Sean Quinn มหาเศรษฐีรวยสุดในไอร์แลนด์ ล้มละลายใน 3 ปี /โดย ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่าเศรษฐกิจของประเทศไอร์แลนด์ เติบโตอย่างร้อนแรงในช่วงปี 1995 ถึง 2007
จนมีชื่อเรียกว่า “The Celtic Tiger” ซึ่งในช่วงเวลานั้น GDP ของไอร์แลนด์เติบโตขึ้นเกือบ 4 เท่า
ในเวลาเพียง 12 ปี โดยเฉพาะระหว่างปี 1995 ถึง 2000 ที่ GDP เติบโตเฉลี่ยปีละ 9.4%
นั่นจึงทำให้ไอร์แลนด์ กลายเป็นประเทศที่ประชากรโดยเฉลี่ยร่ำรวยติด 10 อันดับแรกของโลก
และผู้ที่ร่ำรวยสุดในไอร์แลนด์ ในเวลานั้นก็คือชายที่ชื่อว่า “Sean Quinn”
แต่เพียง 3 ปีหลังจากนั้น Sean Quinn กลับต้องกลายเป็นคนล้มละลาย
แล้วชีวิตของ Sean Quinn พลิกจากคนรวยสุดในไอร์แลนด์
จนไม่เหลืออะไรเลยใน 3 ปี ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
“Sean Quinn” เกิดที่ประเทศไอร์แลนด์ในปี 1947 ในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะดี
เขาจึงต้องออกจากโรงเรียนตอนอายุ 15 ปี เพื่อมาช่วยงานที่ฟาร์มเล็ก ๆ ของครอบครัว
ปี 1973 คุณ Quinn ในวัย 26 ปี ก็ได้เริ่มค้าขายครั้งแรก หลังจากที่เขาพบว่าที่ดินตรงเนินเขาหลังบ้าน มีหินกรวดที่ใช้ก่อสร้างอยู่ เขาเลยยืมเงินจากเพื่อน 4,500 บาท หรือคือเป็นมูลค่าราว 55,000 บาทในปัจจุบัน เพื่อซื้อเครื่องจักรมาขุดหินและกรวดไปขาย
แต่ในช่วงนั้นเศรษฐกิจของประเทศไอร์แลนด์ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การทำธุรกิจจึงยากลำบากมาก จนกระทั่งมาถึงปลายทศวรรษ 1980 ที่เศรษฐกิจไอร์แลนด์เริ่มฟื้นฟูและกลับเข้าสู่ช่วงเติบโตอีกครั้ง
ปี 1989 คุณ Quinn ได้ต่อยอดมาทำธุรกิจซีเมนต์และคอนกรีต โดยใช้ชื่อว่า Quinn Cement ซึ่งได้กลายเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ จนทำให้คุณ Quinn สร้างตัวขึ้นมาได้จนกลายเป็นเจ้าตลาดซีเมนต์ในประเทศ
หลังจากประสบความสำเร็จในขั้นแรกแล้ว คุณ Quinn ก็ได้ขยายธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ อย่างเช่น
โรงงานแก้วและพลาสติก ที่ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วจนสามารถขยายโรงงานไปได้ทั่วยุโรป
รวมถึงกิจการโรงแรมอย่าง Quinn Hotel ที่เป็นเจ้าของโรงแรมหรู 7 แห่งทั่วยุโรป
ต่อมาในปี 1996 บริษัท Quinn ก็เริ่มให้บริการทางการเงินอย่างประกัน โดยตั้งเป็นบริษัท Quinn Insurance จนกลายเป็นบริษัทประกันที่มีลูกค้ามากเป็นอันดับ 3 ในไอร์แลนด์ในเวลา 10 ปี
ก่อนที่ในปี 2007 Quinn Insurance ก็ขยายใหญ่ขึ้นไปอีก จากการเข้าซื้อกิจการ Bupa Ireland ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไอร์แลนด์ในขณะนั้น
อาณาจักรธุรกิจของคุณ Quinn ที่ขยายไปในหลายอุตสาหกรรม มีชื่อเรียกรวมกันว่า “Quinn Group” ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเครือบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในไอร์แลนด์
Quinn Group ครอบคลุมกิจการหลากหลาย ทั้งโรงงานวัสดุก่อสร้างและบรรจุภัณฑ์ ประกัน โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ ผับ ร้านอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย จนเมืองที่เป็นที่ตั้งของบริษัท Quinn Group ถูกเรียกว่า “ประเทศ Quinn”
นอกจากนี้ คุณ Quinn ยังถูกยกย่องให้เป็นฮีโรของชาวเมือง เพราะการลงทุนมหาศาล ได้ช่วยพลิกฟื้นจากเมืองที่ไม่มีอะไรเลย ให้กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรม ที่สำคัญก็คือช่วยให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 8,000 คน
และความสำเร็จของ Quinn Group ก็ทำให้ในปี 2007 คุณ Quinn ในวัย 60 ปีและครอบครัวของเขา มีทรัพย์สิน 1.95 แสนล้านบาท ถูกจัดอันดับจาก Forbes ว่าเป็นคนที่รวยสุดในไอร์แลนด์และรวยเป็นอันดับที่ 164 ของโลก
แต่นอกจากการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจให้อาณาจักร Quinn Group แล้ว
คุณ Quinn ได้เข้าไปซื้อหุ้นของธนาคาร Anglo Irish Bank อย่างลับ ๆ ด้วย
Anglo Irish Bank เป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีสาขาทั่วยุโรปและในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 1964 จากการปล่อยสินเชื่อให้ภาคธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก
ด้วยความที่คุณ Quinn ทำธุรกิจและยังมีกิจการที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มากมาย เขาเลยตั้งใจที่จะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Anglo Irish Bank โดยเริ่มเข้าซื้อหุ้น Anglo Irish Bank ในปี 2007
แต่ผ่านไปเพียง 1 ปี การครอบครอง Anglo Irish Bank กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สิ่งที่คุณ Quinn สร้างมาทั้งชีวิต ต้องจบลง..
ช่วงครึ่งหลังของปี 2008 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาเกิดภาวะฟองสบู่แตก ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของโลก
ซึ่งก็ลามมาถึงประเทศไอร์แลนด์ด้วย
Anglo Irish Bank ที่ปล่อยสินเชื่อให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก ก็แน่นอนว่าได้รับผลกระทบหนัก จนทำให้ราคาหุ้นร่วงหนัก
ซึ่งในระหว่างนั้นคุณ Quinn ไม่ได้ตัดสินใจตัดขาดทุน แต่เขากลับมองว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น Anglo Irish Bank เพราะหวังว่าเมื่อราคาหุ้นฟื้นกลับมาจะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ
แต่ด้วยสภาพคล่องของเงินที่คุณ Quinn มีในตอนนั้นไม่เพียงพอ เขาเลยใช้เงินที่ยืมมา อย่างเช่นเงินกู้ เงินของบริษัท Quinn Insurance และที่สำคัญก็คือใช้เครื่องมือทางการเงินที่ทำให้ตัวเขาเองมีอำนาจในการเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนมากกว่าเงินทุนของเขา หรือที่เรียกกันว่าการ “Leverage”
ทำให้คุณ Quinn มีสัดส่วนการถือหุ้นของ Anglo Irish Bank เพิ่มขึ้นจาก 5% ไปเป็นกว่า 25%
แต่สุดท้ายแล้วคุณ Quinn ก็คิดผิด เพราะ Anglo Irish Bank โดนผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจจนดำเนินกิจการต่อไม่ไหว รัฐบาลจึงต้องเข้ามาช่วยเหลือในเดือนมกราคม ปี 2009 และ Anglo Irish Bank ก็ได้กลายเป็นธนาคารของรัฐนับแต่นั้นมา
เรื่องดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้น Anglo Irish Bank นับจากจุดสูงสุดในปี 2007 จนถึงต้นปี 2009 ลดลงกว่า 98%
ซึ่งถ้าการลงทุนนี้ มาจากเงินของคุณ Quinn เองทั้งหมด เขาจะแค่เงินหายในส่วนของการลงทุนใน Anglo Irish Bank แต่เงินที่เขาใช้ในการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น ดันเป็นเงินที่เขายืมมา
สุดท้ายแล้ว คุณ Quinn และบริษัทจึงเป็นหนี้กับ Anglo Irish Bank 9.24 หมื่นล้านบาท และเป็นหนี้กับเจ้าหนี้รายอื่นอีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท
เงินส่วนหนึ่งที่คุณ Quinn เตรียมนำมาใช้หนี้ ถูกพบว่าเป็นเงินที่มาจากบริษัท Quinn Insurance ราว 1 หมื่นล้านบาท คุณ Quinn และบริษัท Quinn Insurance จึงถูกปรับราว 130 ล้านบาท และคุณ Quinn ต้องออกจากตำแหน่งบริหารใน Quinn Insurance ไป
แต่นอกจากการนำเงินไปช่วยใช้หนี้แล้ว บริษัท Quinn Insurance ยังมีสัดส่วนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สูงมาก นั่นจึงทำให้ในปี 2009 Quinn Insurance ขาดทุนจากการดำเนินงานเกือบ 2.5 หมื่นล้านบาท และยังส่งผลให้ Quinn Group ขาดทุนจากการดำเนินงานกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท
สถานะทางการเงินที่ย่ำแย่นี้ ก็ทำให้ในเดือนมีนาคม ปี 2010 หน่วยงานที่กำกับดูแลเลยมีคำสั่งให้ Quinn Insurance ขายกิจการให้กับ Anglo Irish Bank และบริษัทประกันของสหรัฐอเมริกาที่ชื่อ Liberty Mutual
ต่อมาในเดือนเมษายน ปี 2011 Anglo Irish Bank จึงเข้าควบคุมกิจการทั้งหมดของ Quinn Group โดยมีคำสั่งให้คุณ Quinn และครอบครัวไม่มีอำนาจบริหารและพ้นจากการเป็นเจ้าของ ส่วนเหล่าผู้บริหารก็ถูกไล่ออก และแต่งตั้งทีมบริหารที่เป็นคนนอกเข้ามาแทน
จนกระทั่งปลายปี 2011 คุณ Quinn ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นบุคคลล้มละลาย แต่ในระหว่างขั้นตอนถูกยึดทรัพย์ เขากลับพยายามทยอยแบ่งขายสินทรัพย์ที่มีค่า เพื่อเก็บเป็นเงินสดก่อนที่จะถูกยึด ซึ่งผิดกฎหมาย เขาจึงถูกศาลตัดสินจำคุก 9 สัปดาห์ ตอนปลายปี 2012
จนถึงปัจจุบันคุณ Quinn ในวัย 74 ปี ได้อาศัยอยู่กับครอบครัวในเมืองเกิดของเขา โดยที่ไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีเหมือนเดิมแล้ว แต่เรื่องนี้ก็เป็นบทเรียนให้กับทุกคนได้ดี
เรื่องราวของคุณ Quinn ที่เริ่มทำธุรกิจในจังหวะที่เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของไอร์แลนด์ และใช้กลยุทธ์ขยายกิจการไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง ไม่ให้พึ่งพากับอุตสาหกรรมก่อสร้างเพียงอย่างเดียว ถือเป็นความสำเร็จที่น่ายกย่อง
อย่างไรก็ตาม คุณ Quinn กลับตัดสินใจทุ่มเงินลงทุนด้วยความเสี่ยงที่สูงมาก ซึ่งไม่ต่างจากการพนันใน Anglo Irish Bank แบบหมดหน้าตัก แถมยังใช้เงินที่กู้ยืมมา ก็ถือเป็นความผิดพลาดขั้นรุนแรง
ที่ได้ทำให้อาณาจักรธุรกิจและความมั่งคั่งที่คุณ Quinn สร้างมากว่า 35 ปี หายวับไปกับตา
ในเวลาเพียง 3 ปี เท่านั้น..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.bloomberg.com/features/2020-sean-quinn-ireland/
-https://www.ft.com/content/9d61e078-927b-11e3-8018-00144feab7de
-https://www.forbes.com/forbes/2011/0509/focus-sean-quinn-group-anglo-irish-bank-biggest-loser.html?sh=66279e4d71fa
-https://www.bbc.com/news/uk-northern-ireland-49754980
-https://www.bbc.com/news/uk-northern-ireland-19063419
-https://www.bbc.com/news/world-europe-58075623
-https://www.thejournal.ie/sean-quinn-anglo-bankrupt-671638-Nov2012/
-https://www.thejournal.ie/quinn-group-reports-operating-loss-of-e888m-for-2009-144756-May2011/?utm_source=businessetc
-https://www.irishtimes.com/business/quinn-and-family-buying-15-of-anglo-irish-bank-1.945177
-https://en.wikipedia.org/wiki/Mannok
-https://www.investopedia.com/terms/c/celtictiger.asp
-https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.MKTP.CD?locations=IE
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「business focus wiki」的推薦目錄:
- 關於business focus wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於business focus wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於business focus wiki 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳貼文
- 關於business focus wiki 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
- 關於business focus wiki 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
- 關於business focus wiki 在 BusinessFocus - 【#BF今日科技維基百科創辦人上月低調推出 ... 的評價
- 關於business focus wiki 在 What is a Company Wiki for Small Businesses? - YouTube 的評價
business focus wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
Boeing กับ Airbus ใครใหญ่กว่ากัน / โดย ลงทุนแมน
ในอดีตเมื่อพูดถึงบริษัทเครื่องบินเบอร์หนึ่งของโลกคงหนีไม่พ้นชื่อ Boeing
แต่ถ้าเทียบกับ Airbus แล้ว ตอนนี้เป็นอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Airbus เป็นบริษัทสัญชาติยุโรป ส่วน Boeing เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน
ในภาพรวมการประกอบธุรกิจนั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก
1.การประกอบเครื่องบินทั่วไปที่เราใช้นั่งกันทุกวันนี้
2.เครื่องบินทางทหารรวมทั้งโครงการเกี่ยวกับอวกาศ
3.ธุรกิจการให้บริการ เช่น การซ่อมบำรุง
ซึ่งเรียกได้ว่าทั้ง 2 บริษัททำธุรกิจแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง
ทีนี้ก็คงเกิดคำถามว่า 2 บริษัทนี้ใครใหญ่กว่ากัน?
เรามาดูรายได้ของ 2 บริษัทนี้กัน
10 ปีที่แล้ว
Boeing 1.9 ล้านล้านบาท Airbus 1.6 ล้านล้านบาท
5 ปีที่แล้ว
Boeing 2.5 ล้านล้านบาท Airbus 2.1 ล้านล้านบาท
ตอนนี้
Boeing 2.9 ล้านล้านบาท Airbus 2.6 ล้านล้านบาท
รายได้โดยรวม Boeing จะมากกว่า Airbus มาโดยตลอด
แต่ถ้าแยกพิจารณาเฉพาะส่วนของเครื่องบินทั่วไป
ปี 2016 Boeing 1.9 ล้านล้านบาท Airbus 1.9 ล้านล้านบาท
ปี 2017 Boeing 1.9 ล้านล้านบาท Airbus 2 ล้านล้านบาท
เมื่อสิ้นปี 2017
เครื่องที่สั่งซื้อแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งมอบของ Boeing มีจำนวน 5,864 ลำ และ Airbus 7,265 ลำ
แสดงถึงว่าถ้ามองแค่ในตลาดเครื่องบินทั่วไปถือได้ว่า Airbus แซง Boeing ไปเรียบร้อยแล้ว
กำไรสุทธิ
ปี 2017 Boeing 3.2 แสนล้านบาท (ได้ประโยชน์จากนโยบายภาษีคิดเป็นเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท) Airbus 1.1 แสนล้านบาท
มูลค่าบริษัทปัจจุบัน
Boeing 6.5 ล้านล้านบาท
Airbus 2.9 ล้านล้านบาท
มองจากมูลค่าบริษัทและกำไรสุทธิจะเห็นว่า Boeing มากกว่า Airbus ถึง 2 เท่า
ฉะนั้นถ้ามองในความใหญ่แล้ว เราก็ยังคงบอกได้ว่า Boeing เป็นเบอร์หนึ่งเช่นเดิม
ปัจจุบัน Boeing มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา บริหารภายใต้ CEO คนใหม่คือคุณ Dennis Muilenburg ซึ่งทำงานอยู่ที่ Boeing มาตั้งแต่ปี 1985
ส่วน Airbus มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Toulouse ประเทศฝรั่งเศส บริหารภายใต้ CEO คือคุณ Tom Enders ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าการป้องกันทางอากาศและโครงการเกี่ยวกับอวกาศของยุโรป
แม้ว่าทั้งสองบริษัทเองจะเป็นคู่แข่งกันทางการตลาดมาตลอดอย่างยาวนานแต่ทั้งสองบริษัทก็มีโมเมนต์ที่ชื่นชมกันเองเช่นกัน
โดยล่าสุดเมื่อเดือน มกราคมที่ผ่าน Airbus พึ่งได้ทำการเปิดตัวเครื่องบินยาวที่สุดในโลก ประเภทมีทางเดินระหว่างที่นั่งเส้นเดียว A321LR
หลังจากที่ Airbus ประกาศเปิดตัวไปไม่นานคู่แข่งอย่าง Boeing ก็ได้เข้ามา comment ทันทีว่า Congratulations to @Airbus for completing the first flight of the #A321LR. Competition makes us all better!
ซึ่งดูแล้วก็ให้ข้อคิดที่ว่า
ในบางครั้งเราอาจจะมองว่าการแข่งขันเกิดแต่ผลเสีย แต่ถ้าเรามองอีกมุมหนึ่งการแข่งขันก็ช่วยให้เราพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเมื่อก่อนเช่นกัน
สำหรับอนาคตเราก็คงต้องมาติดตามกันต่อว่าทาง Boeing เองจะมีกลยุทธ์ใดเพื่อมาชิงตลาดเครื่องบินทั่วไปจาก Airbus คืนหรือว่าจะปล่อยให้ Airbus เป็นเจ้าตลาดต่อไปแล้วไปโฟกัสที่ตลาดอื่นแทน..
----------------------
โหลดแอป blockdit มาอ่านฟรีได้ที่ blockdit.com
----------------------
Reference
-http://investors.boeing.com/
-http://company.airbus.com/investors.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Airbus
-https://en.wikipedia.org/wiki/Dennis_Muilenburg
-https://en.wikipedia.org/wiki/Boeing
Boeing and Airbus. Who is bigger / by investing man
In the past, when it comes to the world's number one aircraft company, I couldn't escape Boeing
But compared to Airbus, what is it now?
Invest, man will tell you about it.
Airbus is a European nationality company. Boeing is an American nationality company
In An Overview, the business will be divided into 3 main parts.
1. Common Aircraft Assembly we use to sit on these days
2. Military aircraft including space project
3. Business services such as maintenance
Which is called all 2 companies do business, almost the same.
Now there is a question, who are these 2 companies bigger?
Let's see the revenue of these 2 companies
10 years ago
Boeing 1.9 trillion baht Airbus 1.6 trillion baht
5 years ago
Boeing 2.5 trillion baht Airbus 2.1 trillion baht
Now now.
Boeing 2.9 trillion baht Airbus 2.6 trillion baht
Overall income Boeing will always be more than airbus
But if separate, consider only part of the plane in general.
Year 2016 Boeing 1.9 trillion baht Airbus 1.9 trillion baht
Year 2017 Boeing 1.9 trillion baht Airbus 2 trillion baht
At the end of the year 2017
The machine that has ordered but has not delivered. Boeing has 5,864 items and 7,265 Airbus.
It shows that if i only look at the market, Airbus has already overtaken Boeing.
Net Profit
Year 2017 Boeing 3.2 billion baht (benefit from tax policy. Think About 1 billion baht) Airbus 1.1 billion baht.
Current company value
Boeing 6.5 trillion baht
Airbus 2.9 trillion baht
Based on company value and net profit will see that Boeing is 2 times more than Airbus.
So if you look at the big and we can still say that Boeing is number one as before.
Boeing is currently headquartered in Chicago, cuddle, Illinois, United States, under the new CEO. Dennis Muilenburg, who has been working at Boeing since 1985
Airbus is headquartered in Toulouse, France, run under CEO, Mr. Tom Enders, former head of air defense and European space project.
Although both companies have been a long time of marketing competitors, both companies also have a moment to appreciate each other.
Last January, Airbus just launched the longest plane in the world. There is a path between one seat a321lr
Not long after airbus announced its launch, a rival like Boeing immediately came to comment that congratulations to @Airbus for completing the first flight of the #a321lr. Competition makes us all better!
Which takes care of the idea that
Sometimes we may think that competition is bad. But if we look at the other corner, the competition helps us improve ourselves better than before.
For the future, we will have to follow the Boeing. What strategies will there be to win the general airbus market back or let airbus be the next market and focus on another market instead..
----------------------
Download Blockdit app to read for free at blockdit.com
----------------------
Reference
-http://investors.boeing.com/
-http://company.airbus.com/investors.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Airbus
-https://en.wikipedia.org/wiki/Dennis_Muilenburg
-https://en.wikipedia.org/wiki/BoeingTranslated
business focus wiki 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳貼文
business focus wiki 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
business focus wiki 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
business focus wiki 在 What is a Company Wiki for Small Businesses? - YouTube 的推薦與評價
Basically, a business wiki combines employee handbooks with social technology. A trendy term for tech that takes advantage of things like ... ... <看更多>
business focus wiki 在 BusinessFocus - 【#BF今日科技維基百科創辦人上月低調推出 ... 的推薦與評價
根據《金融時報》報道,維基百科創辦人Jimmy Wales於上月底低調推出名為WT:Social的社交平台,表示要與標題黨(clickbait)氾濫的Facebook、Twitter等大型社交網站抗衡。 ... <看更多>