สงสัยจะเล่นแรงไปหน่อย... ดังนั้นจึงขอความเห็นกับกลุ่มคนที่ติดตามพ่อบ้าน Station ที่สิงอยู่ในเพจนี้หน่อยว่า ผมเล่นแรงไปรึเปล่า (รบกวนอ่านให้จบจนบรรทัดสุดท้ายเลยนะครับ แต่อาจจะยาวนิดนึงนะ)
.
.
จากคลิปล่าสุดที่ปล่อยออกไป เรื่องของ "โอตะ VIP" อย่างที่ทราบกันดีว่า คลิปนี้เนื้อหามันแปลกกว่าทุกทีคือ
1. เนื้อหากำกวมไม่ชัดเจน
2. ใจความของเรื่องที่เล่าใกล้เคียงกับ อฟช ที่ประกาศโดยตาจ๊อบ
3. มีความขัดแย้งกับความคิดของคนหมู่มาก
.
.
ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีกว่าผมทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ดังนั้นทุกๆ เทปของพ่อบ้าน Station จะถูกสร้างขึ้นโดยการนำรูปแบบวิธีการสอนเข้ามาใช้ในการลำดับเรื่องราว ซึ่งรูปแบบที่ผมนำมาใช้คือ การเรียนรู้แบบ MIAP มาประยุกใช้ ซึ่งรูปแบบการเรียนรู้นี้ เป็นรูปแบบที่ผมถนัด เพราะผมคลุกคลีกับเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยทำวิจัย ป.โท โดยรูปแบบดังกล่าวจะแบ่งขั้นตอนออกเป็น
.
1. Motivation คือการเล้าความสนใจ
ถ้าสังเกตกันดีๆ ตอนต้นคลิปผมจะบอกเลยว่าเนื้อหาในคลิปนี้มีอะไรบ้าง แต่จะเว้นช่วงไว้ด้วยการแทรกเรื่องอื่นๆ ที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เพื่อสร้างความอยากรู้ให้กับผู้ฟัง
.
2. Information คือการให้ข้อมูล
เป็นการให้ข้อมูลข่าวสารพื้นฐานแก่ผู้ชมคลิปก่อนว่า เรื่องราวแต่เดิมมันเป็นยังไง
.
3. Application คือการแสดงตัวอย่าง
ขั้นตอนนี้แต่เดิมต้องเป็นการแสดงตัวอย่างให้ดู แต่ในบางคลิปจะเป็นการอธิบายว่า สิ่งที่มันเกิดขึ้นจริงๆ มันมีที่มาที่ไปอย่างไร
.
4. Progress คือการประเมินผลหรือสรุปผล
ในช่วงท้ายของคลิปก็จะเป็นการสรุปเรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดนั่นเอง
.
.
ซึ่งทุกๆ ตอนที่ทำออกมาจะใช้รูปแบบนี้ในการลำดับขั้นตอนนำเสนอ ทีนี้ในคลิปล่าสุด "โอตะ VIP" ผมเปลี่ยนรูปแบบเป็นการใช้วิธีการที่เรียกว่า การสืบสอบแบบโต้แย้ง ซึ่งรูปแบบการเรียนลักษณะนี้ จะเป็นการให้ปัญหาให้กับผู้เรียน (ในที่นี้จะขอแทนเป็นคำว่าผู้ชม เพื่อความเข้าใจได้ง่ายขึ้น) เพื่อให้ผู้ชมเผชิญปัญหาหรือตกอยู่ในสถานการ์ที่งุนงงชวนสงสัย จากนั้นผู้ชมจะเกิดความพยายามในการไปหาข้อมูลมาเพื่อโต้แย้งสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งข้อมูลและความคิดเห็นที่อยู่ในคอมเม้นท์นั่นเอง
.
.
และเมื่อมีการนำข้อมูลที่แต่ละคนมั่นใจว่ามันถูกต้องมาแย้งกับปัญหาที่มันเกิดขึ้น จะเกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่หาได้ของแต่ละคน ผู้ชมจะเกิดการเรียนรู้แบบร่วมกัน
.
.
สิ่งที่ผู้ชมจะได้จากเทปนี้คือ ผู้ชมจะมีการแลกเปลี่ยนความข้อมูลที่แต่ละคนมั่นใจว่าข้อมูลที่ตนมีคือข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นการพัฒนาการสืบค้นข้อมูลที่ต้องผ่านการคัดกรองมาก่อนถึงจะเผยแพร่ออกไป เพราะว่าข้อมูลที่จะเอามาแย้งนั้น มีคนหมู่มากรับชมอยู่ และพร้อมที่จะเห็นด้วยกับข้อมูลเหล่านั้น ดังนั้นข้อมูลที่แต่ละคนหามาจึงต้องเป็นข้อมูลที่แต่ละคนมั่นใจว่าถูกต้องจริงๆ
.
.
และสุดท้าย เมื่อข้อมูลที่เอามาโต้แย้งกันจากหลายๆ แหล่ง ถูกคัดกรองกันมาแล้ว ข้อมูลต่างๆ ที่แต่ละคนนำมาโต้แย้งผมในคลิปนั้นจะเป็นข้อมูลที่มีความถูกต้องสูงนั่นเอง
.
.
อีกทั้ง ผลพลอยได้ที่ทางพ่อบ้าน Station ได้รับ ณ ตอนนี้หลังปล่อยคลิปวอนจองกฐินให้ตัวเองไปประมาณ 12 ชั่วโมง
.
1. ผมได้ยอดซัพเพิ่มในวันเดียว 118 ซัพ
2. ยอดเงินที่ผมลั่นวาจาไว้ว่า จะนำไปลงบัตรโหวตให้น้องมิวสิค วันเดียวผมได้มา ณ ตอนนี้ 15.50 USD ซึ่งถ้าย้อนหลังไป 7 วันก่อน ช่องผมมีรายได้เฉลี่ยนวันละ 1.36 USD เท่านั้น
.
.
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้แล้ว ขอความเห็นกับเรื่องนี้จากกลุ่มมิตรรักแฟนคลับพ่อบ้าน Staion หน่อยครับว่าคิดเห็นกันอย่างไร
#ShihaininBNK48 #BNK48 #โอตะVIP
