ศัตรูของ Bitcoin คืออะไร? ไม่ใช่ดอลลาร์ ไม่ใช่ทองคำ ไม่ใช่การควบคุม แต่เป็น “รัฐบาลที่ดี”
หากคุณกำลังสงสัยว่าราคา Bitcoin แพงไปหรือยัง? อะไรทำให้ Bitcoin มีค่า? แล้วมันจะเปลี่ยนโลกการเงินได้จริง ๆ หรือเปล่า? ผมบอกได้เลยครับว่าถ้าคุณอ่านบทความนี้จบ คุณจะได้รับคำตอบของคำถามมากมายเกี่ยวกับ Bitcoin เหล่านี้แน่นอน
ส่งท้ายปี 2563 กันด้วยสรุปเนื้อหาจากหนึ่งในไลฟ์อันทรงคุณค่าที่สุดในปีนี้ ที่ผมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพี่ตั้ม อาจารย์พิริยะ สัมพันธารักษ์ กูรูทางด้านคริปโตเคอเรนซี่ Bitcoin จากชมรมโฉลกดอทคอม หรือ CDC
สำหรับตัวผมและเพื่อน ๆ หลายคนนั้นจะอยู่ในแวดวงทางด้านทองคำและปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจต่าง ๆ แต่หากพูดถึง Bitcoin ก็ต้องบอกตรง ๆ ว่ามันดูพื้นฐานค่อนข้างยากและเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นฐานของโลกเก่าไม่ได้เลย จึงมีคำถามมากมายที่อยากถามอาจารย์ตั๊มครับ เริ่มต้นกันที่คำถามแรก
1. ราคา Bitcoin ขึ้นสูง ทำ All Time High ท่ามกลางภาวะไวรัสโควิดระบาด อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคามันขึ้น?
อาจารย์ตั๊มอธิบายว่า ขอตอบง่าย ๆ ก่อน ราคาขึ้นก็เพราะว่ามีคนซื้อมากกว่าคนขาย แต่ที่สำคัญคือต้องมาวิเคราะห์กันว่า กำลังซื้อมันมาจากไหนกัน?
ทางด้านกำลังขาย นั้นตอบง่าย เพราะ Bitcoin นั้นมีคุณสมบัติสำคัญอยู่อย่างนึง คือมีอัตราการผลิตจำกัด ที่กำหนดในโค้ด ตั้งแต่วันแรกที่มันถูกเปิดเผยและไม่มีใครแก้ไขได้ โดยทุก ๆ 10 นาทีจะมี Bitcoin ผลิตขึ้นมาใหม่ ในจำนวนที่กำหนดเอาไว้ ไม่สามารถผลิตได้มากกว่านั้น แปลว่าถ้ามีคนต้องการมันมาก ๆ มันก็ไม่สามารถผลิตมาตอบสนองความต้องการนั้นได้ เมื่อ supply ไม่สามารถตอบสนอง demand ได้ มันก็ทำให้ราคาสูงขึ้น
ทางด้าน Bitcoin ที่มีเจ้าของอยู่แล้วหรือมีอยู่ในมือคนต่าง ๆ นั้น ผู้ใช้งาน Bitcoin ก็คือคนผลิต Bitcoin และ Bitcoin ที่ผลิตออกมาก็อยู่ในมือคนที่ใช้งาน แปลว่า คุณจะซื้อ คุณก็ต้องไปซื้อกับคนที่มีอยู่ในมือ ซึ่งก็มีคนยอมขายในราคาที่แตกต่างกัน กำลังการขายจึงไม่ได้มากนัก
ในส่วนกำลังซื้อหรือ demand นั้นมาจากไหน? คำตอบก็คือ มีคนกลุ่มใหม่ ๆ เข้ามาซื้อ คนที่มาซื้อจะมีเงินดอลลาร์มหาศาล ที่เขาต้องการแลกเปลี่ยนมัน เปลี่ยนเงินที่มีไม่จำกัดคือเงินดอลลาร์มันพิมพ์ได้ตลอด ให้กลายเป็นทรัพย์สินที่มีอย่างจำกัด อย่างเช่น Bitcoin
มีทฤษฎีการเปลี่ยนสถานะของสินทรัพย์ที่อธิบายว่า Bitcoin นั้นได้เปลี่ยนสถานะของตัวเองมาเรื่อย ๆ โดยเป้าหมายสุดท้ายของมันคือตั้งใจที่จะเป็นเงินสกุลใหม่ของโลก
เริ่มต้นมันเปลี่ยนสถานะจากเงินของเล่นของสะสมกลายเป็นเงินในตลาดมืด กลายเป็นทองคำ Digital ในกลุ่มคนเล็ก ๆ กลายเป็นสินค้าเก็งกำไรในปี 2017 และทุกครั้งที่มันเปลี่ยนสถานะนั้น มันจะมาพร้อมกับกลุ่มกำลังซื้อใหม่
โดยพี่ตั๊มมองว่าในอนาคต Bitcoin จะกลายเป็น Reserve Asset หรือสินทรัพย์สำรองขององค์กร รวมทั้งเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้วย ซึ่งถ้ามันกลายเป็นแบบนั้นจริง ๆ องค์กรทั่วโลกก็จะต้องมี Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง อาจจะเป็น 1% หรือ 10% ก็ได้ แค่เงิน 1% ขององค์กรทั่วโลกรวมกัน ก็สามารถทำให้ราคาของ Bitcoin ขยับอีกระดับหนึ่งได้
Step ต่อไปของ Bitcoin อาจขยับไปเทียบคู่กับทองคำ ซึ่งแต่ก่อนทองคำนั้นคือเงิน (Money) แล้วถูกลดฐานะกลายมาเป็นสินทรัพย์สำรอง เมื่อเทียบ Market Cap ของทองคำที่ปัจจุบันอยู่ที่ 10 Trillion USD กับ Bitcoin ที่อยู่ราว ๆ 0.35 Trillion USD ซึ่งหากมันเพิ่มขึ้นเป็นสักครึ่งหนึ่งของทองคำคือ 5 Trillion USD นั้นก็จะทำให้ราคา Bitcoin พุ่งไปอีกมหาศาล
เพราะเมื่อเทียบกับปริมาณ Bitcoin ที่มีจำกัดเพียง 21 ล้าน ซึ่งตอนนี้ผลิตมาแล้ว 19 ล้านบิทคอยน์ เหลือแค่อีก 2 ล้านบิทคอยน์เท่านั้นที่ยังไม่ถูกผลิตและจะค่อย ๆ ผลิตไปอีก 120 ปีนั้น เมื่อเอาจำนวน Bitcoin มาหารกับ Market Cap จากราคาหลักหมื่นจะกลายเป็นหลักแสน
2. ทองคำพิสูจน์ตัวเองมา 5000 ปี คนก็ยังเชื่อถือมันอยู่ แล้วทำไมคุณต้องเชื่อ Bitcoin ที่มันล่องลอยอยู่ในอากาศและอยู่นอกกฎหมายด้วยซ้ำ?
พี่ตั๊มตอบว่า ทองคำก็ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายใด ๆ เพราะทองคำมีมาก่อนกฎหมาย มันเป็นสิ่งมีค่าที่มีมาก่อนที่มนุษยชาติจะผลิตคำว่าประเทศชาติหรือกฎหมายเสียอีก คำตอบของคำถามที่ว่าทำไม Bitcoin ถึงมีค่าได้? ก็จะคล้าย ๆ คำตอบที่อธิบายว่าทำไมทองคำถึงมีค่าได้?
ในอดีตทำไมคนเลือกใช้ทองคำเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน? นั่นก็เพราะทองคำไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือสังเคราะห์ใหม่ได้ รวมทั้งไม่เสื่อมสลายด้วย
แต่ทองคำมีข้อเสียอยู่อย่างเดียวคือ มันไม่ล่องลอยอยู่ในอากาศ เพราะมันทำให้คุณสามารถโดนจี้โดนปล้นได้ หลายประเทศเก็บทองคำเป็น Reserve Asset แล้วทุก ๆ ครั้งที่มีสงคราม ทองคำก็จะโดนปล้น เพราะมันจับต้องได้และไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศอย่างถูกกฎหมายได้
โจทก์ของ Bitcoin ก็คือ มนุษย์เราจะกลับไปยุคของทองคำได้หรือไม่? คำตอบคือไม่ได้ เพราะทองคำนั้นส่งยากมาก มันโดนยึดได้ ปัจจุบันนี้มันจำเป็นต้องเป็นดิจิตอล แล้วเราจะทำทองคำให้เป็น Digitalได้อย่างไร?
จากการทดลองหลายอย่างในการทำสกุลเงินดิจิตอล แต่ข้อเสียของดิจิตอลคือมัน Copy ได้ มีแต่ Bitcoin ที่สามารถทำได้ใกล้เคียงทองคำ โดยผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน
ทำให้ส่งข้อมูลแล้วส่งจริง หายไปจริง ๆ Copy ไม่ได้ ทุก Bitcoin ไม่สามารถปลอมแปลงได้ ทุกธุรกรรมจะมีการตรวจสอบว่าคุณไม่ได้ปลอมแปลงหรือขโมย Bitcoin ใครมา จากการตรวจสอบจากผู้ใช้งานทุกคน เป็นระบบที่ไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เป็นการป้องกันไม่ให้มีการปลอมแปลงหรือเสกบิทคอยน์ขึ้นมาได้
3. คนรุ่นเก่าจะเชื่อในเรื่องของตัวกลางในการควบคุมและการบังคับใช้กฎหมาย แต่คนรุ่นใหม่เชื่อในโค้ด สองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างไร?
พี่ตั๊มอธิบายว่ากฎหมายจะมีผู้ควบคุม คุณลองมองย้อนกลับไปว่ารัฐบาลมีไว้ทำไม? แต่ก่อนคนสองคนจะแลกเปลี่ยนสินค้ากัน ไม่ได้มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันจึงต้องมีตัวกลางเป็นตัวกำหนดให้คนสองคนทำตามสัญญาที่คุยกันไว้ผ่านกฎหมาย นั่นคือหน้าที่ของรัฐบาลในอดีต
แต่ Bitcoin ไม่ใช่แค่เงิน มันคือการสร้างโครงข่ายเชื่อถือแบบใหม่ขึ้นมาโดยไม่ต้องอาศัยตัวกลางหรือบุคคลที่ 3 เลย ยกตัวอย่างเช่น คุณทำสัญญาใน Bitcoin จะกู้ยืมเงินกัน จำนวนเท่านั้น วันที่เท่านี้ แล้วประกาศให้ทุกคนในระบบรับรู้ ถ้าจะแก้ไขก็ต้องไปแก้ไขความทรงจำในระบบของทุกคน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก
4. ถ้ามีเงินสกุลอื่นรวมทั้ง Bitcoin เข้ามา มองว่าเป็นปรปักษ์ กับรัฐบาลและค่าเงินภายในประเทศหรือไม่ ?
เป็นปรปักษ์แน่นอน เพราะหากมีคนใช้ Bitcoin เยอะมันจะลดทอนอำนาจรัฐลงไป ซึ่งรัฐเป็นคนควบคุมนโยบายทางการเงิน ควบคุมเศรษฐกิจ ค่อนข้างเป็นอำนาจที่ใหญ่มาก ในทางตรงกันข้าม Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีความเชื่อว่า ไม่ควรมีใครในโลกที่มีอำนาจนี้ ไม่ควรมีใครต้องควบคุมเศรษฐกิจ
เพราะเศรษฐกิจมันควบคุมไม่ได้ ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามกลไกของมันเอง
โลกที่กลไกตลาดทำงานได้และอยู่เหนือการควบคุมของรัฐคืออะไร? คือโลกในยุคสมัยที่มีมาตรฐานทองคำ ที่คุณสามารถใช้ทองคำเป็นเงินกันทั่วโลก ซึ่งในอดีตรัฐไม่สามารถพิมพ์ทองคำขึ้นมาใหม่ได้
แต่พอมีสงครามก็อยากจะใช้เงินปริมาณมาก จึงยกเลิกมาตรฐานทองคำชั่วคราว แล้วเมื่อสงครามจบลง ผู้ชนะก็จะยึดทองคำของคนที่แพ้มา แล้วกลับไปใช้มาตรฐานทองคำอย่างเดิม พอทำบ่อย ๆ เข้ายกเลิกมาตรฐานทองคำไปเลย
ทว่าสุดท้ายแล้วกลไกตลาดมันก็ยังคงทำงานตลอดเวลา คุณยับยั้งมันไม่ได้ การเข้าไปแทรกแซงมันทำให้สิ่งต่าง ๆ ผิดเพี้ยนไปเสมอ
ในกลุ่มของคนที่เชื่อมั่นในบิทคอยน์ การที่ดึงเอาอำนาจนี้ออกจากรัฐจะทำให้มนุษยชาติพัฒนาได้รวดเร็วขึ้นในเชิงของตลาดและเศรษฐกิจ
ถ้าคุณบอกว่าทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของมนุษย์คือเวลา ฉะนั้นทรัพยากรที่มีค่าของสังคมคือ วิธีการนำเวลาของมนุษย์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด
สังคมที่เงินผลิตได้ยาก คนจะเอาเวลาไปสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เพื่อนำมาแลกเงิน แต่ถ้าเป็นสังคมที่ผลิตเงินได้ง่าย คนก็จะไม่เสียเวลาไปผลิตอะไรที่มีประโยชน์ แต่จะหันไปผลิตเงินแทน
วิธีการผลิตเงินง่าย ๆ คือไปทำโปรเจคของรัฐ แล้วตั้งราคาแพงๆ อย่างเช่น ทำถนน 1 ล้าน ก็ตั้งราคา 100 ล้าน เดี๋ยวรัฐบาลก็พิมพ์เงินมาจ่ายได้ นี่คือวิธีการผลิตเงิน พอเป็นแบบนี้คนจะไม่สร้างคุณค่าให้กับสังคมแล้ว หันไปสร้างเงินกันแทน ทำให้สังคมเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ
5. แล้วถ้าเอา Bitcoin มาใช้งานจริง ๆ อย่างเสรี โดยไม่มีรัฐบาลเป็นตัวกลางในการควบคุม ก็อาจทำให้คนรวยยิ่งรวยขึ้นไปอีก มันจะก่อนให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำตามมาหรือไม่?
อาจารย์ตั๊มตอบว่า Wealth Gaps เกิดขึ้นแน่นอน เพราะ Wealth Gaps เป็นธรรมชาติของมนุษยชาติ คนที่มีข้อมูลมากกว่าก็จะสร้างความมั่งคั่งได้มากกว่า
สิ่งที่สำคัญคือ Wealth Gaps นั้นเกิดจากอะไร? ถ้า Wealth Gaps เกิดจากความสามารถที่ต่างกัน ความรู้ที่ต่างกัน มันเป็น Wealth Gaps ที่ยุติธรรม การที่คุณลงทุนเพื่อได้ความรู้มา คุณก็มีโอกาสที่จะสร้างผลประโยชน์ให้ตัวเองได้มากกว่า เพราะฉะนั้นมันก็เป็นการให้รางวัลตัวเองสำหรับการลงทุนในสิ่งที่ถูกต้อง
แต่ปัญหาคือในปัจจุบันคือ Wealth Gaps ไม่ได้เกิดจากความสามารถและความรู้ที่ต่างกันเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากอำนาจในการควบคุมการผลิตเงินด้วย มีคนบางกลุ่มสามารถสร้างหนี้เท่าไหร่ก็ได้ โดยที่ประชาชนทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีเงินไหลมาในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น เงินเฟ้อขึ้น ข้าวของแพงขึ้น เงินที่ถูกพิมพ์มาใหม่ไม่ได้กระจายไปยังประชาชนในสัดส่วนที่เท่ากัน มันผลิตมาเพื่ออุ้มธนาคารที่กำลังจะล้มหรือการสร้างรัฐสภา เป็นต้น คือมันใช้เฉพาะคนบางกลุ่มและคนกลุ่มนี้ก็จะเข้าถึงแหล่งเงินใหม่ได้ก่อน
ทำให้มีสิทธิพิเศษ ในการมีเงินเพิ่มขึ้นแต่ราคาข้าวของยังเท่าเดิม เขาจึงมีกำลังซื้อมากกว่า ส่วนคนที่อยู่ห่างไกลแหล่งผลิตเงินก็ต้องใช้จ่ายมากขึ้น ก่อนที่เขาจะได้เงินมากขึ้น เมื่อเขาได้เงินมากขึ้นก็ไม่ได้ทำให้เขารวยขึ้นเพราะราคาสินค้าก็สูงขึ้นเช่นกัน
นี่จึงเป็นการสร้าง Wealth Gaps ที่ไม่ยุติธรรม เป็น Wealth Gaps ที่เอากฎหมายและอำนาจรัฐเข้ามาสร้างทางอ้อม แม้จะด้วยเจตนารมณ์ที่ดี แต่เมื่อความหวังดีไม่ได้มองภาพรวมก็ทำให้เกิดผลกระทบขึ้นในภาพรวมได้
6. การมีหน่วยงานของรัฐแต่ละประเทศเพ่งเล็ง จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มเครือข่าย Bitcoin หรือไม่?
พี่ตั๊มมองว่าการห้ามของรัฐบาล เปรียบเสมือนกับการสร้างกำแพง ถ้ามีคนมุ่งมั่นที่จะข้ามกำแพงก็ข้ามได้ รัฐบาลจะห้ามได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น คือสามารถห้ามคนที่ไม่จำเป็นต้องใช้มันได้ แต่ถ้ามีคนจำเป็นต้องใช้มันก็ห้ามไม่ได้
Bitcoin กับรัฐบาลไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน แต่รัฐบาลควรจะหาโอกาสจากมันมากกว่า เพราะมันจะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้มากกว่า
สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือควรแก้กฎหมาย Bitcoin จากคำว่า “สินทรัพย์ดิจิตอล” ไปเป็น “เงินดิจิตอล” เพราะถ้าใช้คำว่าสินทรัพย์ มันจะใช้จ่ายเป็นเงินไม่ได้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคำว่าเงิน มันจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล แล้วค่อยไปเก็บภาษีจากกำไรหรือภาษีมูลค่าเพิ่มเอาที่หลังก็ได้ ระบบภาษีไม่ได้หายไปไหน
หลายคนถามว่า ศัตรู Bitcoin คืออะไร? คำตอบก็คือ รัฐบาลที่ดี !!!
ถ้ารัฐบาลมีระบบการเงินที่ดี ไม่พิมพ์เงินเพิ่ม ไม่มีการคอรัปชั่น ดอกเบี้ยสูง แล้วคนจะใช้ Bitcoin ไปเพื่ออะไร คนก็เลิกใช้ระบบที่ไม่มีตัวกลางในการควบคุม
สิ่งที่คุณต้องเข้าใจคือ Bitcoin ไม่มีตัวตนให้ไปโจมตี คุณโจมตีคนเล่นได้ แต่ตัวระบบมันไม่หายไปไหน เมื่อมีความต้องการมันก็งอกมาใหม่ กีดกันยังไงก็ไม่สำเร็จ สิ่งที่สำคัญคือคุณจะตัดสินใจยังไงให้ประเทศชาติได้ผลประโยชน์สูงที่สุด
7. หลายคนพูดว่าการขุด Bitcoin นั้น กินไฟมหาศาล สิ้นเปลืองทรัพยากรประเทศ ใครจะยอมให้มันเกิดขึ้น?
พี่ตั๊มบอกว่าคำว่า “ยอม” หมายความว่ามีคนที่มีอำนาจตัดสินใจว่าจะยอมหรือไม่ยอม แต่ถ้าไม่มีอำนาจก็จะไม่มีคำว่า “ยอม”
ถ้าคนคิดว่าไฟของเขาเอามาขุด Bitcoin ดีกว่า แล้วคุณจะไปห้ามอะไรเขา? มันคือกระบวนการตลาดเสรี คนที่จ่ายค่าไฟเขาเห็นว่ามันคุ้ม แต่ถ้าวันไหนเขาไม่คุ้มเขาก็เลิกทำ แค่นั้นเอง
คำถามต่อมาคือพวกเขาเอาไฟฟ้าพวกนี้ไปทำอะไร? แล้วมูลค่าที่ได้จากมันคืออะไร ถ้าตอบง่าย ๆ ก็จะตอบว่าได้ Bitcoin แต่จริง ๆ แล้วคุณไม่ได้แค่ Bitcoin เพราะนั้น Bitcoin เป็นเพียงรางวัลของคนที่เอาค่าไฟเข้ามาเสี่ยง
ฉะนั้นค่าไฟที่คุณจ่ายไปนั้น มันถูกจ่ายให้กับระบบทั้งระบบที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยตัวกลางเข้ามา แพงหน่อยแต่ก็คุ้ม เมื่อเทียบกับการไม่ต้องมีตัวกลางได้ มันก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก
8. แล้วราคาตอนนี้มันแพงไปหรือไม่? มันจะมาปฏิวัติโลกได้จริงหรือ? คนใช้งานยังมีจำนวนน้อย ราคามันจะไปได้สักแค่ไหน แล้วจะมีพื้นฐานอะไรมารองรับ?
พี่ตั๊มบอกว่าถ้าตอบแบบกวน ๆ ก็ “ราคาจะไปถึงไหน ก็ถึงตรงนั้น” หรือมีคนเคยพูดไว้ว่า 1 Bitcoin ก็ราคาเท่ากับ 1 Bitcoin เปรียบเสมือนว่า ถ้าคุณมี 1 Bitcoin ก็เท่ากับว่า คุณมี 1 ใน 21 ล้าน Bitcoin ในเครือข่ายของคนใช้ Bitcoin ส่วนตัวพี่ตั๊มมองว่า ตอนนี้มันเพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นของนำการมาประยุกต์ใช้ เพราะคนทั่วไปยังไม่รู้จักมันด้วยซ้ำ
9. มีโอกาส ที่ Bitcoin กับรัฐบาล จะสร้างผลผลิตร่วมกันได้หรือไม่?
พี่ตั๊มอธิบายให้เห็นภาพว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นการสลับข้างของอำนาจเท่านั้นเอง ในยุคที่เงินเสรีคนก็จะบอกว่ามันยุ่งยากก็หาตัวกลางเข้ามาควบคุม ทำให้เงินมันใช้ง่าย พอควบคุมมาก ๆ ประชาชนก็เหมือนจะโดนปล้นตลอดเวลา คนก็ต้องการการเงินระบบเสรีแล้วมันก็จะสลับกันไปมาตามกาลเวลาและตามความต้องการของคนในช่วงเวลานั้น
ซึ่งจุดที่มองว่าเป็นจุดสุกงอมคือตอนที่การควบคุม Money Supply ของโลกมันรุนแรงมาก จนทุกคนเห็น ทุกคนรู้ คือพิมพ์เงินไปเรื่อย ๆ คนรวยอยู่ไม่กี่กลุ่ม และมันไม่ใช่การรวยด้วยความสามารถ แต่เป็นการรวยขึ้นด้วยการควบคุมกฎหมาย จึงทำให้คนรู้สึกไม่ยุติธรรม
ต้องยอมรับก่อนว่า Bitcoin มันเหมือนปรากฏการณ์ธรรมชาติ คุณไม่ควรเถียงกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ควรจะหาประโยชน์จากมันมากกว่า เราลองมาคิดใหม่กันว่า แทนที่จะป้องกันไม่ให้คนเข้าถึงมันอย่างไร เป็นประเทศชาติจะได้ประโยชน์อะไรเมื่อมีมันอยู่
10. สุดท้ายแล้วอยากฝากอะไรกับเพื่อน ๆ ที่อ่านอยู่บ้าง?
พี่ตั๊มบอกว่าความรู้เรื่องระบบการเงินสำคัญ เพราะคุณสามารถโยนชีวิตทั้งชีวิตทิ้งได้เลย จากการหาเงินผิดที่ โลกปัจจุบันถูกออกแบบมาให้คนวุ่น ทำงานไปเรื่อย ๆโดยไม่ต้องคิดอะไร แต่เงินที่คุณเก็บนั้นด้อยค่าลงทุกวัน
พี่ตั๊มจึงแนะนำให้เลือกลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็ได้ที่รักษามูลค่าได้ข้ามผ่านกาลเวลาได้ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ ที่ดิน Bitcoin ได้หมด
ตอนนี้คุณอาจจะไม่อินกับ Bitcoin แต่คุณมีทองคำหรือยัง ที่ดินมีหรือยัง หรือมีสินทรัพย์ที่มูลค่าไม่เสื่อมค่าผ่านกาลเวลาหรือยัง คุณทำงานมาเหนื่อยมากแล้วเพื่อแลกกับเงินที่เน่าได้ ทุกอย่างมันแพงขึ้นไปหมด คุณก็ไม่มีวันมีเงินเก็บสักที
สิ่งแรกที่แนะนำในการลงทุนคือ “เก็บเงินให้เป็นก่อน” บางคนข้ามขั้นไป เงินเก็บยังไม่มีจะเอาบัตรเครดิตไปรูดเปิดบัญชีเทรดหุ้น
พอคุณเริ่มเก็บเงินคุณก็ต้องหาที่เก็บ เก็นในธนาคารแล้วเงินมันเสื่อม ลองเก็บเงินในกองทุนก่อนไหม ทองคำก่อนไหม แล้วคุณจะค่อย ๆ เรียนรู้เรื่องการเงินมากขึ้น แล้ว Bitcoin ก็จะเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุน
สิ่งสำคัญคือคุณต้องใช้วิจารณญาณในการลงทุน เริ่มต้นลงทุนในสิ่งที่คุณเชื่อก่อน พอคุณมีความรู้มากขึ้นก็เริ่มกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลาย ๆ ตัว เพื่อลดความเสี่ยงของคุณ แล้วคุณก็จะค้นพบว่าความรู้ทางการเงินสามารถปกป้องความมั่งคั่งของคุณได้มากแค่ไหน
และสุดท้ายนี้ก็ขอสวัสดีปีใหม่เพื่อน ๆ ทุกคน ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ
.
แอดปลา
แจ้งข่าว สัมมนารอบต่อไป
อสังหา 3in1 (อสังหาให้เช่า+อสังหาทางด่วน) รุ่น 10
วันที่ 9-10 มกราคม 2564
ดูรายละเอียดที่ลิงค์ในคอมเมนท์ครับ
同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過355萬的網紅Pu Pongsit Official,也在其Youtube影片中提到,ขอส่งความปรารถดีส่งท้ายปี 2563 และ สวัสดีปีใหม่ 2564 "หวังว่าปีหน้าเราจะพบกับความสุข ความสมหวัง พ้นจากโรคระบาด ขอให้เมืองไทยรอดพ้น ขอให้เศรษฐกิจของทุ...
「ส่งท้ายปี2563」的推薦目錄:
ส่งท้ายปี2563 在 wongnai.com Facebook 的最佳貼文
ส่งท้ายปี 2563 กับ 63 ร้านใหม่ที่เปิดให้บริการในปีนี้ ✨😍 นี่ไม่ใช่การจัดลำดับร้านอาหารที่ดีที่สุดของปี 2563 แต่เป็นการรวมเอาร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์เปิดใหม่ ตลอดปีมาไว้ในโพสต์เดียว 🎉
ส่งท้ายปี2563 在 Pu Pongsit Official Facebook 的最讚貼文
#ทีมฟังเพลงพี่ปูข้ามปี คืนนี้ใครอยู่ทีมนี้บ้าง 🤟🏻
ขอคนละ 1 เพลง ส่งท้ายปี 2563
#พงษ์สิทธิ์คำภีร์
#PuPongsitOfficial
ส่งท้ายปี2563 在 Pu Pongsit Official Youtube 的最讚貼文
ขอส่งความปรารถดีส่งท้ายปี 2563 และ สวัสดีปีใหม่ 2564
"หวังว่าปีหน้าเราจะพบกับความสุข ความสมหวัง
พ้นจากโรคระบาด ขอให้เมืองไทยรอดพ้น
ขอให้เศรษฐกิจของทุกๆ คนไปได้ดีกว่านี้"
#พงษ์สิทธิ์ #คำภีร์ #PuPongsitOfficial
【 ช่องทางติดตามข่าวสาร ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ 】
#LINE ► @PuPongsitOfficial หรือ คลิก http://line.me/ti/p/%40pupongsitofficial
#Facebook ► http://www.facebook.com/pupongsitofficial
ส่งท้ายปี2563 在 Bell Ksr Youtube 的精選貼文
ติดต่องาน โฆษณา รีวิวรถสามารถติดต่อได้ทาง
➤ FACEBOOK : https://www.facebook.com/bellksr2012
ถ้าชอบอย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามด้วยนะครับ
➤ สนใจรีวิวรถติดต่อ FACEBOOK : Bell KSR
➤ สามารถสนับสนุนค่าน้ำมันการเดินทางผมไปรีวิวรถ
- ผ่านทาง พร้อมเพย์ หรือทาง true wallet ได้นะครับ - 0815426283
ช่องทางในการติดตาม
➤ FACEBOOK : https://www.facebook.com/bellksr2012
ส่งท้ายปี2563 在 Guy Haru Family Youtube 的精選貼文
เดินทางมาถึงสิ้นปี 2563 กันแล้วนะพี่ๆแฟนขาบ ? EP.นี้พวกเราเลยอยากจะส่งความรักและคำขอบคุณผ่านของขวัญชิ้นนี้ให้พี่ๆที่เอ็นดูครอบครัวพวกเราทุกๆคนเลยน้าาาา Merry Christmas นะจ๊ะพี่ๆ เลิฟๆ ???
⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀
ติดตามสามยอดกุมารและบ้านเราได้ที่
? FANPAGE
https://www.facebook.com/guyharufamily/
?GHF SHOP
Blanket (ผ้าห่ม) : https://bit.ly/3hVtbjF
Bucket Hat (หมวกบัคเก็ต) : https://bit.ly/32VuV8m
สามารถสั่งซื้อได้ทาง Inbox Fanpage ได้เลย
?LINE Sticker
https://line.me/S/sticker/7067566
?สนใจติดต่อโฆษณา :
E-mail : guyharufamily@gmail.com
#guyharufamily #กุมารTravel #MerryChristmas #ส่งท้ายปี2563 #3ยอดกุมาร #คิรีน #ไนร่า #เอเดน #suprakobkids #kirinsuprakob #nyrasuprakob #adensuprakob