The Half of It (8/10)
ธีมหลักถือเป็นหมุดหมายใหม่ของการสร้างหนังรักที่ไม่ได้มีกรอบเรื่องเพศมาจำกัดอีกต่อไป แต่สไตล์ที่เล่ามันคลิเช่จำเจเหลือเกิน เพราะถ้าดูแค่ครึ่งแรกเราจะมีแต่ความทรงจำที่ประทับใจ ดูเหมือนถ้าขยับอีกนิดจะทะเยอทะยานในการเล่าประเด็นความรักในหนังวัยรุ่นมาก ๆ แต่พอดูจบแล้วเสียดายศักยภาพของหนังไม่ควรลงเอยแค่ถูกจำเป็น 'อีกหนึ่งหนังรักไฮสคูล' ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ แค่เสียดายว่ามันควรจะกล้าไปไกลกว่านั้น แต่เท่านี้ก็รักพอจะหยิบมาเชียร์แล้ว
-------------------------------
'พอล' (Daniel Diemer) เป็นหนุ่มขี้อายพูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ เขาตกหลุมรัก 'แอสเธอร์' (Alexxis Lemire) เลยอยากจีบด้วยวิธีคลาสสิกคือเขียนจดหมายบอกรัก แต่แหม่พูดไม่เก่งแล้วยังเขียนไม่เก่งอีกต่างหาก จึงต้องจ้าง 'เอลลี่' (Leah Lewis) เพื่อนร่วมชั้นสายวรรณกรรมมาช่วยเขียนจดหมายแทนให้ ซึ่งก็นะ เขาดันไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเอลลี่ก็แอบเหล่ความฉลาดของแอสเธอร์อยู่เหมือนกัน
.
อยากรีวิวแบบแบ่ง part 1-2 มากเลย ฮ่าๆ ชอบครึ่งแรกของหนังที่ดูชวนคิดมากกว่าครึ่งหลังที่ดูจำเจไปหน่อย ถ้าดูพล็อตเผิน ๆ มันก็แทบจะเป็นไอเดียปกติของหนังรอมคอมด้วยซ้ำ ประมาณว่าแม่สื่อตกหลุมรักเสียเอง แต่ในเคสเหล่านั้นมันเป็นหนัง straight (ชายรักหญิง หญิงรักชาย) ลูกเล่นของหนังจึงตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน แต่ในเคสของ The Half of It มันเปิดเผยจากพล็อตว่าจะเป็นหนังเลสเบี้ยน คือเอลลี่ตกหลุมรักแอสเธอร์ แต่ไป ๆ มา ๆ เรายิ่งรู้สึกว่าหนังออกจะเควียร์ (queer) ขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเอลลี่สามารถตกหลุมรักพอลจากความใกล้ชิดได้เหมือนกัน
.
ลูกเล่นของหนังจึงซับซ้อนขึ้นมาตั้งคำถามถึงอีกครึ่งที่ขาดหายไป เราต้องการคนรักที่ฉลาดเท่าทันคุยกันลึก ๆ เป็น deep conversation แบบแอสเธอร์ หรือว่าจะตกหลุมรักคนช่างฝันที่อาจจะคุยเรื่องลึก ๆ ไม่ได้ แต่ต่างฝ่ายต่างช่วยเกื้อหนุนสนับสนุนกัน (เอลลี่ช่วยพอลสานฝันทำอาหาร/พอลช่วยผลักดันเอลลี่ให้กล้าแสดงตัวตนออกมา) และสามารถใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างสบายใจ สำหรับเราแล้วมันไม่มีคำตอบตายตัว และหนังก็ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน ซึ่งยิ่งช่วยให้ความเควียร์ของหนังเด่นชัดมากขึ้น
.
อีกส่วนที่เราไม่ค่อยอินเท่าไรเวลามาเล่าหนังวัยรุ่นสมัยนี้คือการหยิบศาสนามาพูดแง่มุมบาปของการรักเพศเดียวกัน ถ้าหนังเป็นคนแก่เคร่งศาสนาหรือวัยรุ่นย้อนไปสัก 30-40 ปี อาจจะดูน่าเชื่อกว่าวัยรุ่นสมัยนี้ยังเคร่งเรื่องนี้อยู่ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าหนังเลือกเซ็ตติ้งเป็นเมืองเล็กที่อิทธิพลของโบสถ์ครอบงำคนในเมือง (จึงไม่แปลกที่เอลลี่ ที่อพยพมาจากจีน ไม่ได้เติบในเมืองนี้จะหลุดพ้นจากความเชื่อเรื่องพระเจ้า) การจำกัดความรักไว้สำหรับเพศตรงข้ามเท่านั้นจึงทำให้เราเห็นความอึดอัดของแอสเธอร์ที่ไม่กล้า coming out หรือไม่กล้าคิดจริงจังเรื่องรสนิยมทางเพศของตัวเอง เป็นอีกส่วนของหนังที่เห็นความเดียวดายของแอสเธอร์
.
หลายโมเม้นต์ในหนังถือว่าดีสำหรับหนังรักไฮสคูลเลย อาจจะมีฉากเฉิ่ม ๆ ในโบสถ์หรือความจำเจของฉากแข่งขันแสดงความสามารถพิเศษ แต่หลายฉากที่ดี ๆ สามารถทดแทนได้สบาย เช่นฉากสนทนาระหว่างตีปิงปอง(กีฬาเอเชีย), การข้ามมาทำอาหารเอเชียและสนใจเครื่องเทศ, ฉากมองกระจกระหว่างรอเข้าห้องน้ำ ซึ่งก็โมเม้นต์แบบหนังผู้หญิง, หรือว่าฉากพรรณนาถึงความรักก็เป็นอีกโมเม้นต์ที่เราชอบมากไม่แพ้ฉากนั่งดูหนังเลยทีเดียว
.
.
.
.
ดูแบบพากย์ไทยหรือซับไทยได้เลยใน Netflix: https://www.netflix.com/watch/81005150
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์จากทุกค่ายได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb
#หนังโปรดของข้าพเจ้า
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過3萬的網紅羅比頻道,也在其Youtube影片中提到,《面子》導演伍思薇第二部長片《青春未知數》在NETFLIX上線 目前我今年最愛的青春愛情電影,很多細節橋段都讓我非常喜歡 羅比頻道訂閱者募集中👉 http://goo.gl/4YzOjF 我的IG帳號👉 robbie_ins 歡迎留言幫助羅比頻道變得更好 #青春未知數 #真心半解 #校...
「daniel diemer」的推薦目錄:
daniel diemer 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳貼文
The Half of It (2020) สามารถดูได้ใน Netflix
• เป็นหนังที่แอบเสียดายนิดหน่อย ที่เลือกจะเล่าไอเดียใหม่ด้วยสไตล์ดั้งเดิมแบบไม่ออกจากพื้นที่ปลอดภัย ด้วยธีมหลักถือเป็นหมุดหมายใหม่ของการสร้างหนังรักที่ไม่ได้มีกรอบเรื่องเพศมาจำกัดอีกต่อไป แต่สไตล์ที่เล่ามันคลิเช่จำเจเหลือเกิน
• เพราะถ้าดูแค่ครึ่งแรกเราจะมีแต่ความทรงจำที่ประทับใจ ดูเหมือนถ้าขยับอีกนิดจะทะเยอทะยานในการเล่าประเด็นความรักในหนังวัยรุ่นมาก ๆ แต่พอดูจบแล้วเสียดายศักยภาพของหนังไม่ควรลงเอยแค่ถูกจำเป็น 'อีกหนึ่งหนังรักไฮสคูล' ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ แค่เสียดายว่ามันควรจะกล้าไปไกลกว่านั้น
• เวลาได้ยินคนเปรียบเปรยรักแท้เป็นการหาอีกส่วนที่ขาดหายไปมาเติมเต็ม หนังเรื่องนี้ทำให้ตั้งคำถามตลอดเวลาว่าส่วนไหนกันแน่คือส่วนเติมเต็มของเรา ซึ่งชอบจุดนี้มาก
• ถ้าจะมองเป็นหนังรักสามเส้าก็คงไม่ผิดอะไรนัก เป็นรักสามเศร้าจริง ๆ เพราะดูจบยังนึกไม่ออกว่าส่วนไหนเติมเต็มตัวละครกันแน่
• ลายเซ็นความเป็นรอมคอมหลายอย่างถูกนำมาใช้จนหนังมันคลิเช่เหลือเกิน แต่บางมุกที่หนังหยิบมาเล่น ขนาดตัวละครตำหนิไปแล้วว่าเฉิ่มแต่พอเอามาใช้จริงมันก็โรแมนติกชวนฝันอยู่ดี ลึก ๆ แล้วมนุษย์เราก็อยากได้อะไรแบบนี้เป็นความทรงจำสักครั้งแหละมั้ง
• เซ็ตติ้งเมืองเล็กถูกนำมาใช้ในแง่การยึดติดได้ดี คนส่วนใหญ่ไม่กล้าออกไปไกลเพราะกังวลต่าง ๆ นานา ซึ่งล้วนเป็นความกังวลจากการยึดติดกับความสัมพันธ์ในเมือง
• ชอบไอเดียนึงของหนังที่ว่าตัวละครวัยรุ่นไม่มีประสบการณ์ด้านความรัก รู้จักความรักแค่จากนิยายโรแมนติก (ชอบการอ้างอิง The Remains of the Day หนังที่เราชอบมาก) ล้วนต้องมาค้นหาความรักในโลกความเป็นจริง
• เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าคุณเป็นผู้หญิงฉลาด คุณไม่จำเป็นต้องแกล้งโง่เพื่อให้ใครสักคนมาตกหลุมรักสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของคุณ
• และแน่นอนว่า we don't have to talk about serious things. ครับ
• ก็ว่าทำไมพยายามพูดถึงโบสถ์ ศาสนา และพระเจ้า ลืมไปว่าหนังจะเล่นประเด็น LGBTQ ด้วย
• แคสต์ 3 นักแสดงนำคือดีงาม แม้แต่ละคนจะอายุ 23-24 ปี แต่ต้องมาเล่นเป็นนักเรียนม.ปลายก็เถอะ ฮ่าๆๆ
• นี่สิครับการเผยแพร่วัฒนธรรมจากฝั่งเอเชีย เอายาคูลท์ไปป้ายยาฝรั่งเยอะ ๆ ฮะ
-------------------------------------
'พอล' (Daniel Diemer) เป็นหนุ่มขี้อายพูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ เขาตกหลุมรัก 'แอสเธอร์' (Alexxis Lemire) เลยอยากจีบด้วยวิธีคลาสสิกคือเขียนจดหมายบอกรัก แต่แหม่พูดไม่เก่งแล้วยังเขียนไม่เก่งอีกต่างหาก จึงต้องจ้าง 'เอลลี่' (Leah Lewis) เพื่อนร่วมชั้นสายวรรณกรรมมาช่วยเขียนจดหมายแทนให้ ซึ่งก็นะ เขาดันไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเอลลี่ก็แอบเหล่ความฉลาดของแอสเธอร์อยู่เหมือนกัน
.
อยากรีวิวแบบแบ่ง part 1-2 มากเลย ฮ่าๆ ชอบครึ่งแรกของหนังที่ดูชวนคิดมากกว่าครึ่งหลังที่ดูจำเจไปหน่อย ถ้าดูพล็อตเผิน ๆ มันก็แทบจะเป็นไอเดียปกติของหนังรอมคอมด้วยซ้ำ ประมาณว่าแม่สื่อตกหลุมรักเสียเอง แต่ในเคสเหล่านั้นมันเป็นหนัง straight (ชายรักหญิง หญิงรักชาย) ลูกเล่นของหนังจึงตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน แต่ในเคสของ The Half of It มันเปิดเผยจากพล็อตว่าจะเป็นหนังเลสเบี้ยน คือเอลลี่ตกหลุมรักแอสเธอร์ แต่ไป ๆ มา ๆ เรายิ่งรู้สึกว่าหนังออกจะเควียร์ (queer) ขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเอลลี่สามารถตกหลุมรักพอลจากความใกล้ชิดได้เหมือนกัน
.
ลูกเล่นของหนังจึงซับซ้อนขึ้นมาตั้งคำถามถึงอีกครึ่งที่ขาดหายไป เราต้องการคนรักที่ฉลาดเท่าทันคุยกันลึก ๆ เป็น deep conversation แบบแอสเธอร์ หรือว่าจะตกหลุมรักคนช่างฝันที่อาจจะคุยเรื่องลึก ๆ ไม่ได้ แต่ต่างฝ่ายต่างช่วยเกื้อหนุนสนับสนุนกัน (เอลลี่ช่วยพอลสานฝันทำอาหาร/พอลช่วยผลักดันเอลลี่ให้กล้าแสดงตัวตนออกมา) และสามารถใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างสบายใจ สำหรับเราแล้วมันไม่มีคำตอบตายตัว และหนังก็ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน ซึ่งยิ่งช่วยให้ความเควียร์ของหนังเด่นชัดมากขึ้น
.
อีกส่วนที่เราไม่ค่อยอินเท่าไรเวลามาเล่าหนังวัยรุ่นสมัยนี้คือการหยิบศาสนามาพูดแง่มุมบาปของการรักเพศเดียวกัน ถ้าหนังเป็นคนแก่เคร่งศาสนาหรือวัยรุ่นย้อนไปสัก 30-40 ปี อาจจะดูน่าเชื่อกว่าวัยรุ่นสมัยนี้ยังเคร่งเรื่องนี้อยู่ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าหนังเลือกเซ็ตติ้งเป็นเมืองเล็กที่อิทธิพลของโบสถ์ครอบงำคนในเมือง (จึงไม่แปลกที่เอลลี่ ที่อพยพมาจากจีน ไม่ได้เติบในเมืองนี้จะหลุดพ้นจากความเชื่อเรื่องพระเจ้า) การจำกัดความรักไว้สำหรับเพศตรงข้ามเท่านั้นจึงทำให้เราเห็นความอึดอัดของแอสเธอร์ที่ไม่กล้า coming out หรือไม่กล้าคิดจริงจังเรื่องรสนิยมทางเพศของตัวเอง เป็นอีกส่วนของหนังที่เห็นความเดียวดายของแอสเธอร์
.
หลายโมเม้นต์ในหนังถือว่าดีสำหรับหนังรักไฮสคูลเลย อาจจะมีฉากเฉิ่ม ๆ ในโบสถ์หรือความจำเจของฉากแข่งขันแสดงความสามารถพิเศษ แต่หลายฉากที่ดี ๆ สามารถทดแทนได้สบาย เช่นฉากสนทนาระหว่างตีปิงปอง(กีฬาเอเชีย), การข้ามมาทำอาหารเอเชียและสนใจเครื่องเทศ, ฉากมองกระจกระหว่างรอเข้าห้องน้ำ ซึ่งก็โมเม้นต์แบบหนังผู้หญิง, หรือว่าฉากพรรณนาถึงความรักก็เป็นอีกโมเม้นต์ที่เราชอบมากไม่แพ้ฉากนั่งดูหนังเลยทีเดียว
.
เอาเป็นว่าใครกำลังหาหนังรักไฮสคูลดูก็แนะนำมาก ๆ อาจจะเรียกว่าเป็นหมุดหมายใหม่ของการสร้างหนังรักที่ไม่ได้มีกรอบเรื่องเพศมาจำกัดอีกต่อไป
Director: Alice Wu
screenplay: Alice Wu
Genre: comedy, romance
8/10
#หนังโปรดของข้าพเจ้า
daniel diemer 在 羅比頻道 Youtube 的精選貼文
《面子》導演伍思薇第二部長片《青春未知數》在NETFLIX上線
目前我今年最愛的青春愛情電影,很多細節橋段都讓我非常喜歡
羅比頻道訂閱者募集中👉 http://goo.gl/4YzOjF
我的IG帳號👉 robbie_ins
歡迎留言幫助羅比頻道變得更好
#青春未知數 #真心半解 #校園情聖 #一半一半 #羅比無雷影評
近期影片:
美好拾光公司 影評 La Belle Epoque【羅比】擁抱美好時光/港譯
https://youtu.be/wRoYzL809lc
誰是被害者 無雷劇評 The Victims' Game【羅比】Netflix 台灣排行榜第一名
https://youtu.be/_Ut-D1k5vuA
金都 影評 My Prince Edward【羅比】港版俗女養成記
https://youtu.be/ER6BVNe-rU0
導演:伍思薇
演員:莉亞李維斯、丹尼爾迪默、艾莉西勒米爾、鄒兆龍 Collin Chou
daniel diemer 在 感性的蝎子 Youtube 的最佳貼文
愛混亂也復雜,還要足夠膽大
存在那麽多的可能性,不去魯莽沖撞一回
哪裏會知道自己的終點在哪裏
並不是我有多勇敢畫出那一筆
而是因為這本來就是我的一部分
?Movie Title: The Half of It
?電影名字: 真心半解
?配樂?
Title: Perilune by AERØHEAD
Genre and Mood: Ambient + Calm
Song: "Scott Buckley - Growing Up [Piano]" is under a Creative Commons license (CC-BY)
Music promoted by BreakingCopyright: https://youtu.be/kQSoW1VnkH4
Track Name: Wedding Film
Music by AShamaluevMusic
daniel diemer 在 daniel diemer – Recherche Google - Pinterest 的推薦與評價
Model Pakaian Wanita · Women's Jewelry And Accessories · Women's Headwear · Topi. daniel diemer – Recherche Google Dark Side, The Darkest, Behind The Scenes ... ... <看更多>
daniel diemer 在 Daniel Diemer - Facebook 的推薦與評價
Look forward to the new film opportunities you enter into. 1. · 1y · Daniel Diemer updated their profile picture. · August 5, 2020 ·. ... <看更多>