
-ทรงเป็นผู้องอาจ บันลือกระแสธรรมดุจสีหนาท
ท่ามกลางพุทธบริษัท
พ๎รัห๎มะจักกัง ปะวัตเตนติ โลเก อัปปะฏิวัตติยัง
-ยังพรหมจักรให้เป็นไป ไม่มีใครคัดค้านได้ในโลก
อุเปตา พุทธะธัมเมหิ อัฏฐาระสะหิ นายะกา
-ทรงเป็นผู้นำหมู่ชน เพราะประกอบด้วยพุทธธรรม ๑๘ ประการ
ท๎วัตติงสะลักขะณูเปตา สีต๎ยานุพ๎ยัญชะนาธะรา
-ทรงประกอบด้วยมหาบุรุษลักษณะ ๓๒ ประการ
และอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ
พ๎ยามัปปะภายะ สุปปะภา สัพเพ เต มุนิกุญชะรา
-ทรงมีพระรัศมีอันงดงาม แผ่ออกจากพระวรกายโดยรอบข้างละวา
ทุกๆ พระองค์ ทรงเป็นพระมุนีผู้ประเสริฐ
พุทธา สัพพัญญุโน เอเต สัพเพ ขีณาสะวา ชินา
-ทุกๆ พระองค์ ทรงเป็นพระสัพพัญญู
เป็นพระชีณาสพ เป็นผู้ชำนะซึ่งพญามาร
มะหัปปะภา มะหะเตชา มะหาปัญญา มะหัพพะลา
-ทรงมีพระรัศมี และพระเดชมาก
ทรงมีพระปัญญา และพระกำลังมาก
มะหาการุณิกา ธีรา สัพเพสานัง สุขาวะหา
-ทรงมีพระมหากรุณา และทรงเป็นจอมปราชญ์
ทรงนำความสุขมาให้ แก่สัตว์ทั้งปวง
ทีปา นาถา ปะติฏฐา จะ ตาณา เลณา จะ ปาณินัง
-ทรงเป็นดุจเกาะ เป็นดุจที่พึ่ง และเป็นดุจที่พำนักอาศัย
ทรงเป็นดุจดที่ต้านทาน ซึ่งภัยทั้งปวง เป็นดุจที่หลีเร้นของสัตว์ทั้งหลาย
คะตี พันธู มะหัสสาสา สะระณา จะ หิเตสิโน
-ทรงเป็นที่ส่งใจถึง ทรงเป็นพวกพ้อง ทรงเป็นที่อุ่นใจอย่างยิ่ง
ทรงเป็นสรณะ และเป็นผู้ทรงแสวงสิ่งเอื้อเกื้อกูล
สะเทวะกัสสะ โลกัสสะ สัพเพ เอเต ปะรายะนา
-ทุกๆ พระองค์ ทรงเป็นที่มุ่งหวังแม้ในเบื้องหน้า
แก่ประชาชาวโลก พร้อมทั้งเทวดา
เตสาหัง สิระสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตะเม
-ข้าพระพุทธองค์ ขออภิวาทพระบาทยุคล
ของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยเศียรเกล้า
วะจะสา มะนะสา เจวะ วันทาเมเต ตะถาคะเต
-และขออภิวาท ซึ่งพระตถาคตเจ้าทั้งหลายเหล่านั้น
ผู้ทรงเป็นอุดมบุรุษ พร้อมทั้งวาจา และทางใจด้วย
สะยะเน อาสะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา
-ทั้งในที่นอน ในที่นั่ง ในที่ยืน แม้ในที่เดินด้วย ในกาลทุกเมื่อ
สะทา สุเขนะ รักขันตุ พุทธา สันติกะรา ตุวัง
-ขอพระพุทธเจ้า ผู้ทรงสร้างสันติ จงรักษาท่านให้มีความสุข
ตลอดกาลทุกเมื่อเถิด
เตหิ ต๎วัง รักขิโต สันโต มุตโต สัพพะภะเยนะ จะ
-ท่านเป็นผู้ที่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ทรงรักษาแล้ว
จงเป็นผู้พ้นจากภัยทั้งปวง
สัพพะโรคะวินิมุตโต สัพพะสันตาปะวัชชิโต
-พ้นจากโรคทั้งปวง หายจากความเดือดร้อนทั้งปวง
สัพพะเวระมะติกกันโต นิพพุโต จะ ตุวัง ภะวะ ฯ
-ล่วงเสียซึ่งเวรทั้งปวง และดับทุกข์ทั้งปวงได้เถิด
เตสัง สัจเจนะ สีเลนะ ขันติเมตตาพะเลนะ จะ
-ด้วยสัจจะ ด้วยศีล และด้วยกำลังแห่งขันติ
และเมตตาของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ ฯ
-ขอพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย
ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
ปุรัตถิมัส๎มิง ทิสาภาเค สันติ ภูตา มะหิทธิกา
-เหล่าภูตทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ที่สถิตอยู่ในทิศบูรพา
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
-แม้ภูตเหล่านั้น จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย
ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
ทักขิณัส๎มิง ทิสาภาเค สันติ เทวา มะหิทธิกา
-เทวดาทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ที่สถิตอยู่ในทิศทักษิณ
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
-แม้เทวดาทั้งหลายเหล่านั้น จงตามรักาษาซึ่งท่านทั้งหลาย
ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
ปัจฉิมัส๎มิง ทิสาภาเค สันติ นาคา มะหิทธิกา
-พญานาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ที่สถิตอยู่ในทิศปัจจิม
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
-แม้พญานาคเหล่านั้น จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย
ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
อุตตะรัส๎มิง ทิสาภาเค สันติ ยักขา มะหิทธิกา
-ยักษ์ทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ที่สถิตอยู่ในทิศอุดร
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
-แม้ยักษ์เหล่านั้น จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย
ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
ปุริมะทิสัง ธะตะรัฏโฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก
-ท้าวธะตะรฐ อยู่ประจำทิศบูรพา
ท้าววิรุฬหก อยู่ประจำทิศทักษิณ
ปัจฉิเมนะ วิรูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง
-ท้าววิรูปักข์ อยู่ประจำทิศปัจจิม
ท้าวกุเวร อยู่ประจำทิศอุดร
จัตตาโร เต มะหาราชา โลกะปาละ ยะสัสสิโน
-ท้าวมหาราชทั้ง ๔ นั้น
เป็นผู้มียศ คุ้มครองรักษาโลกอยู่
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
-แม้ท้าวมหาราชทั้ง ๔ นั้น จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย
ให้เป็นผู้มีความสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา
-เทวดาผู้ประเสริฐทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก
ที่สถิตอยู่ในอากาศก็ดี สถิตอยู่บนภาคพื้นก็ดี
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
-แม้เทวดาเหล่านั้น จงตามรักษาซึ่งท่านทั้งหลาย
ให้เป็นผู้มีความสุขปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
สาธุ ให้บุญรักษาเทวดาคุ้มครองครับ
ลักษณ์ ราชสีห์
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過164萬的網紅จดอ - JUSTดูIT.,也在其Youtube影片中提到,เปิดประวัติ #คนขายโปสเตอร์ เจ้าของกิจการที่ยืนยาวกว่า 2 ทศวรรษ ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรลดความคลั่งไคล้ของเขาที่มีต่อโปสเตอร์หนังได้! ใบ...
「สันติ คือ」的推薦目錄:
- 關於สันติ คือ 在 Facebook 的最讚貼文
- 關於สันติ คือ 在 Roundfinger Facebook 的最佳解答
- 關於สันติ คือ 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
- 關於สันติ คือ 在 จดอ - JUSTดูIT. Youtube 的精選貼文
- 關於สันติ คือ 在 #การชุมนุมโดยสันติ... - Amnesty International Thailand | Facebook 的評價
- 關於สันติ คือ 在 The Active Podcast EP.109 | หยุดส่งต่อความรุนแรง สันติ คือทางออก 的評價
สันติ คือ 在 Roundfinger Facebook 的最佳解答
เดินสู่อิสรภาพ
ประมวล เพ็งจันทร์
ฉบับพิมพ์ครั้งใหม่
---
ผู้อ่านหลายท่านอาจยังไม่ทราบข่าวว่า สำนักพิมพ์สุขภาพใจจัดพิมพ์หนังสือ 'เดินสู่อิสรภาพ' ของอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ อีกครั้ง เวอร์ชั่นนี้งดงามและประณีตอย่างยิ่ง ผลงานการออกแบบโดยอาจารย์ติ๊ก-สันติ ลอรัชวี ซึ่งพิถีพิถันในทุกรายละเอียด
ในส่วนเนื้อหาคงเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่ามีคุณค่าเพียงใด 'เดินสู่อิสรภาพ' ตีพิมพ์ไปเกินยี่สิบครั้งแล้ว แต่หลายคนยังคงเฝ้ารอหนังสือเล่มนี้ในโฉมใหม่นี้ เพราะมีความ 'พิเศษ' หลายอย่าง กระทั่งคนที่มีแล้วยังอยากซื้อเก็บไว้บนหิ้งหนังสือ
ความพิเศษที่ว่าคืออะไร
> อาจารย์ติ๊กออกแบบให้มีวิธีพิมพ์พิเศษ ด้วยเทคนิคการพิมพ์ที่ทำให้ไม่มีปกไหนสีซ้ำกันเลยแม้แต่เล่มเดียว ฉะนั้น ทุกเล่มที่คุณเป็นเจ้าของจะไม่เหมือนเล่มไหนในโลก
> สีที่หลากหลายหลอมรวมเชื่อมโยงแบบ 'ปล่อยไหลอิสระ' โดยเลือกสีที่เป็นตัวแทนธรรมชาติซึ่งอยู่ในการเดินทาง คือ ดวงอาทิตย์ ท้องฟ้า ป่าไม้ ผืนดิน และท้องทะเล จะคิดลึกอะไรเพียงนี้!
> สีท้องทะเลเป็นสีเมทาลิก เพิ่มแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์และคลื่นลมในทะเล ใครครอบครองก็ลองส่องประกายแดดกันดู
> เนื้อกระดาษปก (ผมลูบแล้ว) เนียนนวลชวนลูบไล้ ให้สัมผัสนุ่มจนต้องจับต้องอย่างเบามือโดยอัตโนมัติ ทั้งที่กระดาษก็ทนทานดีอยู่
> ปกแท้ๆ เมื่อถอดแถบคาดซึ่งมีคำโปรยออกแล้ว จะมีเพียงพื้นสีอันเป็นส่วนผสมของธรรมชาติกว้างใหญ่กับภาพวาดอาจารย์ประมวลขนาดเล็กจิ๋วที่มุมขวาล่างเท่านั้น, เท่านั้นเลย ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ความเรียบว่างนี้กลับสื่อความหมายของการ 'เดินสู่อิสรภาพ' ได้ทรงพลังยิ่ง
> อีกองค์ประกอบเล็กๆ ทว่าสำคัญคือน้องหมาตรงสันปกที่จะเปลี่ยนอิริยาบถไปในแต่ละเล่ม ใครได้อ่านย่อมรู้ว่า 'หมาขี้เรื้อน' เป็นตัวละครสำคัญอย่างไรในเล่มนี้
> การจัดพิมพ์ครั้งนี้ให้อารมณ์ในการอ่านอีกแบบหนึ่ง คือเคาะบรรทัดตามหนึ่งห้วงหายใจ อยากให้ลองอ่านกันดูครับ บางคนอาจคุ้นชินกับแบบเก่า แต่แบบใหม่ก็ให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง
> กระดาษเนื้อในนี่คือเลือกมาอย่างดี ทั้งสีและพื้นผิว นวลเนียนไม่แพ้กระดาษปก
> ในเล่มยังมีคิวอาร์โค้ด 27 จุด เพื่อสแกนรับฟังเรื่องราวเพิ่มเติมของอาจารย์ซึ่งอัดเสียงใหม่สำหรับเวอร์ชั่นนี้โดยเฉพาะ
...
เขียนมาทั้งหมดนี้ก็รู้สึกชื่นชมและนับถือทุกคนที่มีส่วนร่วมในการจัดพิมพ์ครั้งใหม่นี้จากใจครับ เชื่อว่า 'ไม่ง่าย' แน่ๆ กว่าที่หนังสือจะเสร็จสมบูรณ์ออกมาโดยมีรายละเอียดต่างๆ ดังที่เห็น
สำหรับผู้อ่าน, การได้สัมผัสหนังสือเล่มนี้โฉมใหม่จึงมิใช่แค่หนังสือ หากคืองานศิลปะที่จับต้องได้ทางกายและสัมผัสได้ทางใจ อ่านแล้วจะยิ่งลิ้มรสงานออกแบบได้ลึกซึ้งขึ้นอีก
เมื่อทราบรายละเอียดและกระบวนการทำงานทั้งหมดนี้ ตั้งแต่ออกแบบจนเสร็จออกมาเป็นเล่ม เมื่อเห็นราคาแล้วคิดว่าสมเหตุสมผล และคุ้มค่าในมุมผู้อ่าน 690 บาท กับงานศิลป์ที่อ่านได้ นับว่าสมราคา
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้มิใช่การโฆษณา เพราะมิได้ได้ค่าโฆษณาแต่ประการใด แต่เขียนด้วยใจที่คารวะชื่นชมคนร่วมอาชีพซึ่งตั้งใจผลิตหนังสือคุณภาพทั้งเนื้อหาและดีไซน์ออกมากำนัลแด่ผู้อ่าน นับเป็นอีกหนึ่งลีลาในความหลากหลายของแวดวงสิ่งพิมพ์
จึงขอบอกกล่าวผู้อ่านที่ต้องการอ่านและเก็บสะสมหนังสือที่งดงามเล่มนี้กันครับ สั่งซื้อได้ที่ สำนักพิมพ์สุขภาพใจ ได้เลยครับ ผมอาจถ่ายรูปไม่สวยนัก แต่ของจริงงดงามครับผม
ขอให้มีความสุขกับ 'เดินสู่อิสรภาพ'
ด้วยความเคารพรักอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ครับ
สันติ คือ 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
ผมทำเพจใหม่ จะเขียนถึงหนังสือที่อ่าน
ฝากติดตามกันสนุกๆ ครับ ขอบคุณครับ :)
มูซาชิ ปัจฉิมบรรพ
ลำดับ ๑ ภาคดิน
สุวินัย ภรณวลัย: เขียน
สนพ.โอเพ่นบุ๊กส์
---
การต่อสู้ของมูซาชิมิได้จบลงเพียงแค่ ซาซากิ โคยิโร่ เท่านั้น ยังมีการดวลดาบกับทั้งยอดฝีมือและผู้หลงตัวมุทะลุอีกมากมายบนเส้นทางซามูไรพเนจร
ได้อ่าน 'มูซาชิ' ภาคต่อในช่วงปลายวัยหนุ่ม ทำให้หวนนึกถึงสมัยมหาวิทยาลัยที่เคยส่งต่อหนังสือ 'มูซาชิ ฉบับท่าพระจันทร์' กันกับเพื่อนๆ รวมถึงการนั่งล้อมวงคุยกันถึงหนังสือเล่มนี้
ในภาคของการนั่งลงเขียนมูซาชิ อาจารย์สุวินัยยังคงสวมจิตวิญญาณการถ่ายทอดชีวิต ความคิด และเรื่องราวภายในของซามูไรไร้เทียมทานคนเดิมได้ราวกับกาลเวลามิได้เคลื่อนผ่าน 'มูซาชิ' ในเล่มนี้ยังหนุ่มแน่น เปี่ยมพลัง คมกริบ และลึกซึ้งไม่เปลี่ยนแปลง
อาจด้วยช่วงวัยของมูซาชิเองที่ผ่านการสู้รบและประสบการณ์ชีวิตมามากกว่าเล่มแรก ทำให้การฉายภาพ 'ด้านใน' ของเขาผ่านคมปากกาของอาจารย์สุวินัยเป็นไปอย่างชัดเจนในเรื่องการฝึกวิชา 'ดาบใจ' ในการฆ่าฟันอัตตาตัวตน
...
14 บทในเล่มล้วนแล้วแต่มีฉาคแอคชั่นชวนตื่นเต้น ตบท้ายด้วยข้อคิดเชิง 'เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า' ซึ่งขมวดอย่างแนบเนียนและนุ่มนวล ทั้งหมดชวนให้กลับมาทบทวนจิตใจของตนเองแทบทั้งสิ้น
การต่อสู้กับคนอื่น การตวัดดาบในโลกภายนอก สำหรับมูซาชิในวัยนี้ช่างเป็นไปด้วยความสะอาดและสงบ เมื่อจบลงจึงกลายเป็นความสว่างกระจ่างใจ
รบกับตัวเองภายใน จึงชนะศึกภายนอก
อ่านในวัยนี้ ทำให้มองเห็นวิถีบูชิโดชัดกว่าในวัยหนุ่ม ได้เห็นการฆ่าที่มิได้เกิดจากความเกลียดแค้นชิงชัง พยาบาทมาดร้าย ทว่าเป็นไปตามวิถีแห่งซามูไร ประมือกันเพื่อวัดฝีมืออย่างสมเกียรติ เคารพคู่ต่อสู้ เคารพดาบ เคารพตนเอง ใช้วิถีดาบเป็นวิถีทางของการฝึกตน
บูชิโด คือวิถีนักรบ
ว่ากันตามแนวทางเซ็น หากบางคนสามารถเข้าถึงความจริงแท้ผ่าน 'ชาโด' หรือการชงชา นักรบเองก็สามารถเข้าถึงการรู้แจ้งผ่านการสู้รบเช่นกัน ทางกระทำสิ่งนั้นอย่างรู้ตน ฝึกฝน ตรวจตรา และหมั่นสังเกตจิตใจของตนเสมอ
ดังเช่นปรัชญาที่สอดแทรกอยู่ใน 'หนึ่งร้อยบทกวีพิชัยยุทธ์' ของยางิว เซกิชูไซ มุเนโทชิ ที่ว่า
"ชนะด้วยดาบแล้วอย่างไร
ต่างกับใช้นาวาศิลาล่องสมุทรตรงไหน
การคุมใจที่ไม่นิ่งให้นิ่งได้เสมอ
คือเคล็ดสุดยอดของวิชาดาบ"
และวรรคที่น่าสนใจอย่างมาก คือ
"วิชาดาบไม่ต่างกับนาวาศิลาที่ลอยน้ำไม่ได้
แต่ข้าก็ทิ้งมันไม่ได้ เพราะมันเป็นวิถีที่ข้ารัก"
...
เมื่อพูดว่า 'วิถีนักรบ' สามารถบรรจบกับ 'วิถีแห่งธรรม' ได้ หากด่วนตัดสิน ย่อมพบว่าเป็นคำพูดที่แปลกประหลาด เพราะการรบน่าจะเปรอะเปื้อนไปด้วยกิเลสและใจสกปรก จะบรรจบกับธรรมะได้อย่างไร
กระนั้น มูซาชิ ภาคดิน ก็สะท้อนถึงความจริงของคำพูดนี้ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ว่านักรบผู้ให้ความสำคัญกับการฝึกใจอย่างมิยาโมโต มูซาชิเดินไปบนวิถีแห่งธรรมตามเส้นทางบูชิโดอย่างไร
การรบเป็นเพียงห้วงยามสั้นๆ เท่านั้น ส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาที สิ่งสำคัญคือคุณสมบัติของ 'นักกลยุทธ์' ซึ่งใช้ทั้งการสังเกต สืบค้น ศึกษาคู่ต่อสู้ วางแผน รวมถึงการจัดการสภาวะภายในของจิตใจตน เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นไปอย่างเงียบเชียบ และต้องใช้สติปัญญาอย่างยิ่งยวด
การวางแผนรบของมูซาชิไม่มีความคิดสกปรกมาเจือปน ทำให้เขามองเห็น 'ความจริง' อยู่เสมอ สิ่งที่ปรากฏตรงหน้ามิได้เปื้อนปนไปด้วยอคติซึ่งเกิดจากกิเลสตัณหาใดๆ เมื่อเผชิญหน้า มูซาชิกำหนดจิตให้อยู่กับ 'ปัจจุบันขณะ' ต่างจากคู่ต่อสู้หลายคนที่มาพร้อมจิตที่คิดถึงอดีตที่อาฆาตแค้นหรืออนาคตที่จะได้รับชื่อเสียงเมื่อพิชิตมูซาชิลงได้
การบรรยายถึงแววตา ความรู้สึก ท่าที หยาดเหงื่อ จังหวะการหายใจของคู่ต่อสู้ ล้วนแสดงให้เห็นถึง 'สติ' และการอยู่กับปัจจุบันของมูซาชิได้เป็นอย่างดี
รายละเอียดเหล่านี้ล้วนสำคัญยิ่งต่อการช่วงชิงจังหวะ และเอาชนะในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตาย
ศึกษาอดีตเพื่อวางกลยุทธ์
จดจ่อปัจจุบันเพื่อกำหนดจังหวะโจมตี
หันหลังเดินจากไปอย่างสงบเมื่อการรบจบลง
เพราะทำการรบเพื่อการรบ
มิใช่เพื่อพิสูจน์ตน อวดโอ่ฝีมือ หรือเสียงปรบมือชื่นชม
...
เสน่ห์ของมูซาชิเล่มนี้อยู่ที่ 'ความเป็นมนุษย์' ซึ่งยังมีจุดอ่อน จุดโหว่ ความหวั่นไหว และความผิดพลาดให้เห็น
ยังเป็นซามูไรที่แม้เห็น 'วิถี' แล้ว แต่ยังคงต้องดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ พร้อมกับฝึกฝนจิตใจให้มั่นคงและสงบนิ่งเพื่อหลอมรวมกับ 'ใจฟ้า' ให้มากกว่าที่เป็น
มูซาชิผู้ไม่เคยพ่ายจึงถูกเด็กน้อยใช้ไม้ฟาดเข้าที่ศีรษะ เขาจึงเกือบพ่ายแพ้ในบางสนามรบที่คู่ต่อสู้ใช้วิธีนอกธรรมเนียมปฏิบัติ
การอ่านหนังสือที่มีฉากรบทุกบนตอนโดยทราบดีว่า พระเอกยังไงก็ไม่แพ้ ย่อมทำให้ความลุ้นหายไปพอสมควร กระนั้นก็ชดเชยได้ด้วยความแหลมคมในการมองเกม มองคู่ต่อสู้ และมองชีวิตของเขา และที่ทำให้เรื่องราวสนุกขึ้นก็คือจังหวะที่เทพแห่งการต่อสู้ 'พลาด' บ้างนี่เอง
...
ในวัยหนุ่ม อ่านมูซาชิเหมือนนวนิยายกำลังภายใน ตื่นเต้นไปกับการเดินทาง ความรัก การพลัดพลาก และฉากสู้รบ ในวัยหนุ่มปลายๆ เช่นนี้ อ่านมูซาชิแล้วกลับรู้สึกเหมือนถูกท่านซามูไรใช้ดาบไม้ไล่ตีตาม 'จุดโหว่' ของหัวใจและอัตตาตัวตน
แต่ละบทตอนไล่ตีความขุ่นมัวภายในที่ไม่มีใครเห็น นอกจากตัวเราเอง ความถือดี ความทะนงตน ความหยิ่งผยอง ความอาฆาตแค้น กิเลสลุ่มหลง ความอยากเด่นดัง ความประมาท ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็น 'ศัตรู' ต่อการฝึกฝนตนบนวิถีทางด้วยกันทั้งสิ้น
ตัวละครต่างๆ ในเรื่องราวจึงเป็นเสมือนตัวแทนของ 'นามธรรมด้านลบ' ซึ่งเป็นศัตรูที่เราต้องใช้ 'ดาบใจ' ในการฟาดฟันเพื่อเอาชนะ
มูซาชิจึงมิใช่นักดาบที่ฝึกฝนฝีมือดาบเท่านั้น หากเขาคือนักรบที่เอาชนะสงครามในใจของตัวเองมาหลายศึก และยังคงห้ำหั่นกับอารมณ์ร้ายในหัวใจตนตลอดเวลา
อ่าน 'มูซาชิ' ในวัยสี่สิบจึงให้แรงบันดาลใจที่แตกต่างจากในวัยหนุ่ม เรามิได้ต้องการชัยชนะต่อคนอื่นมากเท่าชัยชนะต่อหัวใจของเราเอง
ดังเช่นกราฟิกที่สอดแทรกไว้ในหน้าเปิดบทฝีมืออาจารย์ติ๊ก-สันติ ลอรัชวี ที่ทำเป็นเส้นสายของการวาดดาบ เริ่มจากวงโค้งเหมือนพระจันทร์หงาย แล้วค่อยๆ วาดวงจนกลายเป็นวงกลมสมบูรณ์เหมือนจันทร์เต็มดวง
แท้จริงแล้ว การวาดดาบเพื่อทำการรบ หาใช่เป็นไปเพื่อฆ่าฟันหรือเอาชนะ หรือเพื่อเป็นใหญ่เป็นโตเหนือใคร หากเป็นไปเพื่อเรียนรู้สภาวะภายในใจตน
เปลี่ยนจากการวาดดาบเพื่อเอาชนะ แต่จิตใจแหว่งวิ่นเหมือนจันทร์เสี้ยว ให้กลายเป็นการวาดดาบเพื่อ 'อยู่ตรงนั้น' เป็นดาบที่ไร้ใจ กระทั่งกลายเป็นความสมบูรณ์ หนึ่งเดียวกับความจริงแท้ ดั่งดวงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ
การอ่านชีวิตของท่านมูซาชิด้วยมิติทบทวนภายใจ จึงเป็นการเดินทางเข้าไปสำรวจด้านแหว่งวิ่นในใจตน แล้วปล่อยให้มิยาโมโต มูซาชิ แกว่งดาบเฉือน 'ส่วนเกิน' ที่งอกจากกิเลสตัณหาทิ้งไป
แน่นอนว่า ไม่อาจตัดเฉือนความสกปรกเหล่านั้นได้ด้วยการอ่าน ทว่าการอ่านก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเตือนตนเพื่อพัฒนาฝีมือ 'ดาบใจ' แล้วเดินทางต่อไปด้วย 'ความเป็นมนุษย์' ซึ่งมุ่งมั่นในการฝึกตน
โดยมี 'มูซาชิ' ผู้บกพร่อง ผิดพลาด มีจุดโหว่เป็นแรงบันดาลใจ
เส้นทางของนักรบนั้นทอดยาวไกล
รบกับด้านร้ายในใจตนเอง
#นิ้วกลมอ่าน
สันติ คือ 在 จดอ - JUSTดูIT. Youtube 的精選貼文
เปิดประวัติ #คนขายโปสเตอร์ เจ้าของกิจการที่ยืนยาวกว่า 2 ทศวรรษ ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรลดความคลั่งไคล้ของเขาที่มีต่อโปสเตอร์หนังได้!
ใบไหนที่ว่าแรร์ ใบไหนที่ว่าหินในการหา ผู้ชายคนนี้จัดให้ได้หมด!
เขาคนนี้.. ไม่ใช่แค่พ่อค้า นักขาย แต่เขา คือ นักสะสมระดับโลก
"พี่ติ สันติ ตันติภัณฑรักษ์ : โปสเตอร์หนังคลาสสิค"
ตำแหน่งร้าน: Lido Connect ชั้น 2 สยามสแควร์
เปิดทุกวัน 10:00-20:00 โทร. 087-084-3131
Facebook: Classic movie poster
#จดอ #JUSTดูIT #ClassicMoviePoster
ติดตามเพจของเรา https://facebook.com/JustDooItTH
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/yaDyxT8CzGU/hqdefault.jpg)
สันติ คือ 在 The Active Podcast EP.109 | หยุดส่งต่อความรุนแรง สันติ คือทางออก 的推薦與評價
![影片讀取中](/images/youtube.png)
เห็นต่าง ไม่ขัดแย้ง ไม่ใช้ความรุนแรง เป็นคำพูดที่เรามักได้ยินอยู่เสมอ แต่สำหรับกรณีของ 'ศรีสุวรรณ' และ 'ธนาธร' ที่ถูกทำร้ายร่างกาย ... ... <看更多>
สันติ คือ 在 #การชุมนุมโดยสันติ... - Amnesty International Thailand | Facebook 的推薦與評價
การชุมนุมโดยสันติ หมายถึง การชุมนุมโดยปราศจากการใช้ความรุนแรง ทั้งนี้การมีอาวุธไม่ได้แปลว่าไม่สันติ โดยพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง เช่น วัฒนธรรม ความจงใจ ... ... <看更多>