ฉันเป็นใคร ต้องการอะไรกันแน่?
3 Podcasts ที่ช่วยให้คุณเห็นตัวเองชัดขึ้น
.
หลายครั้งแม้จะคิดมาดีแล้วหรือเลือกทางเดินชีวิตที่แน่นอนแล้ว เราในช่วงวัยต่างๆ ก็ยังมักตกอยู่ในจุดที่ครุ่นคิดว่า.. “เรากำลังทำอะไรอยู่กันแน่” และ “เราพาตัวเองมาอยู่ในจุดนี้เพื่ออะไร”
ก่อนที่จะเครียดหรือซีเรียสกับปัญหานี้ไปมากกว่านี้ วันนี้ IWA อยากให้ทุกคนลองย้อนกลับมาสำเร็จความต้องการของตัวเองกันดูอีกทีค่ะ ว่าวันนี้เราเป็นใครและกำลังต้องการอะไรในชีวิตแบ้าง โดยอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนค้นหาตัวตนของเราได้ดีขึ้น ก็คือ 3 Podcast ของทาง The Standard ที่ IWA จะมาแนะนำกันวันนี้ค่ะ :)
.
การทำความเข้าใจตัวเองเป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกันกับการหมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะการเข้าใจตัวเองและเห็นภาพรวมอย่างชัดเจน จะทำให้เรารู้แนวทางที่ชัดเจนในการตั้งเป้าหมายค่ะ
ดังนั้นหากใครที่รู้สึกเคว้งๆ ไม่รู้ว่าชีวิตกำลังต้องการอะไร IWA อยากให้ทุกคนลองใช้เวลาว่างหา Podcast ดีๆฟังเพื่อเพิ่มความรู้และประสบการณ์ หรือใครที่เป็นสายกิจกรรม จะลองออกไปหากิจกรรมใหม่ๆ รวมถึงเวิร์คช็อปที่น่าสนใจดูก็ได้ค่ะ
__________________________________
Iconic Women Alliance
แหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้หญิงที่อยากประสบความสำเร็จอย่างมีความสุข
.
สามารถเข้าไปอ่านบทความดีๆ แบบนี้ได้ที่
http://www.iconicwomenalliance.com
เว็บไซต์ดีๆของ IWA ที่รวบรวมสาระน่ารู้สำหรับผู้หญิงยุคใหม่
.
#IWAthailand #IWAWomen #SelfDevelopment #WomenEmpowerment #WomenCommunity #Workshop #ผู้หญิง #IWAbySEAC #IWAUpdate #Update #TheStandard #Podcast #Trend #Howto #Tips #Learn
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「womencommunity」的推薦目錄:
womencommunity 在 Fah Sarika Facebook 的最佳貼文
Glitter มีผลกระทบเยอะมากเหมือนกัน บางทีเราก็ลืมนึกถึงจุดนี้ไปเลย
ต่อไปนี้คงต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น
Glitter ความสวยบนความเศร้าของมหาสมุทร
.
หลายคนชื่นชอบความเป็นประกายสวยงามของกลิตเตอร์ หรือ ผงกากเพชรใช่มั้ยคะ เรามักนำกลิตเตอร์ไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและเครื่องอาบน้ำ รวมถึงข้าวของตกแต่งประจำเทศกาลต่างๆ เนื่องจากความแวววาวของมัน
แต่ ณ ตอนนี้ประเด็นความสวยงามของกลิตเตอร์ถูกนำมาถกเถียงอีกครั้งว่า..
เรายังควรชื่นชม หรือ นำกลิตเตอร์มาใช้ในกิจกรรมและอุตสาหกรรมต่างๆ อีกหรือเปล่า ในเมื่อกลิตเตอร์เองก็เป็นสิ่งที่ผลอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ เพราะกลิตเตอร์ที่เราเห็นอยู่นั้น ทำมาจากพลาสติกชิ้นเล็ก หรือที่เรียกกันว่าไมโครพลาสติกค่ะ
.
หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ที่ออกมาแสดงจุดยืนต่อกลิตเตอร์
คือกลุ่ม 38 Degrees ค่ะ เป็นกลุ่มคนที่รณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ระดมรายชื่อเพื่อยื่นต่อรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมในอังกฤษ เพื่อแบนกลิตเตอร์และสารเคลือบเงาเซรามิก
นาย David Innes หนึ่งในกลุ่ม 38 Degreesได้พูดเกี่ยวกับผลเสียของกลิตเตอร์ไว้ว่า.. “ถึงกลิตเตอร์จะดูน่ารัก แต่มันก็คือพลาสติกชนิดนึง และมันจะคงอยู่อีกนานถึงแม้ความแวววาวจะหายไปแล้ว และบ่อยครั้งที่มักจะพบไมโครพลาสติกอยู่ในท้องของปลาและนก”
และนี่ไม่ใช่ความเคลื่อนไหวเดียวสำหรับการรณรงค์เลิกใช้กลิตเตอร์ค่ะ
กระแสเคลื่อนไหวให้คนย้อนกลับมาคิดถึงผลเสียของกลิตเตอร์จริงๆ เริ่มมาตั้งแต่สองปีที่แล้วค่ะ ที่ทางด้านนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมออกมาพูดเกี่ยวกับเม็ดบีดส์ หรือ ไมโครพลาสติกซึ่งซ่อนอยู่ภายในอุปกรณ์อุปโภคบริโภคของมนุษย์
ซึ่งนั่นส่งผลกระทบให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังและร้านค้าหลายแห่งในอังกฤษ
ร่วมกันวางแผนธุรกิจที่จะแบนผลิตภัณฑ์พลาสติก รวมถึงงดการขายผลิตภัณฑ์
หรือ อุปกรณ์ตกแต่งเทศกาลทั้งหลายที่มีส่วนผสมของกลิตเตอร์ให้สำเร็จ ภายในปี 2020
ที่น่าสนใจคือแรงผลักดันการเลิกใช้กลิตเตอร์ให้หมดไปจากสังคม ไม่ได้มาจากผู้ใหญ่เพียงอย่างเดียว แม้กระทั่งสังคมเด็กเล็ก หรือ เด็กวัยรุ่นเอง ก็ตอบสนองต่อการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน
ปีที่ผ่านมามีเทศกาลดนตรีกว่า 61 งานที่จัดในอังกฤษ ได้ออกประกาศแบนห้ามผู้ที่ทากลิตเตอร์เข้าร่วมกิจกรรมภายในงานโดยเด็ดขาด และมีโรงเรียนอนุบาลจำนวนมากที่เลิกใช้อุปกรณ์ที่มีส่วนผสมของกลิตเตอร์ในการทำกิจกรรมต่างๆของเด็กนักเรียน
.
ถึงจะมีทิศทางในแง่บวกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในการเลิกใช้กลิตเตอร์
แต่นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมก็ยังกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้เป็นอย่างมาก
เพราะนับวันปัญหาพลาสติกที่เจือปะปนไปในทะเลนั้นยังไม่มีแนวโน้มจะลดลง
แถมยังทวีผลด้านลบต่อสัตว์น้ำและมหาสมุทรเป็นอย่างมาก
อย่างที่เร็วๆนี้ เราก็ได้เห็นข่าวปลาวาฬที่เสียชีวิตจากการมีขยะพลาสติกภายในกว่า 40 กิโลกรัม ซึ่งขยะพลาสติกในท้องวาฬมีตั้งแต่ชิ้นเล็กไปจนถึงชิ้นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นหลอดพลาสติก ถุงชอปปิ้ง ไปจนถึงถุงบรรจุภัณฑ์ในการใส่ข้าวสารต่างๆ
.
ทางด้านผู้ประกอบการเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาเหล่านี้
แบรนด์ต่างประเทศหลายแบรนด์ที่ลุกขึ้นมานำร่องใช้วัสดุทดแทน
ที่สามารถส่องประกายแวววาวสวยงามได้ ไม่ต่างจากการใช้ไมโครพลาสติกแบบกลิตเตอร์
อย่าง LUSH แบรนด์สบู่โด่งดังที่โดดเด่นด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
ได้ออกประกาศเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วว่าบริษัทจะงดการใช้กลิตเตอร์ในผลิตภัณฑ์ของพวกเขา และเปลี่ยนเป็นใช้แร่ไมกาสังเคราะห์ทดแทน เพื่อให้หลังจากที่แร่ไมกาแตกตัวออกมาจากผลิตภัณฑ์สบู่แล้ว สามารถย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมไว้เบื้องหลัง
หรืออย่าง Marks & Spencer แบรนด์ดังที่มีสินค้าครอบคลุมทั้ง ด้านแฟชั่นและของอุปโภคบริโภคเอง ก็ตื่นตัวในการหันมาใช้กลิตเตอร์ที่ย่อยสลายตามธรรมชาติทดแทนการใช้ไมโครพลาสติก
.
แนวโน้มความเข้มงวดในการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติก และการลดขยะพลาสติกของประเทศอังกฤษนั้น ดูจะไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ อีกไม่นานขยะพลาสติกที่ประเทศอังกฤษก็คงจะลดลงไม่ใช่น้อย
พวกเราเองก็ต้องกลับมามองที่ประเทศไทยเช่นเดียวกัน ดูว่าจะมีวิธีไหนที่พวกเราจะช่วยกันรณรงค์ลดการผลิตขยะพลาสติกที่ไม่จำเป็น และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพิ่มอย่างไรได้บ้าง
จริงๆ แล้ว การเปลี่ยนแปลงอาจเริ่มจากตัวเราก่อนเลยก็ได้นะคะ
ช่วยกันตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ว่าของชิ้นไหนที่มีส่วนผสมของไมโครพลาสติกอยู่บ้าง และเราจะสามารถลดของสิ่งไหน หรือหาอะไรมาทดแทนกันได้หรือเปล่า
ส่วนถ้าใครเป็นผู้ประกอบการเอง ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุทดแทนกลิตเตอร์ หรือ ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้กลิตเตอร์ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติให้มากขึ้นนะคะ แค่นี้ขยะพลาสติกของไทยที่จะไปส่งผลเสียในมหาสมุทรก็จะมีแนวโน้มลดน้อยลงได้เช่นเดียวกันค่ะ!
อ้างอิง
https://bit.ly/2TS42iN
__________________________________
Iconic Women Alliance
แหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้หญิงที่อยากประสบความสำเร็จอย่างมีความสุข
.
สามารถเข้าไปอ่านบทความดีๆ แบบนี้ได้ที่
http://www.iconicwomenalliance.com/
เว็บไซต์ดีๆของ IWA ที่รวบรวมสาระน่ารู้สำหรับผู้หญิงยุคใหม่
.
#IWAthailand #IWAWomen #SelfDevelopment #WomenEmpowerment #WomenCommunity #Workshop #ผู้หญิง #IWAbySEAC #IWALifestyle #Update #IWAUpdate #Howto #Glitter #Change #Enviorment #GoGreen
womencommunity 在 Goodday Kids Facebook 的最佳貼文
บทความนี้ดีมากค่ะ
Barbie ได้ออกตุ๊กตานั่งรถเข็น เพื่อเข้าถึงเด็กในทุกแบบ เพื่อแสดงถึงความหลากหลายที่ไม่ได้มีแค่ สาวผอมขาวหุ่นดีตาฟ้าผมสีทอง 👩🏻🦰
ทำให้เด็กๆรู้สึกว่า ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นแบบไหนก็สามารถมีเพื่อน มีความสุข และสวยในแบบของตัวเอง⭐️
ซึ่งBarbir รุ่นนี้สามารถถอดขาเทียม อุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆได้ด้วยค่ะ💖
Barbie กับ นิยามความงามแบบใหม่!
.
นิยามความงามในปี 2019 ของตุ๊กตาแบรนด์ดังระดับโลก อย่าง Barbie ไม่ใช่เรื่องของความเพอร์เฟกต์ หรือ สมบูรณ์แบบอย่างที่พวกเราในวัยเด็กเคยเห็นกันแล้วค่ะ
ในช่วงมิถุนายนปีที่ผ่านมา แบรนด์ Mattel เจ้าของผลิตภันฑ์ตุ๊กตาชื่อดัง Barbie ตัดสินใจผลักดันและเซ็ตบรรทัดฐานความงามแบบใหม่ที่มีอยู่ภายในตัวของทุกคน
ไม่ว่าจะสมบูรณ์แบบทางร่างกายหรือไม่ก็ตามค่ะ
โดยการออกตุ๊กตา Barbie ที่นั่ง wheelchair และตุ๊กตา Barbie ที่ใส่ขาเทียมสู่ตลาด
แน่นอนว่าตุ๊กตาทุกตัวยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ และสวยเฉิดฉายเหมือนเดิม
ซึ่งตุ๊กตา 2 รูปแบบนี้จะเข้าไปอยู่ในไลน์ของ Mattel’s Barbie Fashionistas ในปีนี้ค่ะ
.
Mattel หวังว่าตุ๊กตารูปแบบใหม่นี้ จะเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับเด็กทุกคน
ที่มีร่างกายที่แตกต่างจากคนอื่น และสอนให้พวกเขารู้จักความงามในรูปแบบของตนเอง
ทางบริษัท Mattel ได้กล่าวเป็นบทสัมภาษณ์กับ CNN ว่า..
“ในฐานะแบรนด์ เราอยากยกระดับความสุขและเพิ่มความมั่นใจให้ทุกคนที่ร่างกายไม่สมบูรณ์
เราตั้งใจเพิ่มตุ๊กตาแบบใหม่นี้เข้าไปใน Showcase ที่เกี่ยวข้องกับความสวยงาม และแฟชั่น
เพราะต้องการให้ทุกคนเห็นมุมมองที่ต่างออกไป เป็นหนึ่งมุมมองใหม่ที่สวยงามไม่ต่างกัน”
โดยบริษัทได้ร่วมมือกับสาวน้อยอายุ 13 ปี ที่เผชิญกับการต้องไร้ขาข้างซ้ายตั้งแต่กำเนิด
Jordan Reeves ซึ่งปัจจุบันเธอเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของผู้พิการ
ทั้งสองฝ่ายช่วยกันออกแบบ ตุ๊กตารูปแบบที่ใส่ขาเทียม
โดยให้สามารถถอดอุปกรณ์ช่วยเหลือออกได้ด้วย เพื่อความสมจริงในการเล่น
นอกจากนั้นนักผลิตตุ๊กตายังทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้าน Wheelchair ของโรงพยาบาลเด็ก UCLA Mattel Children’s Hospital
เพื่อออกแบบให้ Wheelchair ของเด็กๆ นั้นเหมือนจริง และทำงานได้สมจริงที่สุด
ต่อจากนี้บ้านตุ๊กตาของ Barbie เองก็จะมีการพัฒนาให้มีทางลาดสำหรับรถเข็นอีกด้วย
พวกเขาจะเล่นตุ๊กตา โดยไม่แตกต่างจากชีวิตจริงของตัวเองเลยทีเดียว
.
กระแสตอบรับจากสังคม ต่อ การพลิกโฉมหน้าของ Barbie ครั้งนี้ เรียกว่าถล่มทลาย
โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการ หรือ ผู้ไร้สมรรถภาพทางร่างกายที่ออกมาชื่นชมต่อการกระทำครั้งนี้
ซึ่ง Curt Decker ผู้อำนวยการของ the National Disability Rights Network ได้เผยว่า..
“สิ่งนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความแตกต่างของมนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียม แสดงให้ทุกคนที่เผชิญกับความพิการ รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาเป็น ‘ไม่ใช่ความแปลกแยก’ และแน่นอนว่าเด็กๆ หลายคนต้องอยากจะเห็นและเล่นตุ๊กตาแบบนี้แน่นอน”
นี่ยังเป็นปรากฏการณ์แรกๆ ของโลกที่ความพิการ
ถูกสะท้อนออกมาผ่านสินค้า วัฒนธรรม และผ่านของเล่น
.
Barbie ไม่หยุดแค่นี้ พวกเขายังวางแผนที่จะผลิตตุ๊กตาที่มีความละเอียดอ่อนและแตกต่างมากขึ้น ทั้งในเรื่องของใยเส้นผม และรูปร่างมนุษย์อย่างสมจริง
จะไม่มีการเฉพาะความสวยที่ ผิวขาว ตาฟ้า สัดส่วน 32-24-38 อีกต่อไป
ต่อจากนี้ตุ๊กตาบาร์บี้จะมีหลายสีผิว สีตา หลายสัดส่วน เหมือนมนุษย์ปุถุชนบนความจริง
นอกจากนั้นยังจะพัฒนาให้เข้ากับวัฒนธรรม ความเคลื่อนไหวเพื่อสังคมในทุกๆแง่ด้วย
อย่างตอนนี้ทางทีมพัฒนาสินค้ากำลังพิจารณาเรื่องการสร้างของเล่นเซ็ตแต่งงาน
ที่ถูกคิดมาสำหรับการแต่งงานแบบ same-sex ของตุ๊กตา Barbie ด้วยเช่นกัน
.
ของเล่นนอกจากจะให้ความบันเทิงแล้ว ยังเปรียบเสมือนเพื่อนที่ดีที่สุดของเด็กๆเลยนะคะ
เห็นแบบนี้แล้วชื่นใจมากเลยค่ะ ที่ต่อจากนี้เด็กๆ สามารถเรียนรู้คำว่า ‘สวยงาม’
ในอีกหลายรูปแบบและอีกหลายความหมายที่งดงาม
มากไปกว่าแค่ความสมบูรณ์ทางร่างกายค่ะ
มาจับตารอดูกันนะคะ ว่า Barbie รูปแบบใหม่ 2 ตัวนี้จะเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อไหร่ และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ Barbie จะออกอะไรมาทำให้พวกเราและสังคมตื่นเต้นกันอีกบ้าง 🙂
อ้างอิง
https://cnn.it/2EbmXdU
__________________________________
Iconic Women Alliance
แหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้หญิงที่อยากประสบความสำเร็จอย่างมีความสุข
.
สามารถเข้าไปอ่านบทความดีๆ แบบนี้ได้ที่
http://www.iconicwomenalliance.com
เว็บไซต์ดีๆของ IWA ที่รวบรวมสาระน่ารู้สำหรับผู้หญิงยุคใหม่
.
#IWAthailand #IWAWomen #SelfDevelopment#WomenEmpowerment #WomenCommunity #Workshop #ผู้หญิง#IWAbySEAC #IWAUpdate #Update #Events #Change #Barbie #beautystandard #feminist #LGBT #Movement #HumanRights