น้ำตาชนะ AI
---
ตั้งใจว่าจะเขียนถึงหนังสือ 10 เล่มที่ชอบที่สุดในปีนี้ หนึ่งในนั้นคือเล่มนี้นี่เอง ในเล่มมีอะไรให้พูดถึงมากมาย วันนี้ขอเล่าเรื่องเล็กๆ แต่เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากตอนต้นเล่มสู่กันฟังครับ
ไคฟู ลี หรือ หลี่ ไคฟู เล่าถึงความเก่งกาจที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ของ AI ซึ่งแข่งเกมโกะและหมากรุกชนะมนุษย์มาเป็นสิบปีแล้ว แต่มาพีคเอาตอนที่ AlphaGo ไล่ถล่ม 'เค่อ เจี๋ย' นักเล่นโกะมือหนึ่งของโลกชาวจีนย่อยยับติดกัน 3 ยก
สิ่งที่แตกต่างออกไปจากระบบคอมพ์ก่อนหน้านั้นก็คือ AlphaGo มีการทำงานแบบ Deep Learning ซึ่งล้ำหน้ากว่ามนุษย์ในการแยกแยะใบหน้า จดจำเสียง หรือกระทั่งอนุมัติเงินกู้
ซึ่งเป็นจุดขีดคั่นที่มนุษย์อาจต้องถูก AI แย่งงาน และพ่ายแพ้ในหลายๆ ด้าน
เป็นอีกครั้งที่แชมป์โลกที่เป็นมนุษย์พ่ายแพ้ต่อ AI
กระนั้น หลี่ ไคฟู กลับมองเห็นความหวัง
เมื่อการแข่งขันกำลังจะสิ้นสุดลง เค่อเจี๋ยพบทางตัน เขางัดทุกกลยุทธ์ออกมาสู้ทั้งหมดแล้ว แต่ก็รู้ดีว่าสู้ไม่ได้ ขณะนั้นเอง เขาไม่สามารถเก็บอารมณ์เอาไว้ได้อีกต่อไป ถอดแว่นออก แล้วใช้หลังมือปาดน้ำตาจากตาทั้งสองข้าง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแค่เสี้ยววินาที แต่คนดูทุกคนสัมผัสถึงอารมณ์ของเค่อเจี๋ยได้
หยาดน้ำตานั้นช่วยดึงความเห็นอกเห็นใจและการเอาใจช่วยออกมาให้เค่อเจี๋ยอย่างท่วมท้น
เหมือนจะแพ้ แต่ชนะใจ
...
หลี่ ไคฟู บอกว่า เขาเริ่มมองเห็นว่ามนุษย์จะค้นพบงานและความหมายในยุคแห่ง AI ได้อย่างไร
มนุษย์ต้องทำในสิ่งที่ AI ทำไม่ได้ นั่นคือ...เป็นมนุษย์
แม้ AI จะฉลาดปราดเปรื่อง จดจำข้อมูล ตรวจสอบ แม่นยำ ไม่ผิดพลาด หรือเก่งกาจแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งที่ AI ทำไม่ได้คือ รู้สึกรู้สาแบบที่มนุษย์เป็น
AI ไม่ร้องไห้
แล้วการร้องไห้มีข้อดีตรงไหน
การร้องไห้เป็นเพียงตัวอย่างของ 'ความรู้สึก' ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ ซึ่งมนุษย์ด้วยกันเองสัมผัสได้
เมื่อเห็นน้ำตาจากความพยายามของเค่อเจี๋ย เราไม่สนแล้วว่าเขาจะแพ้หรือชนะ แต่เรารักเขาและเห็นใจ อยากโอบกอดปลอบใจ
...
เราได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์เล็กๆ นี้?
เราต่างทราบดีว่า AI กำลังฉลาดขึ้นทุกวินาที จากข้อมูลที่สั่งสมและเรียนรู้มากขึ้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ มนุษย์ถูกทำนายว่าจะกลายเป็น 'พนักงานที่ไร้ค่า' หรือตกงานกันมากมายในสายอาชีพต่างๆ
ทางรอดในยุค AI ก็คือ ในการงานที่ทำอยู่เราจะต้องมีความเข้าใจและเข้าถึง มนุษย์ด้วยกันให้มากขึ้น เอาชนะใจมนุษย์ให้ได้ นั่นเป็นสิ่งที่ AI ยังทำได้ไม่ดีเท่าเราในเวลาอันใกล้นี้
งานบริการต่างๆ ยังต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้ การปฏิสัมพันธ์กัน เราต้องไม่กระทำต่อลูกค้าด้วยท่าทีเหมือนหุ่นยนต์ มิฉะนั้น เขารับบริการจากหุ่นยนต์ยังดีเสียกว่า ศิลปะ เพลง กวี งานเขียน ยังคงสื่อแสดงความเป็นมนุษย์และเชื่อมโยงหัวใจเข้าหากันได้หรือไม่ งานคราฟต์ต่างๆ ที่ทำมือ เสน่ห์ของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ ฯลฯ เหล่านี้
ใช้ความเป็นมนุษย์ของเราที่เข้าถึงหัวจิตหัวใจมนุษย์ด้วยกัน
สุดท้ายโลกจะต้องการสิ่งเหล่านี้มากขึ้น ยิ่งโลกใช้งาน AI มากขึ้นเท่าไหร่ มนุษย์ยิ่งโหยหาสัมผัสของความเป็นมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น
'ทักษะหัวใจ' คือทักษะสำคัญในยุคสมัยนี้
แทนที่จะพยายามแข่งกับ AI เราอาจต้องใส่ใจในสิ่งที่ AI ยากจะเอาชนะเรา
aiแย่งงาน 在 อาชีพไหนบ้าง ที่จะโดน AI แย่งงาน ? | LDA Podcast - YouTube 的推薦與評價
Episode นี้เราคุยเรื่อง AI กันต่อ จากคราวที่แล้วที่บอกว่า AI จะครองโลก แล้วทีนี้อาชีพไหนบ้างล่ะ ที่จะโดน แย่งงาน ไป ? ... <看更多>