QGEN - HR Practice Provider
People คือหนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้คนเก่งหรือ Talent ขององค์กรเลือกที่จะไม่ไปต่อ ซึ่ง Employee Engagement Model ของ QGEN ได้แบ่งรูปแบบความสัมพันธ์กับคนในองค์กรออกเป็น 4 รูปแบบ ที่มีอิทธิพลต่อเหตุผลและความรู้สึกที่ต่างกันไปตามการให้คุณให้โทษ และการสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน
หัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน และลูกค้า คือรูปแบบของคน 4 ประเภทที่ QGEN พูดถึง ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่นำไปโยงกับการรักษาคนเก่งหรือ Talent ขององค์กรไว้ หัวหน้าจะเป็นเป้านิ่งลำดับแรกที่หลายคนนึกถึง และอาจจะตัดสินไปแล้วด้วยว่า นี่แหละคือสาเหตุหลักที่ทำให้องค์กรเสียคนเก่งไป
การตัดสินใจลาออกของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นคนในค่าเฉลี่ยขององค์กร หรือ Talent ขององค์กร มีเหตุผลอยู่มากมาย ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรไม่ได้ องค์กรอื่นให้ตำแหน่ง เงินเดือน สวัสดิการ ที่ดีกว่า Work Life Balance ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวัง หรือแม้แต่งานไม่สนุก รู้สึกไม่มีคุณค่า และผังองค์กรที่มีลำดับขั้นเยอะจนทำให้งานไม่เดินหรือล่าช้าไปกว่าที่ควรจะเป็น
หรือถ้าปัญหาของการลาออกเป็นเรื่องของคน ก็มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งการมีปัญหากับลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้า แต่ก็นั่นล่ะครับ ถึงจะมีเคสให้เห็นอยู่บ้างอย่างนักเตะเล่นไล่โค้ช แต่ก็เป็นส่วนน้อยจริง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเทียบกับการที่ใครซักคนจะลาออกเพราะหัวหน้า
เหรียญมีสองด้านเสมอ อย่าเพิ่งเร่งตัดสินว่าเป็นเพราะหัวหน้า ภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัดที่หลายคนอาจจะไม่รู้ สิ่งที่หัวหน้าได้ทำไปก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ณ เวลานั้นก็ได้ และเช่นกันครับหัวหน้าบางคนอาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานอยากจะที่เปิด Job Board ในทุกวัน แต่ก็มีไม่น้อยเหมือนกันที่หัวหน้าคือคนสำคัญที่กระตุ้นและเป็นแรงผลักให้หลายคนทำงานอย่างมีความสุข
ความกังวลของหัวหน้าหน้าใหม่หลายคนคือ ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะบริหารทีมอย่างไร กลัวการตำหนิผู้อื่น กลัวการถูกนินทา นี่คือเรื่องที่ผมมองว่าผู้บริหารและ HR จะต้องให้ความใส่ใจกับหัวหน้าหน้าใหม่ที่แต่ละคนอาจจะมี People Management Skill ที่ไม่เท่ากัน อย่ารอให้เค้ากังวลจนทำตัวไม่ถูก เร่งพัฒนาเค้าด้วยในวันที่เรา Promote เค้าขึ้นไปเป็น Leader
Leadership ตามนิยามของ Jims Collin คือ ศิลปะของการกระตุ้นให้คนในทีมอยากจะทำ ในสิ่งที่เค้าจะต้องทำให้สำเร็จ นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้ Leader ในทุกระดับลองไปตีความดู และในงานพื้นฐานของ Leader ในทุกระดับต้องลองไปพิจารณากันอีกทีว่า เราทำเรื่องพื้นฐานเหล่านี้ได้ดีแค่ไหน และถ้าเราทำได้ไม่ดี นี่คือหนึ่งในการส่งสัญญาณว่าคนเก่ง ๆ จะไม่อยู่กับเราหรือเปล่า
1.Target Setting การตั้งเป้าหมายให้กับคนในทีม 2. Assignment การมอบหมายงานให้กับคนในทีมโดยเน้นที่ Strength เป็นที่ตั้ง 3. Monitoring & Tracking การติดตามงานอย่างเหมาะสม และไม่ Micro Management จนขาด Creativity 4 Evaluation and Feedback แยกคนเก่งและไม่เก่งออกจากกันได้ และสามารถให้ข้อมูลเพื่อไปพัฒนาตนเองของทีมแต่ละคนด้วย และ 5 Reward & Recognition ซึ่งเชื่อมโยงกับการตั้งเป้าและการประเมินผล
ขอไม่ลงรายละเอียดใน Content นี้นะครับ แต่ลองไปเช็คดูว่าเราทำครบมั้ย ให้คะแนนตัวเองกันหน่อยว่าเราได้ดีแค่ไหน
ทีนี้กลับมาที่เหตุและผลของการที่คนเก่งลาออก แล้วบอกว่า หัวหน้านี่แหละคือสาเหตุสำคัญ จากประสบการณ์ของผมเอง ผมวิเคราะห์ออกมา 4 หัวข้อใหญ่ ๆ ที่เป็นพฤติกรรมของหัวหน้าซึ่งส่งผลต่อเหตุผล อารมณ์และความรู้สึกของคนทำงาน โดยเฉพาะกับคนเก่ง ๆ
ขอตัดเรื่องหัวหน้าที่ EQ น้อย ๆ ออกไปก่อน เพราะประเด็นนั้นคงไม่จำเป็นต้องคุย ส่วนอีก 4 ข้อ อยากจะให้หัวหน้าไปลองรีวิวตัวของเราเองดู เผื่อว่าเราจะเจอต้นตอของปัญหา และหาวิธีในการแก้ไขได้ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อรักษาคนเก่งไว้ให้อยู่กับเราต่อไปได้
ข้อแรกคือ Communication หัวหน้าที่สื่อสารไม่เป็น ซึ่งการพูดเก่งไม่ได้หมายความว่าสื่อสารเป็น และถ้าเราย้อนกลับไปดู 5 งานพื้นฐานของหัวหน้า Communication คือองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้กระบวนการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ
ข้อสอง หัวหน้าที่ไม่วางแผน Career Path ให้กับ Talent อย่างเหมาะสม เราต้องไม่ลืมว่า Career Growth คือเหตุผลอันดับต้น ๆ ของ Talent โดยเฉพาะ New Generation หัวหน้าคนไหนที่ลืมเรื่องนี้ไป รีบกลับมาวางแผนซะก่อนที่ Talent ของเราจะไปวางแผนกับองค์กรอื่น
ข้อที่สาม หัวหน้าที่เป็น Center ในทุกเรื่อง ไม่ Empower ให้กับ Talent ในการทำงานทั้งที่ตอนเลือกคนเข้ามา พยายามเลือกคนที่เก่งที่สุด แต่ไม่ให้อำนาจในการทำงานที่เหมาะสม
และข้อสุดท้าย คือหัวหน้าที่ไม่ตัดสินใจ
ทั้ง 4 ข้อนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากให้หัวหน้าไปลองพิจารณาดู และถ้าให้ดีลองทำ Feedback โดยให้ทุกคนในทีมบอกเราว่า อะไรคือสิ่งที่เราควรพัฒนา เปิดใจให้มากเพื่อรับฟังเรื่องเหล่านั้น ถ้าเห็นว่านั่นคือ Fact และเราควรจะเร่งพัฒนาปรับปรุงตัวเราเองก็ควรรีบทำซะ
คนเก่งหาไม่ได้ง่าย ๆ รักษาเค้าไว้ให้ดีนะครับ
ใน Content หน้าจะมาเล่าเรื่อง Leader for Employee Experience ซึ่งเป็นอีกแนวทางนึงในการ Retain และ Engage คนเก่งไว้ให้กับองค์กร ฝากติดตามนะครับ
#Leadership #EmployeeEngagement #EmployeeExperience
#QGEN
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「employeeexperience」的推薦目錄:
- 關於employeeexperience 在 HR - The Next Gen Facebook 的最佳貼文
- 關於employeeexperience 在 HR - The Next Gen Facebook 的最讚貼文
- 關於employeeexperience 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳貼文
- 關於employeeexperience 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於employeeexperience 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於employeeexperience 在 How to Improve Employee Experience - YouTube 的評價
employeeexperience 在 HR - The Next Gen Facebook 的最讚貼文
QGEN - HR Practice Provider
ถ้าหากองค์กรฝากความหวังไว้ที่ "คน" องค์กรและ Leader ก็ต้องทำความเข้าใจ และใส่ใจในเรื่อง Employee Experience ให้มากพอ
Employee Experience หรือ EX เป็นอีกหนึ่งเรื่องประยุกต์จากการบริหารและจัดการลูกค้า ถ้าองค์กรและผู้บริหารเข้าใจ Customer Journey เป็นอย่างดี ก็อาจจะไม่ยากที่จะทำความเข้าใจ Employee Journey และ Employee Experience เพียงแค่ปรับมุมมองขององค์กรและผู้บริหาร ให้มองพนักงานเป็นลูกค้าคนนึง และสินค้าที่องค์กรมีให้กับลูกค้าประเภทนี้ก็คือ
งานที่มีคุณค่าในองค์กรที่ควรค่าที่จะทำงานด้วย
แปลเป็นภาษาที่ซับซ้อนน้อยลงหน่อยคือ องค์กร ผู้บริหาร รวมไปถึง HR ต้องร่วมมือกันในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานตั้งแต่ก่อนที่พนักงานจะรู้จักองค์กร จนมาเริ่มร่วมงานกับองค์กร ยาวไปจนถึงแยกย้ายไปจากองค์กรไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
ผมยกตัวอย่างให้พอเห็นภาพ ถ้า Target Candidate ค้นหาชื่อบริษัทเราใน Search Engine แล้วไม่เจอ Website บริษัท เราคิดว่านั่นคือประสบการณ์ที่ดีของเค้ามั้ย หรือถ้าเจอ Website บริษัท แต่เป็น เวอร์ชันเก่ามากในขณะที่เราบอกทุกคนว่า บริษัทเราคือบริษัทที่ให้ความใส่ใจเรื่องเทคโนโลยี นั่นคือประสบการณ์ที่ดีที่เราให้เค้า ตั้งแต่ก่อนที่เค้าจะเข้ามาสมัครงานกับเราใช่มั้ย
แล้วทำไมองค์กรถึงต้องให้ความสำคัญกับ EX
อย่างที่เปิดหัวข้อมา อย่างแรกถ้าองค์กรบอกว่า เราจะเดินไปข้างหน้าได้ด้วยศักยภาพของคนเป็นสำคัญ ไม่ใช่แค่ศักยภาพของ Process หรือการมีเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ดีกว่าคนอื่น ๆ นี่แหละคือคำตอบแรกว่าทำไมเราถึงต้องใส่ใจใน EX
แล้วยิ่งย้ำไปอีกว่า สิ่งที่เราอยากได้จากคนของเราคือ Productivity เราก็ต้องถามตัวเราเองอีกเหมือนกันว่า องค์กรได้ส่งเสริมประสบการณ์ที่ดีที่มากพอให้พนักงานอยากที่จะ Productivity แค่ไหน ยิ่งเราอยู่ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นตลอดเวลา เทคโนโลยีที่บริษัทใช้อยู่ในตอนนี้ ทำให้พนักงานสัมผัสได้จริงๆ ใช่มั้ยว่าบริษัทได้พยายามสร้างประสบการณ์ที่ดีในการทำงานให้กับพนักงานอยู่
Employee Experience ที่ดีในทุกขั้นตอนของ Employee Journey จะส่งผลต่อ Employee Engagement และ Employer Branding ซึ่งนันแหละครับ ผลลัพธ์ที่ส่งผลต่อ Performance ขององค์กร
แล้วทีนี้ Employee Experience หรือ EX จะเริ่มต้นยังไง QGEN มีอยู่ 3 องค์ประกอบสำคัญที่เราต้องทำความเข้าใจ เพื่อวางแผนและออกแบบ EX ให้เหมาะกับองค์กรและพนักงานของเรา
อย่างแรก Organization Goal เป้าหมายขององค์กรของเราคืออะไร แล้วเป้าหมายเหล่านั้น พึ่งพาคนแค่ไหน เพื่อให้กำหนดได้ชัดเจนว่า ระดับของ EX ที่เราจะไป ไม่น้อยเกินไปหรือไม่มากจนกลายเป็นต้นทุนที่ไม่สร้างผลลัพธ์ให้กับองค์กร
ถัดมาคือการทำความเข้าใจกับ Employee Needs ทั้งความคาดหวังที่จับต้องได้ และ Emotional หรืออารมณ์ร่วมของพนักงาน
และเรื่องสุดท้ายคือ Employee Journey & Key Touchpoint เพื่อที่เราจะออกแบบได้ถูกต้อง ตรงประเด็นและตรงสถานการณ์
Employee Experience หรือ EX อาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายองค์กร แต่ถ้าพิจารณากันให้ดี เราอาจจะลงมือทำไปแล้วโดยปริยาย สิ่งที่เราต้องคิดต่อก็คือ ทำอย่างไรให้ได้มาตรฐาน และยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น เพื่อให้ Employee Experience ที่เราตั้งใจสร้างขึ้นมา ส่งผลต่อไปยัง Employee Engagement และ Employer Branding อย่างเป็นรูปธรรม
#EmployeeExperience
#QGEN
employeeexperience 在 How to Improve Employee Experience - YouTube 的推薦與評價
From the moment someone looks at your job ad, to the moment they leave your company, everything that worker learns, does, sees, ... ... <看更多>