ความหมายของชื่อสายพันธุ์มนุษย์นั้น แปลว่า "มนุษย์ที่ฉลาด" หรือที่รู้จักกันดีว่า โฮโมเซเปียนส์ (Homo sapiens) (homo = มนุษย์ sapiens = ฉลาด)
ระยะเวลา 2564 ปีของมนุษย์ตั้งแต่ที่เริ่มมีการนับพุทธศักราช ได้กำเนิดมนุษย์ที่มีความฉลาด และมีความสามารถมากมาย บ้างก็เป็นนักปราชญ์ บ้างก็เป็นจิตกร บ้างก็เป็นนักธุกิจ ภูมิปัญญามากมายต่างถูกส่งต่อจากอดีต มาถึงยังพวกเราคนในยุคปัจจุบัน
1. ขงจื๊อ นักคิดและนักปรัชญา ( 8 กันยายน 551 – 479 ปีก่อน ค.ศ )
คำสอนของขงจื๊อนั้น ฝังรากอิทธิพลลึกลงไปในสังคมเอเชียตะวันออกมาเป็นเวลาถึง 20 ศตวรรษ หลักปรัชญาของขงจื๊อนั้นเน้นเกี่ยวกับศีลธรรมส่วนตัว และศีลธรรมในการปกครอง ความถูกต้องเหมาะสมของความสัมพันธ์ในสังคม และ ความยุติธรรมและบริสุทธิ์ใจ นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้มีคนให้ความเคารพศรัทธา และยึดถือแนวทางคำสอนกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ได้สอนหลักในการคบคนไว้ ดังนี้ "การคบคน ต้องเลือกคบคนที่มีคุณธรรมสูงกว่าหรือเท่า ๆ กับเรา" หากเราคบหาสมาคมกับคนที่ขาดคุณธรรม จะทำให้จิตใจของเรา ตกต่ำตามไปด้วย ดังนั้น ถ้าอยากมีชีวิตที่ดี มีความสุข ประสบความสำเร็จ จะต้องเลือกคบคนดีมีคุณธรรม
หลักการของจื๊อได้แก่
#ศาสตร์สี่แขนง
รากฐานที่ขงจื๊อวางไว้ ได้แก่ วัฒนธรรม ความประพฤติ ความจงรักภักดี และ ความซื่อสัตย์ โดยวัฒนธรรมเน้นถึงการเคารพบรรพบุรุษและพิธีการโบราณ ยึดถือผู้อาวุโสเป็นหลัก แต่ไม่ยึดติดหรืออายที่จะหาความรู้จากคนที่ต่ำชั้นหรืออายุน้อยกว่า
#แปดหลักการพื้นฐานในการเรียนรู้
ได้แก่ สำรวจตรวจสอบ ขยายพรมแดนความรู้ จริงใจ แก้ไขดัดแปลงตน บ่มเพาะความรู้ ประพฤติตามกฎบ้านเมือง ประเทศต้องได้รับการดูแล นำความสงบสุขมาสู่โลก
#ลำดับการเรียนรู้
ได้แก่ พิธีกรรม ดนตรี ยิงธนู ขี่ม้า ประวัติศาสตร์ และ คณิตศาสตร์
#คุณธรรมทั้งสาม
ได้แก่ ภูมิปัญญา เมตตากรุณา และความกล้าหาญ
#สี่ขั้นตอนหลักการสอน
ตั้งจิตใจไว้บนมรรควิธี ตั้งตนในคุณธรรม อาศัยหลักเมตตาเกื้อกูล สร้างสรรค์ศิลปะใหม่
#สี่ลำดับการสอน
ได้แก่ คุณธรรมและความประพฤติ ภาษาและการพูดจา รัฐบาลและกิจการบ้านเมือง และสุดท้ายคือวรรณคดี
2. ลีโอนาโด ดาวินชี จิตรกร นักปั้น นักพฤกษศาสตร์ ( 15 เมษายน ค.ศ. 1452 - 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1519 )
คงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก ลีโอนาโด ดาวินชี เพราะความสามารถอย่างล้นเหลือ จนเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลก ชายผู้ที่เป็น จิตรกร นักปั้น นักพฤกษศาสตร์ และบิดาแห่งศิลปะทางด้านกายวิภาคศาสตร์ (Gross Anatomy) สิ่งที่ดาวินชี่ได้ถ่ายทอดไว้ให้แก่ชาวโลกมีมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ปรัชญาในการดำรงชีวิตที่เป็นอมตะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทุกเวลา ทุกสถานที่
หลักปรัชญาที่สำคัญจากหนังสือเรื่อง How to Think Like Leonardo da Vinci แต่งโดย Michael Gelb มีใจความสำคัญ ดังนี้
"คุณมองแต่คุณไม่เห็น (You look but you don't see)
คุณฟังแต่คุณไม่ได้ยิน (You listen but you don't hear)
คุณสัมผัสแต่คุณไม่รู้สึก (You touch but you don't feel)
คุณพูดแต่ไม่ได้คิดก่อนที่จะพูด (You speak but you don't think)"
มนุษย์มักทำอะไรโดยขาดสติ ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ต่ำลง การมีสติตลอดเวลา ทำให้ความสามารถในการเรียนรู้รวดเร็ว ว่องไว และเฉียบคม สามารถรู้ว่าตนเองกำลังทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และเพื่ออะไร สามารถเลือกเส้นทางชีวิตของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีชีวิตเป็นของตนเอง
3. เดล คาร์เนกี นักเขียนและผู้พัฒนาหลักสูตรการพัฒนาตนเอง (24 พฤศจิกายน 1888 – 1 พฤศจิกายน 1955)
อดีตเด็กรับจ้างตัดหญ้าด้วยค่าแรงชั่วโมงละ 5 เซนต์ สู่นักพูดค่าตัวนาทีละ 1 ดอลลาห์ และนักเขียนผู้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของหนังสือที่ขายดีที่สุดตลอดกาลอย่าง How to Win Friends and Influence People และ How to Stop Worrying and Start Living
หากคุณอยากที่จะผูกมิตรกับใครสักคน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามลองปฏิบัติตาม กฏทั้ง 6 ข้อนี้
กฎข้อที่ 1 จงเอาใจใส่อย่างแท้จริงต่อผู้อื่น
การผูกมิตรกับผู้อื่นจะได้ผลเรียบร้อยภายในสองเดือนด้วยการเอาใจใส่อย่างแท้จริงต่อเค้าผู้นั้น มันดีกว่าที่จะให้คนอื่นมาพยามใส่ใจเรา เพราะธรรมชาติของมนุษย์ชอบที่จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ เริ่มจากใส่ใจที่จะจำชื่อใครก็ตามที่อยากรู้จักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยของเค้าไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ชอบ สีโปรด หรือแม้แต่ความเป็นอยู่ของคนในครอบครัวของเค้าคนนั้น
กฎข้อที่ 2 ยิ้ม
รอยยิ้มเป็นสิ่งมีค่าที่เราให้คนอื่นได้ฟรีๆ หมั่นยิ้มทักทายให้ทุกคนที่ท่านอยากผูกมิตรด้วย รอยยิ้มเปรียบเสมือนเป็นประตูแห่งความสัมพันธ์ เมื่อรอยยิ้มปรากฎมาบนรอยหน้าของคนใดคนนึง เรื่องต่อๆ ไปก็จะง่ายเอง
กฎข้อที่ 3 จงจำไว้ว่าชื่อของบุคคลใดก็ตามสำหรับบุคคลนั้นเป็นสำเนียงหวานที่สุดและสำคัญที่สุดในภาษามนุษย์
หมั่นทักทายผู้อื่นด้วยชื่อของเค้า จดจำชื่อของคนที่ท่านปราถนาจะผูกมิตรให้แม่น เอ่ยชื่อของเค้าอย่างชัดถ้อยชัดคำเมื่อท่านต้องการสรรเสริญถึงความดีความชอบใดๆ ที่เค้าทำ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เพราะคนเราให้ความสำคัญกับชื่อตัวเองอย่างที่สุด
กฎข้อที่ 4 จงเป็นนักฟังที่ดี
จงสนับสนุนให้อีกฝ่ายหนึ่งคุยถึงเรื่องของเขา พูดถึงตัวเองให้น้อยฟังคนอื่นพูดให้เยอะ ทุกคนล้วนอยากเป็นคนสำคัญ อยากถูกเอาใจใส่ การรับฟังเป็นเรื่องง่ายๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้ หากคุณทำได้คุณจะเป็นคู่สนทนาคนโปรดของใครหลายๆ คน
กฎข้อที่ 5 สนทนาในเรื่องที่อีกฝ่ายสนใจ
ศึกษาดูว่าคนที่คุณอยากผูกมิตรชอบอะไรเป็นพิเศษ คุณสามารถหยิบมาเป็นประเด็นในการสนทนาได้เสมอ หากคุณทำการบ้านมาดีคุณจะคุยกับเค้าคนนั้นได้อย่างลื่นไหล
กฎข้อที่ 6 จงทำให้ผู้อื่นรู้สึกสำคัญ และจงทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เราทุกคนต่างมีข้อดีในแบบของตัวเอง ไม่ว่าใครก็ต้องมีเรื่องที่เก่งกว่าคนอื่นสักเรื่องสองเรื่อง ในขณะเดียวกันผู้อื่นก็มีเรื่องที่เราเทียบไม่ได้เลยเช่นกัน หาเรื่องนั้นให้เจอและเอ่ยปากชมเค้าผู้นั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ
4. นโปเลียน ฮิลส์ เนักเขียนแนวพัฒนาตัวเอง ( 26 ตุลาคม 1883 – 8 พฤศจิกายน 1970 )
ปี 1928 นโปเลียน ฮิลล์ ได้เผยแพร่ผลงานของเขา กฎแห่งความสำเร็จ (The Law of Success) ได้แสดงถึง 45 รายชื่อที่เขาศึกษา “ชีวิตส่วนใหญ่ของบุคคลเหล่านี้ในระยะใกล้ ด้วยตัวเอง” เช่นเดียวกับบุคคลที่หนังสือได้อุทิศไว้ แอนดรูว์ คาร์เนกี้, เฮนรี่ ฟอร์ด และ เอ็ดวิน ซี บานส์ (ผู้ร่วมงานของ โทมัส เอดิสัน) คาร์เนกี้ได้ให้จดหมายแนะนำฮิลล์แก่ฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้แนะนำให้ฮิลล์รู้จักกับ อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์, เอลเมอร์ อาร์ เกตส์, โทมัส เอดิสัน และ ลูเธอร์ เบอร์แบงก์
"ท่านทำได้ ถ้าท่านคิดว่าท่านทำได้"
การเชื่อมั่นในตนเองไม่ใช่การหลอกตัวเอง แต่เป็นการตั้งหลักในจิตใจว่า เราจะต้องทำสิ่งเหล่านั้นให้จงได้ เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนพอที่จะเป็นไปได้ และท้าทายความสามารถในระดับหนึ่งรวมกับขั้นตอนและกลยุทธต่าง ๆ ที่จะต้องทำและแผนสำรอง เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ "ความเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำได้"
"ว่าวจะลอยสูงได้ต้องมีลมมาปะทะ"
ผู้ที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการ ต้องรับได้ในทุกสถานการณ์ และเมื่อเจอปัญหาต้องนิ่งสงบใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหาอย่างสุดความสามารถ
5. แจ็ค เวลช์ ผู้จัดการแห่งศตวรรษที่ 21 ( 19 พฤศจิกายน 2478 - 1 มีนาคม 2563 )
แจ็ค เวลซ์ คือ หนึ่งใน CEO ที่ประสบความสำเร็จจนมีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก พูดได้ว่า ไม่มีหนังสือที่เกี่ยวกับ CEO เล่มไหนในโลกที่ไม่อ้างถึงแนวคิดและวิธีการบริหารจัดการของ แจ็ค เวลซ์ เขาจึงเป็น“ต้นแบบ”ที่ผู้บริหารระดับสูงในองค์กรชั้นนำทั่วโลกต่างยึดถือเป็นแบบอย่าง
แจ็ค เวลส์ คืออดีต CEO ของบริษัท General Electric หรือ GE ที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก สุดยอดแนวคิดของ Jack Welch นำมาจากหนังสือเรื่อง Control the Destiny or Someone Else Will คือการรู้จักกำหนดชะตาชีวิตของตนเองก่อนที่คนอื่นจะเข้ามาบงการชีวิตคุณ
"Live with the present reality as it is, not the kind of reality that used to be in the past or the reality that you want it to be"
"จงอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบันที่คุณกำลังประสบอยู่ ไม่ใช่ความเป็นจริงที่มันเคยเป็น หรือความเป็นจริงที่คุณอยากให้มันเป็น"
จงอยู่กับปัจจุบัน มนุษย์มักยึดติดกับความสุข ความสำเร็จในอดีต และคิดว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้นดังเดิมตลอดไป แต่เมื่อปัจจุบันไม่เป็นอย่างที่หวังก็เศร้าเสียใจ หรือติดกับความทุกข์ในอดีตจนไม่กล้าที่จะทำสิ่งใดต่อไปในอนาคต ชีวิตก็จมปรักอยู่กับที่ การดำเนินชีวิตเพื่อไปสู่ความสำเร็จ คือการอยู่กับปัจจุบันทิ้งอดีต และทำวันนี้ให้ดีที่สุด
6. สตีฟ จ็อบส์ นักธุรกิจและนักประดิษฐ์ (24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955 - 5 ตุลาคม ค.ศ. 2011)
ชายผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแห่งทศวรรษ 21 อัจฉริยะผู้พลิกโลกแห่งวงการไอที แม้ว่าในวันนี้เขาจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาสร้างเอาไว้ได้เปลี่ยนแปลงโลกของไอทีไปตลอดกาล และตลอดระยะเวลาของการมีชีวิตอยู่ สตีฟ จ็อบส์ ก็ได้ทิ้งบทเรียนดีๆไว้มากมาย
8 บทเรียนที่ สตีฟ จ๊อปส์ ได้บอกคนทั้งโลกผ่านการทำงานของเขาทั้งชีวิตได้แก่
1. อย่าไปฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
ไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์ หรือพวกกูรูทั้งหลาย ความเห็นของพวกเขาเป็นร้อยก็ช่วยคุณเป็นผู้ประกอบการไม่ได้หรอก มันก้เป็นเพียงแค่ “ความเห็น” เท่านั้น
“ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการตัวจริง หาทางเอาเองสิ อย่ามัวแต่พึ่งคนอื่น”
2. ลูกค้าบอกไม่ได้หรอกว่าเขาต้องการอะไร
สตีฟ จ็อฟส์บอกเสมอว่า “หลายๆครั้ง คนก็บอกไม่ได้ว่าเขาต้องการอะไรจนกว่าคุณเอาสิ่งที่พวกเขาอยากได้ไปให้เขาเห็น” จงหาปัญหาของผู้คนให้เจอแล้วแก้ปัญหาให้เขาก่อนที่คนอื่นจะทำ
3. ดีไซน์เป็นเรื่องจำเป็น
"ในโลกที่คนพูดแต่เรื่องราคา การออกแบบก็เป็นเรื่องสำคัญ สำหรับหลายๆคนแล้ว ดีไซน์เป็นสินค้าอย่างหนึ่งด้วย"
4. จงทำให้ดีขึ้น 10 เท่า ไม่ใช่ 10 %
นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นถ้าผู้ประกอบการทำสินค้าและบริการให้ดีขึ้น 10 เท่า ไม่ใช่เพียงแค่ 10%
5. ความเป็นเลิศ
ผู้คนตัดสินคุณจากการกระทำ ดังนั้นจงมุ่งเป้าหมายไปที่ผลลัพธ์ จงเป็นมาตราฐานในการวัดคุณภาพ เพราะคนบางคนไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่ต้องการความเป็นเลิศ
6. อย่ากลัวการแข่งขัน
ผมไม่คิดว่า Apple เป็นเจ้าของผม ผมคิดว่าผมเป็นเจ้านายตัวเอง และการที่ผมจะไม่สามารถทำอาชีพที่ถนัดได้อีกในชีวิตนี้ผมเห็นว่าเป็นเรื่องประหลาดพิลึก เราไม่ได้นำเทคโนโลยีหรือความคิดที่เป็นของ Apple โดยเฉพาะใดๆไปจากที่นั่น ไม่มีอะไรที่ระบุว่า Apple ไม่สามารถแข่งขันกับเราถ้าพวกเขาคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นความที่วิเศษ มันยากนะที่จะคิดว่าบริษัทที่มีมูลค่า 2,000 ล้าน และพนักงานกว่า 4,300 คน จะไม่สามารถแข่งขันกับคนนุ่งกางเกงยีนส์แค่หกคน ( หลังจากที่ สตีฟ จ็อบส์ โดนไล่ออก เขาและอดีตพนักงาน Apple ทั้งหกคนต่อมาได้ก่อตั้งบริษัท NEXT )
7. ปฏิเสธเพื่อเป้าหมาย
คนมักคิดว่าการมุ่งเป้า หมายถึง การตอบรับสิ่งที่คุณต้องมุ่งไปหา แต่นั่นไม่ใช่ความหมายของมันเลย มันหมายถึงการ "ปฏิเสธ" ความติดดีๆ อื่นๆ นับร้อยต่างหาก คุณต้องเลือกอย่างระมัดระวัง จรีงๆแล้วผมภูมิใจที่ไม่ได้ทำพอๆกับสิ่งที่ได้ทำ นวัตกรรมนั้นคือ "การปฏิเสธ" อะไรเป็นพันๆอย่าง
8. คิดอย่างผู้เริ่มต้น
ความหนักอึ้งของการประสบความสำเร็จถูกแทนที่ด้วยความเบาหวิวของการเป็นผู้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ความรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในทุกอย่าง มันทำให้ผมมีอิสระที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาที่สร้างสรรค์ที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過6萬的網紅chopluem,也在其Youtube影片中提到,สวัสดีค้า วันนี้มากับคลิป Reaction ครั้งแรกของช่องปลื้มเลย บอกเลยว่าตื่นเต้นมากกกกกถึงมากที่สุด คือเรียกได้ว่าเฝ้ารอคอยกับการcomeback มานานมาก และในคล...
how you like that แปลว่า 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
เรื่อง "เลขอารบิก คิดจากจำนวนมุม" กลับมาใช้กันใหม่อีกแล้วนะครับ .... เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ มโนกันไปเองมากกว่า
"ตัวเลขอารบิก ไม่ได้คิดจากจำนวนมุม"
วันนี้คงมีหลายคนที่ได้รับฟอร์เวิร์ดรูปนี้มา อ้างว่าตามประวัติศาสตร์การคิดตัวเลขอารบิกที่เราใช้กันนั้น ตัวเลขแต่ละตัวสร้างขึ้นจาก "จำนวนของมุม" ภายในตัวเลข ใช้มาทั้งชีวิต ไม่เคยรู้เลย !? .... เสียใจด้วย มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอกครับ
ตัวเลขในปัจจุบันที่เราเรียกว่า "เลขฮินดู-อารบิก" นั้น จริงๆ แล้วมาจากตัวอักขระอินเดียโบราณที่ใช้ในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ระหว่างช่วง 200ปีก่อนคริสตกาลจนถึงศตวรรษที่ 3 ปรากฏอยู่ในบันทึก Bakhshali ซึ่งมีชื่อเสียงมาก จากการที่เป็นบันทึกเก่าแก่ที่สุดทางด้านคณิตศาสตร์และแสดงให้เห็นถึงการใช้เลข 0 ศูนย์ ... ดูในรูปประกอบ จะเห็นถึงความคล้ายคลึงระหว่างตัวเลขโบราณนี้ (หรือเรียกว่า ตัวเลขพรามมิ Brahmi numerals) กับเลขอารบิกปัจจุบัน
หลังจากนั้น ลักษณะของตัวเลขก็วิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปอีกหลายศตวรรษ และแพร่กระจายไปถึงเปอร์เซียในยุคกลาง และกลุ่มชาวอาหรับได้นำเข้าไปเผยแพร่ในยุโรปในที่สุด โดยปรากฏในบันทึก Codex Vigilanus โดยผลงานของพระชาวคริสต์ในสเปนตอนเหนือ เมื่อปี ค.ศ. 881 ... ดูรูปประกอบ จะเห็นว่ายิ่งเหมือนตัวเลขอารบิกในปัจจุบันมากขึ้นอีก (แต่เค้าเขียนจาก ขวาไปซ้าย นะ) ซึ่งจะมีแค่เลข 4 กับ 5 ที่ดูต่างออกไปหน่อย
จากนั้น ตัวเลขฮินดู-อารบิกนี้ก็ได้ถูกปรับปรุงอีกครั้งในปี 1202 โดยผลงานของ Leonardo Fibonacci (คนที่คิดเรื่องลำดับฟิโบนัคชี่ นั่นแหล่ะ) โดยเอาระบบนี้มาใช้ในหนังสือ Liber Abaci (แปลว่า Book of Calculation) ของเค้าจนเป็นที่นิยมไปทั่วยุโรป
ตัวเลขอารบิกเป็นที่นิยมอย่างมากในยุโรป และในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 ก็พบว่ามีการใช้กันทั่วไป รวมทั้งใช้เขียนบนหน้าปัดนาฬิกาด้วย ... ดังในรูปประกอบ (มาจากคู่มือที่ชื่อว่า Ms.Thott.290.2º เขียนโดย Hans Talhoffer ในปี 1459) ซึ่งเขียนวิธีการเรียงลำดับเลขทั้งหมดเอาไว้
เมื่อยุโรปผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม หรือยุคเรเนสซอง (Renaissance) มีการศึกษาประวัติของเลขฮินดู-อารบิกเพิ่มเติม และพบว่านอกจากจะมีรากฐานมากจากเลขพรามมิโบราณ ยังได้รับอิทธิพลมาจากวิวัฒนาการของการจัดเรียงพิมพ์ตัวอักขระต่างๆ ในยุโรปสมัยนั้นด้วย ... ดังแผนภูมิเปรียบเทียบในภาพประกอบ ซึ่งจัดทำโดยนักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ Jean-Étienne Montcula พิมพ์ในหนังสือ Histoire de la Mathematique ในปี ค.ศ. 1757
จนมาถึงช่วงกลายศตวรรษที่ 18 นั่นเอง ที่ตัวเลขทั้งหมดที่นิยมใช้กันในยุโรปนั้น ได้เปลี่ยนมาเป็นแบบตัวเลขอารบิกในปัจจุบัน ... ซึ่งก็ชัดเจนว่า ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องจำนวนมุมภายในตัวเลขแต่อย่างไรครับ
ข้อมูลและภาพ จาก https://gizmodo.com/no-this-viral-image-does-not-explain-th…
-------------
สนใจหนังสือ "อ๋อ! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง" ติดต่อสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ สนพ. มติชน http://www.matichonbook.com/…/matichonb…/newbooks/-2997.html
"Arabic numbers don't think of the number of angles"
Today, there are many people who have received this forward. According to the history of the arbic numbers we use. Each number is made up of "the number" within the numbers. I have been used for their whole life. So!? I'm sorry. It's not true.
The current numbers we call "Hindu-Arabic" are actually from the ancient Indian cuddle characters used in mathematical calculation between 200 years before crystal to the 3th century. Appearing in Bakhshali record which is very famous from the oldest record in mathematics and shows the use of 0 zeros... See in the illustrations, it will see the similarity between this antique numbers (aka the numbers. Brahmi numerals) with current Arabic numbers
After that, the characteristics of the numbers changed centuries and spread to medieval Persians and Arabs were finally published in Europe. It appears in Codex Vigilanus by the work of Christians in Northern Spain in July. Prof. 881... Look at the illustrations, you will see that the more like the current Arabic numbers (but they write from right to left) which will only have number 4 and 5 that look different. Please.
Then this Hindu-Arabic number was renovated in 1202 by Leonaci's work of Leonaci (who thought about Fibonacci cuddle ci sequence) by using this system in liber. (It means book of calculation) is popular all over Europe.
Arabic numbers are highly popular in Europe and in the 15th and 16th centuries, it is found that they are commonly used as well as written on the watch dial... as in the illustration (from the Ms. Thott. 290.2º written by Hans Talhoffer in 1459) Writes how to sort out all numbers.
When Europe passed the era of art, culture or Renaissance), there was more study of Hindu-Arabic history and found that in addition to a lot of primmi numbers, it is also influenced by the evolution of printing. cuddle carabinieri, cuddle characters in Europe in those days... As a comparison chart in the illustration made by a French historian-étienne montcula, printed in the book in the book of Histoire de la Mathemathematique in July. Prof. 1757
Until the 18th century, that all the popular numbers in Europe have changed to the current Arabic numbers... which clearly has nothing to do with the number of corners within the numbers.
Info and pics from https://gizmodo.com/no-this-viral-image-does-not-explain-the-history-of-ar-1719306568
-------------
Interested in the book " oh! This is how it is " Contact to order at the website. Matichon http://www.matichonbook.com/index.php/matichonbook/newbooks/-2997.htmlTranslated
how you like that แปลว่า 在 K.S. Khunkhao Facebook 的最佳解答
สรุปได้ดีมากๆเลยครับ ประทับใจ
## สรุป จิตวิทยาการขาย ##
Speaker : MasterPop Feat. K.S. Khunkhao
ทุ่นเวลาคุณได้ : 1 ชั่วโมง 30 นาที 30 วินาที
.
.
.
1. อาชีพนักขาย คือ อาชีพของทุกคน -- ขายสินค้า , ขายความรู้ , ขายความสุข , ขายบริการ
.
2. ถ้าเราเหมือนคนอื่น เราจะยืนอยู่ในจุด ที่ไม่มีใครมองเห็น แต่ถ้าเราทำอะไรที่โดดเด่น จะมีคนมองเห็น ในจุดที่เรายืน
.
3. Sell มาจากภาษาเยอรมัน Sellan แปลว่า "ให้" ดังนั้น "การขาย = การให้"
.
4. ตัวอย่างการขาย คลิป Bangkok 1st Time ทำคลิปตลกให้ดูก่อน แล้วขายหนังสือทีหลัง , เจ๊น้ำ ให้ความสุขก่อน แล้วขายของทีหลัง , แดน ล็อก ยูทูปเบอร์ ให้ความรู้ก่อน แล้วขายโปรดักซ์ทีหลัง
.
5. ทุกการขาย คือ การให้ 3 อย่าง -- 1.ให้ความรู้ 2.ให้ความสุข 3.ให้แรงบันดาลใจ
.
6. ความสามารถและศิลปะในการให้ จะกำหนดเงินที่หลั่งไหลมาหาคุณ
.
7. การให้ คือ ศิลปะ -- 1.ไม่ให้เขารำคาญ 2.ไม่ให้เสียเวลา 3.ไม่ให้เสียความรู้สึก
.
8. เจ เอฟ เค กล่าวว่า "อย่าถามว่าประเทศชาติให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถามว่า ท่านให้อะไรแก่ประเทศชาติบ้าง"
.
9. การขายก็เช่นกัน "อย่าถามว่าลูกค้าจะซื้ออะไรกับเราได้บ้าง ให้ถามว่า เราจะให้อะไรกับลูกค้าได้บ้าง"
.
10. Deserve แปลว่า การได้รับ , สมควรได้รับ , คู่ควร -- มีรากศัพท์มาจาก Serve แปลว่า รับใช้ , อรหันต์ แปลว่า คนที่คู่ควร , Samurai แปลว่า ผู้รับใช้
.
11. วิธีหาความสุขในชีวิตง่าย ๆ ให้ดูว่า สิ่งที่อยู่รอบตัวเรา เกิดมาเพื่อให้บริการอะไรกับเราอยู่ เช่น เก้าอี้ เกิดมาเพื่อให้เรามีที่นั่งนุ่ม ๆ เมื่อเรามีความสุข สิ่งนั้นก็สมควรได้รับการขอบคุณ -- ดังนั้น การบริการลูกค้าก็เช่นกัน เราก็คู่ควรกับคำว่า "ขอบคุณ"
.
12. ตอนเช็คบิล ถ้าพนักงานเสิร์ฟให้ลูกอมมิ้นต์ 2 อันพร้อมกัน ลูกค้าจะรู้สึกเฉย ๆ แต่ถ้าให้ลูกอมมิ้นต์ 1 อันก่อน แล้วค่อยเอามาให้อีกอัน เพราะคุณเป็นลูกค้าคนพิเศษ (อย่างหลังจะได้ใจมากกว่า เพราะรู้สึกเป็นคนสำคัญ) -- นี่คือ "ศิลปะการให้"
.
13. จากงานวิจัยพบว่า โรงแรมสามดาว ทำยังไงถึงจะเพิ่มยอดขาย ให้เหมือนโรงแรมห้าดาวได้ -- 1.หมอนนุ่ม 2. เตียงสบาย 3. น้ำแรง 4. Wifi ไฮสปีด 5. เช็คอินหนึ่งนาที 6. มีแอมบาสเดอร์แนะนำแหล่งท่องเที่ยว -- กลยุทธ์นี้ทำให้ลูกค้ากลับมาพักซ้ำมากกว่า 90% และได้รับการขนานนามใหม่ว่า นี่ไม่ใช่โรงแรม แต่นี่คือ "ศาสนาแห่งการท่องเที่ยว"
.
14. คนซื้อของด้วยอารมณ์ แล้วหาเหตุผลมา สนับสนุนทีหลัง
.
15. เทคนิค 4P's ของการขาย
1. Promise สัญญาจะให้อะไรกับเขา
2. Picture ทำให้เขาเห็นภาพตามเรา
3. Proof มีเครดิตอ้างอิงเชื่อถือได้
4. Product สินค้าคุ้มค่าเกินราคา
.
16. จากงานวิจัยพบว่า ก่อนพักเที่ยง ผู้พิพากษา ที่หิวข้าว จะตัดสินให้คนเข้าคุก มากกว่า หลังพักเที่ยง เนื่องจากทานข้าวอิ่ม และอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
.
17. คำถาม ลูกค้ามีบัตรเครดิต 11 ใบ คุณจะขายใบที่ 12 ให้ลูกค้าได้ยังไง -- เราต้องให้คุณภาพที่คนอื่น ให้แทนเราไม่ได้ ลูกค้าถึงซื้อกับเรา
.
18. ถ้าทุกคนในห้องนั่งและตะโกน ให้คุณยืนขึ้นและโบกมือ คุณจะโดดเด่นกว่าคนอื่นทันที >> นี่คือ "ความแตกต่าง"
.
19. ภาพทรงพลังที่สุด คือ ภาพในจินตนาการ -- สตีฟ จ๊อบส์ ใช้เทคนิคภาพจินตนาการ ตอนชวน จอห์น สกัลลีย์ ซีอีโอเป๊ปซี่ มานั่งแท่นบริหารแอปเปิ้ล ด้วยประโยคที่ว่า "คุณอยากจะขายน้ำหวานไปตลอดชีวิต หรืออยากจะมาเปลี่ยนโลกไปกับผม"
.
20. โปรดักซ์ที่ดี = Quality มากกว่า Quantity -- ของดีจริง ไม่ต้องขายบ่อย
.
21. สูตรการขาย "ให้ 80 : ขาย 20" คือ ให้หมดเนื้อหมดตัว แล้วขอแค่ ช่วยซื้อผ้าห่ม คลุมตัวหน่อยก็ยังดี
.
22. จิม โรห์น กล่าวว่า "ไม่ใช่ลมกำหนดทิศทางชีวิตเรา แต่เป็นเรา ที่กำหนดทิศทางของใบเรือ"
.
23. ขุนเขาทำนาย 6,000 ปี ต่อจากนี้ "ทุกวิกฤติ มีโอกาส" เพราะ 6,000 ปีที่ผ่านมา ก็เป็นแบบนั้น
.
24. เคล็ดลับความรวย โรเบิร์ต คิโยซากิ -- "คุณต้องเห็นว่า อะไรมันกำลังขึ้น ทั้งที่ทุกอย่างมันกำลังลง"
.
25. จากกรณี อีลอน มัสก์ ไลฟ์สดสูบกัญชา แล้วหุ้นตก คนทั่วไปฟังแล้วยี้ ดูช่องอื่นดีกว่า -- แต่นักลงทุนฟังแล้ว ตบเข่าฉาด! รีบซื้อหุ้นเทสล่าดีกว่า เพราะไม่บ่อยครั้ง ที่หุ้นเทสล่าจะตก
.
26. อนาคต Skill ที่ Ai แทนที่ไม่ได้คือ Speaking , Communication , Coaching เพราะมันคือ Soft Skill ด้านอารมณ์และจิตใจ
.
27. การขาย = คลายทุกข์ (เพราะทุกอย่างที่คนซื้อ ซื้อเพื่อคลายทุกข์)
.
28. ความสำเร็จนอกบ้านใด ๆ ก็ไม่อาจทดแทนความล้มเหลวในบ้านได้
.
29. FB ลดการมองเห็นเพจ เพิ่มการมองเห็น Profile (ลดเฉพาะประเทศไทย เพราะพวกเราขายมากเกินไป) ดังนั้น แทนที่จะขายในเพจอย่างเดียว ให้เราเพิ่มการให้คุณค่าใน Profile ส่วนตัวกับเพื่อนด้วย
.
30. ยิ่งเป็นเพื่อนกับลูกค้ามากแค่ไหน ลูกค้าจะซัพพอร์ทคุณมากเท่านั้น -- เพราะคุณไม่ใช่พระเจ้า
.
31. การเรียนไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าอยากไปให้สุด จงเรียนกับครู ที่เป็นที่สุดในวงการ
.
.
----Cr.https://www.facebook.com/MasterPopWorld/videos/281650759339801/
.
_________________________________
*** #สนใจรับเทคนิคต่างๆเพิ่มเติม ***
เพื่อสร้างทีม! สร้างยอดขาย!
และเพื่อการพัฒนาตัวเอง
_________________________________
ยังมีอีก 45 บทความ / 45 วัน ต่อเนื่อง
ในกลุ่มสมาชิก เพจ VIP Summary Live MEMBER
.
พิมพ์ "สนใจ" ใต้โพสต์นี้
เพื่อรับรายละเอียดการสมัครเข้ากลุ่ม
.
หรือ คลิกลิ้งก์ m.me/VIPSummarylive
เพื่อติดต่อทีมงานได้ทันทีครับ ^^
( ด่วน! หมดเขต 31 มีนาคมนี้ )
.
.
ทีมสรุปให้แล้วนะ
VIP Summary Live
"สังคมของคนรักสรุป"
v
v
v
v
v
v
## summary of Sales Psychology ##
Speaker : MasterPop Feat. K.S. Khunkhao
Buoy Time: 1 Hours 30 minutes 30 seconds
.
.
.
1. Sales career is everyone's career -- selling products, selling knowledge, selling happiness, selling service.
.
2. If we are like others, we will stand where no one can see. But if we do something outstanding, someone will see where we stand.
.
3. Sell is from German. Sellan means " give " so " Sales = giving "
.
4. Examples of selling clip Bangkok 1st time. Make funny clips to watch first and sell books later, sister nam gives happiness first, then sell stuff later, danlock youtube number to educate first and sell my favorite cuddle July Later.
.
5. EVERY SALE IS GIVING 3 things -- 1. Educate 2. to give happiness 3. to inspire.
.
6. The ability and art of giving will determine the money that flows to you.
.
7. Giving is art -- 1. Not to bother him. Haha. Not to waste time. Haha. Not to lose your feelings.
.
8. JFK says, " do not ask what the nation has given you, but ask what you have given to the nation
.
9. Sales are the same. "don't ask what customers can buy with us. Ask what we can give to customers"
.
10. Desert means receiving, worthy, worthy -- there is a root from serve. It means serving, orn means worthy, Samurai means servant.
.
11. Simple ways to find happiness in life. See what is around us are born to serve us. Such as chairs are born to give us soft seats. When we are happy, it deserves to be thankful -- so Customer service too. We deserve the word " thank you
.
12. When I check the bill, if the waitress gives 2 Mint Candy at the same time, the customer will feel indifferent. BUT IF YOU GIVE 1 Mint Candy First, then bring it to another one because you are a customer. Special person (like the back will have more heart because I feel important) -- this is "Art of giving"
.
13. According to research, how to three star hotels can increase sales like a five Star Hotel -- 1. Soft Pillows, 2. Comfortable bed, 3. Strong water, 4. High Speed 5. One minute check-in 6. Ambassadors recommended attractions -- this strategy brings more than 90 % of customers recurring and is re-called. This is not a hotel, but this is " religion of tourism --
.
14. People buy stuff with emotions and find a reason to support later.
.
15. 4 P's technique of sales
1. Promise. What will I give him?
2. Picture makes him see the picture according to us.
3. Proof. Reliable reference credit.
4. Product. The product is worth the price.
.
16. According to research, it has found that before lunch break, hungry judges will sentenced more people to jail than after lunch break due to having a full and better mood.
.
17. Questions. Customers Have 11 credit cards. How can you sell the 12nd one to customers -- we need to provide the quality that others can't replace us. That's why customers buy with us.
.
18. If everyone in the sitting room shouts for you to stand up and wave, you will stand out more than others. >> this is "the difference"
.
The 19. Most powerful photos are imaginary photos -- Steve jobs uses imaginary technique when inviting John Skulley CEO Pepsi to take the apple management with the sentence " you want to sell water. Sweet for the rest of your life or do you want to change the world with me "
.
20. Fav cuddle good x = quality more than quality -- good stuff. No need to sell often.
.
21. Formulas to sell "give 80: sell for 20" well, I will be sold out of meat. Just buy a blanket and cover myself.
.
22. Jim Rhone said, " not the wind determines our life's direction, but we who set the direction of the sails
.
23. The mountain predicts 6,000 years from now, "every crisis has a chance" because the last 6,000 years ago.
.
24. Tips for richness Robert Kiyozaki -- "you have to see what's going up even when everything is going down"
.
25. from the case of elon cuddle skunk. Smoke weed and stocks fall. People listen to it and watch other channels -- but investors will slap their knees! Hurry up to buy Tesla stocks because it's not often tesla stocks fall.
.
26. Future skill that ai can't replace is speaking, communication, coaching because it's soft skill emotionally and mental.
.
27. Sales = relieve suffering (because of everything people buy to relieve suffering)
.
28. Success outside of any home cannot replace failure in the house.
.
29. FB REDUCES PAGE VISIBILITY, increase profile visibility (reduce only Thailand because we sell too much). So instead of selling on one page, let us add value in personal profile with friends.
.
30. The more friends with customers, the customer will buy cuddle port you -- because you are not God.
.
31. Study is endless. If you want to go to the end, study with the most teachers in the industry.
.
.
----Cr.https://www.facebook.com/MasterPopWorld/videos/281650759339801/
.
_________________________________
*** #สนใจรับเทคนิคต่างๆเพิ่มเติม ***
To build a team! Make Sales!
And for self-development.
_________________________________
There are 45 more articles / 45 consecutive days
In VIP MEMBER GROUP SUMMARY LIVE MEMBER
.
Type "interested" under this post
To get group sign up details
.
Or click the link m.me/VIPSummarylive
To contact the team right away ^^
(URGENT! Ends on 31 March)
.
.
The team has summarized it for you.
VIP Summary Live
"the society of lovers concludes"
In the world
In the world
In the world
In the world
In the world
In the worldTranslated
how you like that แปลว่า 在 chopluem Youtube 的最讚貼文
สวัสดีค้า วันนี้มากับคลิป Reaction ครั้งแรกของช่องปลื้มเลย บอกเลยว่าตื่นเต้นมากกกกกถึงมากที่สุด คือเรียกได้ว่าเฝ้ารอคอยกับการcomeback มานานมาก และในคลิปก็ได้มีพี่ brinkkty มาร่วมจอยด้วย บอกเลยว่านี้คือ react ของการดูครั้งแรก จะเป็นยังไงไปดูกันเลยยยยย เพราะเราคือ blink และ blink แปลว่า รักศิลปิน เราจะไม่หยุดsupport หรอกค่ะ ???
Follow me
IG : Chopluem
FB page : Chopluempatzytravelpap
For work
Line ID : patzywvq