關於 lethal weapon ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

#髮量懸殊的硬漢搭擋要來了！

在上週時，#戴夫巴帝斯塔 曾於推特上提及他想和《#水行俠》演員 #傑森摩莫亞 共同演出一部風格類似《#致命武器》的警探搭擋電影，一時引起了不少網友的討論，而現在計畫有了新的進展！

就目前看來，巴帝斯塔並不時隨口說說而已，他確實和另一位硬漢在一同策劃著該項目，而根據摩莫亞的說法，這部電影計畫目前已正在發展中了。

Assassins (7.5/10)
ไม่รู้เพราะมาดูสมัยนี้หรือเปล่านะเลยรู้สึกว่ามันมีหนังที่ทำสูตรนี้มาเยอะแหละ แต่ไม่มีเรื่องไหนเอามาทำจริงจังแบบ Jason Bourne ซึ่งถ้าเราดูสมัยนั้นก็อาจจะรู้สึกว่ามันเจ๋งดี จริง ๆ มาดูตอนนี้ก็ยังเจ๋งในแบบพวกหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์นักฆ่าระดับพระกาฬไล่ล่ากัน จะเรียกว่าเป็น before Bourne was cool ก็ไม่ผิดอะไร
-------------------------------

'โรเบิร์ต' (Sylvester Stallone) เป็นสุดยอดนักฆ่าที่ถูกว่าจ้างให้ลอบสังหารชายคนหนึ่งแต่เขากลับถูก 'มิเกล' (Antonio Banderas) ชิงลงมือตัดหน้า จนกระทั่งงานต่อมาคือการปล้นดิสก์จาก 'อิเลคตร้า' (Julianne Moore) ก็ยังถูกมิเกลตามมาแย่งลงมืออีก แต่เป็นช่วงที่โรเบิร์ตต้องการวางมือพอดี เขาจึงตัดสินใจพาหญิงสาวหลบหนีโดยมีสุดยอดนักฆ่าอย่างมิเกลตามไล่ล่า
.
ที่เราบอกว่าหนังมันมีความเป็นสูตรคือมันพูดถึงสเกลเล็ก ๆ ของมือสังหารสองคนที่ต้องชิงไหวชิงพริบไล่ล่ากัน โดยมีตัวบงการใหญ่คอยขับเคลื่อนอยู่ หนังหลายเรื่องเล่นสูตรนี้ซึ่งจะมีโจทย์บังคับอีกอย่างคือต้องใส่ตัวละครหญิง พูดง่าย ๆ ว่าต้องมีนางเอกแล้วต้องเด่นในระดับหนึ่งด้วย ซึ่งการมีนางเอกเนี่ยแหละทำให้หนังแอ็คชั่นหลายเรื่องมันค่อนข้างเป็นหนั๊งหนัง ดูไม่เรียลโดยเฉพาะฉากท้าย ๆ หรือการให้ผู้หญิงต้องยิงปืน (MI: 3 เป็นตัวอย่างที่ดี) แน่นอนว่า Assassins ก็มีปัญหากับบทของจูลี่แอนน์ มัวร์ที่ทำให้โลกแอ็คชั่นของนักฆ่าดูไม่สมจริง
.
แต่หากมองข้ามบทของเธอไป ซึ่งการมีอยู่ของเธอมันก็โอเคตามแบบหนังแอ็คชั่นทั้งหลายที่มีผู้ช่วยข้างกายอีกคนเป็นตัวละครลับ (แม้จะมีความน่ารำคาญอยู่พอสมควร) เราจะพบว่าหลายฉากของหนังปี 1995 เรื่องนี้มันดูชิงไหวชิงพริบใช้สมองชิงเหลี่ยมกันมากกว่าจะมาต่อสู้ทางกายภาพประเภทยิงปืนแม่น, หลบหลีกคล่องแคล่ว, หรือใช้พละกำลังเตะต่อยกัน ซึ่งการใช้สมองมันทำให้เรานึกถึงหนังแอ็คชั่นยุคหลัง ๆ อย่างเจสัน บอร์นเวลาจะหลบหนีการถูกสะกดรอย โดยใน Assassins นี่เราชอบฉากที่เบรกรถไฟฟ้าแล้วกระโดดลงกลางทางมาก หรือกระทั่งการระเบิดแก๊สในห้องเพราะไม่มีมุมยิงศัตรู
.
สำหรับเราแล้วถือว่า Assassins เป็นหนังที่เซอร์ไพรส์เหมือนกัน คือไม่ได้คาดหวังว่ามันจะออกมาดีและสนุกแบบนี้ เป็นหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์สำหรับคนที่ชอบแนวดวลกันสมจริงและใช้สมองสู้กันด้วย งานดีมีคุณภาพ ไม่เชื่อดูเครดิตทีมเขียนบทและกำกับหนังสิ
.
ป.ล. Richard Donner เป็นผู้กำกับ Superman, Lethal Weapon, The Omen
คนเขียน story คือ Lilly Wachowski และ Lana Wachowski คนเขียนบท The Matrix
ส่วน screenplay คือ Brian Helgeland งานดัง ๆ เช่นเขียนบท L.A. Confidential, Mystic River, Green Zone
.
.
.
.
ดูแบบซับไทยได้เลยใน Netflix: https://www.netflix.com/title/13752289
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์จากทุกค่ายได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb

#หนังโปรดของข้าพเจ้า

Speed (7.5/10)
มาพูดถึงหนังเรื่อง Speed กันหลังหนังฉายไปแล้ว ผู้คนคงจะจดจำแต่ความสำเร็จและความสนุกของหนัง แต่ถ้าพูดถึง Speed เมื่อตอนก่อนออกฉายแล้วคงจะมีแต่ประเด็นว่าหนังแบบนี้จะไปรอดเหรอ ขนาดสตูดิโอ Paramount ที่ได้สคริปต์มาในปี 1992 ยังปฏิเสธที่จะทำเป็นหนังเพราะคิดว่ามันคงไม่เวิร์ค ซึ่งทำให้สตูดิโอ 20th Century Fox เอามาทำต่อเอง แต่พอเอาไปเสนอผู้กำกับดัง ๆ ในยุคนั้นอย่าง 'จอห์น แมคเทียร์แนน' ที่ประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาจาก Predator, Die Hard, The Hunt for Red October แต่มาเจ๊งกับ Last Action Hero ก็ยังโดนปฏิเสธ ตอนนั้นสตูดิโอเลยล้มเลิกความคิดจะเอาผู้กำกับดังมาทำหนังแล้วไปหาผู้กำกับหน้าใหม่เอาก็ได้ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครสักคน สุดท้ายสงสัยอยากได้กลิ่นอายความเป็นหนังแอ็คชั่นแบบ Die Hard เลยไปเลื่อนขั้นเอา 'แจน เดอ บอนต์' ผู้กำกับภาพในหนังของจอห์น แมคเทียร์แนนมากำกับหนังซะเลย ซึ่งตอนนั้นเขาก็คุ้นเคยกับหนังแอ็คชั่นอยู่พอตัวเพราะเป็นคนกำกับภาพทั้ง Die Hard, The Hunt for Red October, รวมถึง Black Rain กับ Lethal Weapon 3 ด้วย
-------------------------------

ได้ตัวผู้กำกับมาแล้วก็ถึงคิวการหานักแสดง ในเมื่อหนังขายชื่อผู้กำกับไม่ได้ก็ขอขายชื่อนักแสดงนำชายละกัน ตอนนั้นสตูดิโอเลยเล็งไปแต่ตัวเป้ง ๆ ไล่ตั้งแต่ ทอม แฮงค์ส, ทอม ครูซ, ไมเคิล คีตัน ตอนนั้นเป็นแบทแมน, จอห์นนี่ เดปป์, แฮร์ริสัน ฟอร์ด, เมล กิ๊บสัน, กระทั่ง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ กับซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ยังได้รับการทาบทามแต่พวกเขาล้วนปฏิเสธบทกันมา พอสตูดิโอไปหาตัวรอง ๆ ที่ตอนนั้นยังไม่ดังมากอย่างพวกแบรด พิตต์, จอร์จ คลูนี่ย์, นิโคลัส เคจ, มิกกี้ รู้ค, จอห์น ทราโวลต้า ก็ไม่มีใครเอาสักคน สุดท้ายผู้กำกับเลยเสนอไปว่าเอา 'คีอานู รีฟส์' ไหมล่ะ ผมเคยเห็นเขาเล่น Point Break (1991) แล้วโอเคเลยนะ เขาดูเป็นมิตรสำหรับผู้ชายด้วยกันแถมยังหน้าดีในสายตาสาว ๆ ด้วย
.
แต่พอสตูดิโอติดต่อคีอานู รีฟส์ปุ๊บ เจ้าตัวอ่านบทแล้วปฏิเสธปั๊บ เหตุผลง่าย ๆ เลยคืออ่านสคริปต์ตอนแรกแล้วทำไมมันคล้าย Die Hard ขนาดนี้ จะให้เล่นเป็นบรูซ วิลลิสคนที่สองเหรอไง ตอนนั้นบอนต์คงคิดเหมือนกันเลยไปดึงตัวนักแก้บทมือวางอันดับต้น ๆ ของฮอลลีวูดอย่าง 'จอส วีดอน' มาแก้บทซะเลย ซึ่งพอคีอานู รีฟส์ได้ยินเช่นนั้นจึงตกลงเล่นหนังทันที ซึ่งหลัก ๆ แล้ววีดอนเข้ามาแก้ไดอะล็อกในหนังเกือบทั้งหมด แต่ว่าไม่ได้ขึ้นเครดิตเป็นคนเขียนบทหนังแต่อย่างใด (เอาแต่เงินไม่เอาหน้าจ้า)
.
อย่างไรก็ตามพอสตูดิโอเห็นคีอานู รีฟส์เป็นนำชายเดี่ยว ๆ แล้วกลัวจะไม่รอดเหลือเกิน เพราะว่ากันตามจริงแล้วในเวลานั้นเขายังเป็นนักแสดงค่อนไปทางไม่มีชื่อเสียงอยู่เลย สตูดิโอเลยเสนอไปว่าจะหานักแสดงหญิงดัง ๆ มาประกบซะหน่อยจะได้พอขายได้บ้าง แต่ผู้กำกับอย่างบอนต์ยืนกรานหนักแน่นว่าไม่เอา(โว้ย) เถียงกันอยู่นานจนในที่สุดสตูดิโอยอมอ่อนข้อให้(แต่นึกในใจว่าตูคนออกเงินนะ) แล้วก็ไปมองหานักแสดงหญิงไม่ค่อยดังเท่าไร ในตอนแรกพวกเขาเลือก 'ฮัลลี่ เบอร์รี่' ที่เริ่มถูกจับตามองจากบททาสในละครโทรทัศน์ขนาดสั้นเรื่อง Queen แต่เธอตอบปฏิเสธกลับมา โดยภายหลังที่ Speed ออกฉายแล้วประสบความสำเร็จอย่างดีก็มีคนไปถามเธอว่าเสียใจไหมที่ปฏิเสธหนังดัง ซึ่งเธอไม่เสียใจเลยพร้อมกับบอกว่าถ้าเธอแสดงหนังคงไม่ประสบความสำเร็จแบบนี้ เพราะบทเธอคงกลายเป็นแค่คนขับรถบัสผิวดำเท่านั้น
.
ในตอนนั้นสตูดิโอก็เริ่มหานักแสดงหญิงคนอื่น ๆ ไปด้วย มีทั้งโจแอน คูแซ็ค, เจนนิเฟอร์ เจสัน ลีห์, ชารอน สโตน (ตอนนั้นมี Basic Instinct), เดมี มัวร์ (Ghost), เด็บบรา วิงเกอร์ แต่สุดท้ายสตูดิโอเลือกเบนเข็มไปหา 'แซนดร้า บูลล็อค' ที่เวลานั้นมีผลงานเด่น ๆ เป็นบทสมทบในหนังไซไฟแอ็คชั่นเรื่อง Demolition Man ซึ่งก็ได้ตัวบูลล็อคมากระชั้นชิดมาก ๆ เพราะอีกแค่ 2 สัปดาห์ก็จะเปิดกองถ่ายหนังอยู่แล้ว
.
ปรากฎว่ายังไม่ทันเปิดกองถ่ายก็มีความขัดแย้งรอบสองระหว่างสตูดิโอกับผู้กำกับเรื่องทรงผมของคีอานู รีฟส์ ซึ่งฝ่ายบอนต์ยืนยันหนักแน่นว่าบทตำรวจทำงานหนักมันต้องไว้ผมเกรียนทั้งหัว (buzz cut) แหละเหมาะสมดีแล้ว ส่วนฝั่งสตูดิโอไม่เห็นด้วยเลยตัดสินใจเลื่อนเปิดกองออกไปอีกหน่อยเพื่อรอให้ผมคีอานู รีฟส์ยาวขึ้นกว่านี้สักนิดนึง ซึ่งอันนี้อาจจะเป็นฝั่งสตูดิโอที่ตัดสินใจถูกต้องเพราะทรงผมของพระเอก Speed ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองจริง ๆ ส่วนบอนต์ก็มาได้เครดิตเรื่องการเพิ่มฉากรสบัสกระโดดข้ามถนนยกระดับที่ขาด ซึ่งกลายเป็นฉากดังของหนัง โดยในตอนแรกมันไม่ได้มีอยู่ในบทแต่บอนต์ได้ไอเดียมาจากตอนที่เขาขับรถในลอส แองเจลิสแล้วสังเกตว่าส่วนหนึ่งของถนน I-105 มันหายไป เลยเอามาใส่ในหนังซะเลย จะว่าไปหนังก็ถ่ายบนถนน I-105 มาตั้งแต่แรกแล้วด้วย โดยเวลานั้นมันเพิ่งสร้างเสร็จแต่ยังไม่เปิดให้คนทั่วไปใช้บริการ กองถ่ายเลยมีอิสระกันสุด ๆ
.
ทีนี้พอเปิดกองถ่ายหนังก็ดันกลัวแป้ก ๆ กัน นักแสดงในเรื่องอย่าง 'เจฟฟ์ แดเนียลส์' ก็คิดว่าหนังคงเจ๊งแน่นอน สตูดิโอยังเสียว ๆ ว่าหนังจะไม่รอดเลยจนกระทั่งเอาไปฉายรอบทดลองแล้วปรากฎว่าเสียงตอบรับดีมาก แถมระหว่างฉายเนี่ยมีคนปวดฉี่แต่แทนที่จะเดินออกไปตามปกติเขากลับค่อย ๆ เดินถอยหลังช้า ๆ เพราะแทบไม่อยากพลาดฉากในหนังแม้แต่นิดเดียว ซึ่งตอนนั้นทำให้สตูดิโอมั่นใจมากว่าหนังเปรี้ยงแน่นอน แล้วเจฟฟ์พอได้มาดูหนังหลังถ่ายเสร็จก็เปลี่ยนใจมาเชื่อว่าจะไม่เจ๊งหรอก ฟันธง
.
โดยตอนแรกสตูดิโอวางกำหนดฉาย Speed เอาไว้เดือนสิงหาคม เพราะคิดว่ายังไงหนังก็เจ๊งแน่ ๆ เอาไปฉายหลัง True Lies ของเจมส์ คาเมร่อนที่จะเปิดตัวเดือนกรกฎาคมเลยละกัน ยังไงก็ไม่น่ารอดอยู่แล้ว แต่พอฉายรอบทดลองแล้วกระแสดีมากกกกกกกกกกกจึงทำให้สตูดิโอเปลี่ยนใจทันที เลื่อน Speed เข้ามาฉายเดือนมิถุนายน ให้ชนกับช่วงต่อของ The Flintstones วัดกันไปเลยระหว่างหนังแอ็คชั่นสำหรับผู้ใหญ่กับหนังครอบครัวใครจะอยู่ใครจะไป ซึ่งน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ 20th Century Fox เพราะหนังทำเงินเฉพาะในอเมริกาสูงถึง 121 ล้านเหรียญ ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 8 ของปี 1994 ทั้ง ๆ ที่ทุนสร้างแค่ 30 ล้านหรียญเท่านั้นเอง แถมทำเงินทั่วโลกสูงถึง 350 ล้านเหรียญ เป็นอันดับ 5 ของปีนั้นด้วย
.
ซึ่งความสำเร็จของ Speed จึงทำให้เกิดภาคต่อตามมาในชื่อ Speed 2: Cruise Control ที่สตูดิโอมั่นใจว่าภาคแรกดังขนาดนี้ภาคต่อคงฮิตถล่มทลายแน่นอน จึงทุ่มทุนสร้างสูงถึง 160 ล้านเหรียญ แต่ปรากฎว่าฉายจริงแป้กสนิท ทำเงินไปเหงา ๆ ในอเมริกาแค่ 48 ล้านเหรียญ รวมทั้งโลก 164 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังเจ๊งสนิทปิดอนาคตแฟรนไชส์ Speed กันไปเลย แต่ภาคแรกคือสนุกสุด ๆ เลยนะ
.
.
.
.
ดูแบบซับไทยได้เลยใน Disney+ Hotstar: https://www.hotstar.com/th/movies/speed/1770000923
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์จากทุกค่ายได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb

#หนังโปรดของข้าพเจ้า

Watch Dogs: Legion
ซื้อเกมได้ที่ https://store.epicgames.com/legendauser/watch-dogs-legion

Watch Dogs: Legion is an action-adventure game played from a third-person perspective, and takes place within an open world setting based upon London, which can be explored either on foot - utilizing parkour moves - vehicles, or fast-travelling via the city's Underground stations. The game is composed of several missions, including those that progress the main story, liberation missions aimed at freeing the city's boroughs featured in the setting, recruitment missions for new playable characters, and various side-activities, with players able to freely pursue a mission or activity, or explore the city for secrets and collectibles. Each mission's objectives can be handled via one or several different approaches: an open-combat approach utilizing a variety of weapons; a stealth approach utilizing the environment to avoid detection and monitoring enemy patterns; or a hacking approach using any hackable object to subdue enemies with traps or distractions, while seeking out objectives via cameras and remotely accessing them. Combat includes a mixture of gun fights - involving lethal and non-lethal fire-arms - and hand-to-hand combat moves, with enemies making use of different methods depending on how the player acts against them in combat (i.e. a guard hit with a punch will use melee attacks). Players can be pursued by enemies when escaping, including hostile drones, but can lose them by utilizing hack-able environmental objects (i.e. vents) and avoiding line of sight with pursuers.

Unlike previous games in the series, Legion features the ability to use multiple characters during a playthrough, each of whom can be recruited from around the game's setting. While the player must choose a character to begin with after the story's prologue chapter, others may be recruited upon completing the initial story missions of the game from anywhere around the game's setting, which can also include those working for hostile factions. Those recruited become operatives that the player can freely switch to at any time, as well as customize with different clothing options, with each recruit-able character maintaining their own lifestyle and occupation when not active (i.e. spending time drinking at a pub). Each character that can be recruited have different traits and skills, based upon their background - a spy operative has access to a silenced pistol and can summon a special spy vehicle to travel around with, armed with rockets; a hooligan operative can summon in friends to help in a fist-fight; a builder operative can make use of large drones for heavy-lifting and a nail-gun for combat; while an "adrenaline junkie" operative can deal more damage, but risk the possibility of being knocked out/dying at any random moments. Operatives can gain experience when used by the player, which allows them to gain additional skills and abilities to improve them, with the player able to provide additional upgrades for all character by spending "tech points" - a collectible scattered around the city, which can be spent on weapon and gadget upgrades.

All potential recruits have an additional statistic, which details whether they can be recruited when approached - their thoughts on DedSec. Some recruits may not join if either they favour those that oppose them (such as a hostile faction), if the player has a character in their roster whom they hate or if DedSec did something to harm another NPC they have good relations with. If a recruit can be brought in, players will be required to complete a mission from them related to a problem they need resolving. An example of such a mission would be helping someone determine why they are being constantly spied on more frequently of late working as a vigilante in shutting down a criminal operation they seek to disrupt. Any character that can be recruited, can be killed during a playthrough by criminal gangs or law enforcement, and thus be permanently removed from the player's roster of playable characters, provided the player has the permadeath option enabled; if not, the character is merely arrested, and can be simply rescued by another operative. If the player loses all their characters from death or arrest, the game ends.

The online component of the game would be introduced through a free post-launch update in December 2020. Players can also join a team of up to four players in cooperative gameplay, sharing progression between single-player and multiplayer modes. They can also access Tactical Ops, which are co-operative missions designed for 4 players, or simply explore London together. The asymmetrical multiplayer mode Invasion would also return. The game also features a competitive multiplayer mode named "Spiderbot Arena" in which players assumes control of a gadget named spiderbot and compete against each other in free for all matches.

Watch Dogs: Legion
ซื้อเกมได้ที่ https://store.epicgames.com/legendauser/watch-dogs-legion

Watch Dogs: Legion is an action-adventure game played from a third-person perspective, and takes place within an open world setting based upon London, which can be explored either on foot - utilizing parkour moves - vehicles, or fast-travelling via the city's Underground stations. The game is composed of several missions, including those that progress the main story, liberation missions aimed at freeing the city's boroughs featured in the setting, recruitment missions for new playable characters, and various side-activities, with players able to freely pursue a mission or activity, or explore the city for secrets and collectibles. Each mission's objectives can be handled via one or several different approaches: an open-combat approach utilizing a variety of weapons; a stealth approach utilizing the environment to avoid detection and monitoring enemy patterns; or a hacking approach using any hackable object to subdue enemies with traps or distractions, while seeking out objectives via cameras and remotely accessing them. Combat includes a mixture of gun fights - involving lethal and non-lethal fire-arms - and hand-to-hand combat moves, with enemies making use of different methods depending on how the player acts against them in combat (i.e. a guard hit with a punch will use melee attacks). Players can be pursued by enemies when escaping, including hostile drones, but can lose them by utilizing hack-able environmental objects (i.e. vents) and avoiding line of sight with pursuers.

Unlike previous games in the series, Legion features the ability to use multiple characters during a playthrough, each of whom can be recruited from around the game's setting. While the player must choose a character to begin with after the story's prologue chapter, others may be recruited upon completing the initial story missions of the game from anywhere around the game's setting, which can also include those working for hostile factions. Those recruited become operatives that the player can freely switch to at any time, as well as customize with different clothing options, with each recruit-able character maintaining their own lifestyle and occupation when not active (i.e. spending time drinking at a pub). Each character that can be recruited have different traits and skills, based upon their background - a spy operative has access to a silenced pistol and can summon a special spy vehicle to travel around with, armed with rockets; a hooligan operative can summon in friends to help in a fist-fight; a builder operative can make use of large drones for heavy-lifting and a nail-gun for combat; while an "adrenaline junkie" operative can deal more damage, but risk the possibility of being knocked out/dying at any random moments. Operatives can gain experience when used by the player, which allows them to gain additional skills and abilities to improve them, with the player able to provide additional upgrades for all character by spending "tech points" - a collectible scattered around the city, which can be spent on weapon and gadget upgrades.

All potential recruits have an additional statistic, which details whether they can be recruited when approached - their thoughts on DedSec. Some recruits may not join if either they favour those that oppose them (such as a hostile faction), if the player has a character in their roster whom they hate or if DedSec did something to harm another NPC they have good relations with. If a recruit can be brought in, players will be required to complete a mission from them related to a problem they need resolving. An example of such a mission would be helping someone determine why they are being constantly spied on more frequently of late working as a vigilante in shutting down a criminal operation they seek to disrupt. Any character that can be recruited, can be killed during a playthrough by criminal gangs or law enforcement, and thus be permanently removed from the player's roster of playable characters, provided the player has the permadeath option enabled; if not, the character is merely arrested, and can be simply rescued by another operative. If the player loses all their characters from death or arrest, the game ends.

The online component of the game would be introduced through a free post-launch update in December 2020. Players can also join a team of up to four players in cooperative gameplay, sharing progression between single-player and multiplayer modes. They can also access Tactical Ops, which are co-operative missions designed for 4 players, or simply explore London together. The asymmetrical multiplayer mode Invasion would also return. The game also features a competitive multiplayer mode named "Spiderbot Arena" in which players assumes control of a gadget named spiderbot and compete against each other in free for all matches.

Watch Dogs: Legion
ซื้อเกมได้ที่ https://store.epicgames.com/legendauser/watch-dogs-legion

Watch Dogs: Legion is an action-adventure game played from a third-person perspective, and takes place within an open world setting based upon London, which can be explored either on foot - utilizing parkour moves - vehicles, or fast-travelling via the city's Underground stations. The game is composed of several missions, including those that progress the main story, liberation missions aimed at freeing the city's boroughs featured in the setting, recruitment missions for new playable characters, and various side-activities, with players able to freely pursue a mission or activity, or explore the city for secrets and collectibles. Each mission's objectives can be handled via one or several different approaches: an open-combat approach utilizing a variety of weapons; a stealth approach utilizing the environment to avoid detection and monitoring enemy patterns; or a hacking approach using any hackable object to subdue enemies with traps or distractions, while seeking out objectives via cameras and remotely accessing them. Combat includes a mixture of gun fights - involving lethal and non-lethal fire-arms - and hand-to-hand combat moves, with enemies making use of different methods depending on how the player acts against them in combat (i.e. a guard hit with a punch will use melee attacks). Players can be pursued by enemies when escaping, including hostile drones, but can lose them by utilizing hack-able environmental objects (i.e. vents) and avoiding line of sight with pursuers.

Unlike previous games in the series, Legion features the ability to use multiple characters during a playthrough, each of whom can be recruited from around the game's setting. While the player must choose a character to begin with after the story's prologue chapter, others may be recruited upon completing the initial story missions of the game from anywhere around the game's setting, which can also include those working for hostile factions. Those recruited become operatives that the player can freely switch to at any time, as well as customize with different clothing options, with each recruit-able character maintaining their own lifestyle and occupation when not active (i.e. spending time drinking at a pub). Each character that can be recruited have different traits and skills, based upon their background - a spy operative has access to a silenced pistol and can summon a special spy vehicle to travel around with, armed with rockets; a hooligan operative can summon in friends to help in a fist-fight; a builder operative can make use of large drones for heavy-lifting and a nail-gun for combat; while an "adrenaline junkie" operative can deal more damage, but risk the possibility of being knocked out/dying at any random moments. Operatives can gain experience when used by the player, which allows them to gain additional skills and abilities to improve them, with the player able to provide additional upgrades for all character by spending "tech points" - a collectible scattered around the city, which can be spent on weapon and gadget upgrades.

All potential recruits have an additional statistic, which details whether they can be recruited when approached - their thoughts on DedSec. Some recruits may not join if either they favour those that oppose them (such as a hostile faction), if the player has a character in their roster whom they hate or if DedSec did something to harm another NPC they have good relations with. If a recruit can be brought in, players will be required to complete a mission from them related to a problem they need resolving. An example of such a mission would be helping someone determine why they are being constantly spied on more frequently of late working as a vigilante in shutting down a criminal operation they seek to disrupt. Any character that can be recruited, can be killed during a playthrough by criminal gangs or law enforcement, and thus be permanently removed from the player's roster of playable characters, provided the player has the permadeath option enabled; if not, the character is merely arrested, and can be simply rescued by another operative. If the player loses all their characters from death or arrest, the game ends.

The online component of the game would be introduced through a free post-launch update in December 2020. Players can also join a team of up to four players in cooperative gameplay, sharing progression between single-player and multiplayer modes. They can also access Tactical Ops, which are co-operative missions designed for 4 players, or simply explore London together. The asymmetrical multiplayer mode Invasion would also return. The game also features a competitive multiplayer mode named "Spiderbot Arena" in which players assumes control of a gadget named spiderbot and compete against each other in free for all matches.