สรุปเส้นทาง Unilever ผู้ผลิตสินค้าครอบจักรวาล /โดย ลงทุนแมน
หากเราลองสำรวจของใช้ภายในบ้าน เช่น สบู่ ยาสระผม ผงซักฟอก และน้ำยาล้างจาน
เราก็คงพบเจอชื่อแบรนด์ต่าง ๆ ไม่ซ้ำกัน
แต่หากลองสังเกตอย่างละเอียดแล้ว เราก็จะพบว่าหลายแบรนด์สินค้าที่เราคุ้นเคย
ถูกผลิตขึ้นจากบริษัทเดียวกัน ที่ชื่อว่า “Unilever” ยกตัวอย่างเช่น
- น้ำยาล้างจาน แบรนด์ ซันไลต์
- สบู่ แบรนด์ ลักส์
- ผงซักฟอก แบรนด์ โอโม
ปัจจุบัน Unilever นับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 92 ปี ทำธุรกิจอยู่ใน 190 ประเทศทั่วโลก และมีมูลค่าบริษัท 4.7 ล้านล้านบาท
แล้วเรื่องราวของ Unilever เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของ Unilever นั้น อยู่ในช่วงประมาณปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งผลจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งในช่วงเวลานั้น จำนวนประชากรในทวีปยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เมื่อประชากรเพิ่มขึ้น ความต้องการเนยซึ่งเป็นอาหารที่บริโภคกันอย่างแพร่หลายในยุโรปก็ได้ปรับตัวพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ
แม้จะมีการนำเข้าจากประเทศรอบข้างอย่างไอร์แลนด์และเนเธอร์แลนด์ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ
เรื่องดังกล่าวจึงไปจุดประกายให้ 2 ตระกูลพ่อค้าเนยในเนเธอร์แลนด์คือ Jurgens และ Van den Bergh ที่เป็นผู้ส่งออกเนยไปยังประเทศอังกฤษอยู่แล้ว ได้เริ่มหันมาผลิตเนยเทียม (Margarine) ที่ทำจากไขมันสัตว์ ซึ่งมีราคาถูกกว่าและเก็บรักษาได้นานกว่าเนยแบบปกติทั่วไปที่ทำจากนมวัว
จริง ๆ แล้วเนยเทียมนั้นมีรสชาติที่ไม่ดีนัก แต่จากการแข่งขันและพัฒนาของทั้ง 2 ตระกูลทำให้ในเวลาต่อมา เนยเทียมสามารถนำมาแทนที่เนยดั้งเดิมได้และตลาดเนยเทียมก็ได้เริ่มเติบโตขึ้น
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตลาดเนยดั้งเดิม ก็ได้เข้าสู่ภาวะปกติ มีกำลังผลิตเพียงพอต่อความต้องการและกลับมาหาซื้อได้ง่าย นั่นจึงทำให้ความต้องการเนยเทียมเริ่มปรับตัวลดลง
ทั้ง 2 ตระกูลที่เป็นคู่แข่งกัน จึงได้ตัดสินใจรวมกิจการ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันในปี 1908
ต่อมาในปี 1927 จึงได้ขยายกิจการและเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Margarine Unie”
ซึ่งจะดำเนินธุรกิจผลิตสินค้าจากน้ำมันและไขมันในทวีปยุโรป
จุดนี้เองที่ทำให้ในเวลาต่อมา Margarine Unie ได้ควบรวมกับ Lever Brothers ผู้ผลิตสบู่รายใหญ่ของประเทศอังกฤษ
Lever Brothers นั้นก่อตั้งขึ้นในปี 1885 โดย 2 พี่น้อง William และ James Lever ซึ่งธุรกิจของพวกเขาเติบโตจากการขายสบู่สำหรับซักผ้า ชื่อว่า “ซันไลต์” ที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว ที่มีคุณสมบัติทำให้เกิดฟองได้ง่ายกว่าสบู่แบบดั้งเดิมที่ทำจากไขมันสัตว์
นอกจากประสิทธิภาพของสบู่ที่โดดเด่นแล้ว อีกความแตกต่างหนึ่งของ Lever Brothers
คือ การเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ขายสบู่แบบบรรจุหีบห่อ ติดฉลากสินค้าและแบ่งขายเป็นก้อนเล็ก ๆ
ต่างจากการวางจำหน่ายรูปแบบเดิมที่เป็นลักษณะของการขายส่งแบบก้อนใหญ่
จากโรงงานไปสู่ร้านค้า แล้วร้านค้าเหล่านั้นค่อยแบ่งขายให้กับผู้บริโภคอีกต่อหนึ่ง
ด้วยวิธีการนี้เองทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์และบอกต่อได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้สบู่ของ Lever Brothers เป็นที่นิยมอย่างมากและสามารถวางจำหน่ายไปทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปีหลังจากเปิดตัว
เมื่อธุรกิจสบู่ขยายใหญ่ขึ้น Lever Brothers จึงขยายไปยังธุรกิจอื่น ๆ อย่างเช่น
ในปี 1922 ได้เข้าซื้อ Wall’s ธุรกิจไอศกรีมที่ต่อมากลายเป็นแบรนด์ขายดีที่สุดในโลก
หรือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Viking เนยเทียมที่อุดมไปด้วยวิตามิน
จากการที่ Margarine Unie และ Lever Brothers กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในยุโรป
และทั้ง 2 บริษัทต่างก็อยู่ในอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าจากน้ำมันและไขมันอยู่แล้ว
ทั้ง 2 บริษัทจึงได้มีการเจรจากัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อหยุดการผลิตสินค้าชนิดเดียวกันเพื่อแข่งกันเอง
จนในที่สุด การเจรจาก็ได้จบลงที่ทั้ง 2 บริษัทควบรวมกันเป็น “Unilever” ในปี 1929
หลังจากการควบรวมกิจการ Unilever ก็ได้ผลิตและพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอยู่ตลอดเวลา
จนกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคของโลก
ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการวิจัยและพัฒนากว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อปี
และรู้หรือไม่ว่า แต่ละแบรนด์ที่ Unilever นำไปวางจัดจำหน่ายแม้จะมีชื่อแบรนด์เดียวกัน
แต่สินค้าเป็นคนละชนิดกันก็ได้ เพื่อให้เหมาะสมกับท้องถิ่น เช่น ซันไลต์ ที่คนไทยคุ้นเคยในรูปแบบของน้ำยาล้างจาน แต่ในทวีปแอฟริกาจะสามารถพบเจอในรูปของสบู่สำหรับซักผ้า
หรืออีกกรณีหนึ่งคือความแตกต่างในด้านชื่อแบรนด์สินค้าที่แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน อย่างเช่น ไอศกรีม Wall’s ที่ชื่อแบรนด์นี้เราจะพบเห็นได้ในประเทศไทยแต่จะแตกต่างจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่จะใช้ชื่อว่า Good Humor แต่ยังคงใช้สัญลักษณ์รูปหัวใจเป็นโลโกของแบรนด์ เช่นเดิม
ในปี 2020 Unilever มีรายได้กว่า 1.98 ล้านล้านบาท ซึ่งมาจากสินค้ากว่า 400 แบรนด์ที่วางจำหน่ายอยู่ใน 190 ประเทศ โดยในแต่ละวันมีคนจำนวนกว่า 2,500 ล้านคน
คิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั่วโลกบริโภคสินค้าของบริษัทแห่งนี้
และปัจจุบัน Unilever มีมูลค่าบริษัท 4.7 ล้านล้านบาท
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นเรื่องราวของบริษัท Unilever หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ได้ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 92 ปี
ซึ่งพอเรามองย้อนกลับไปในวันแรกนั้น
ก็คงไม่มีใครคาดคิดว่าบริษัทแห่งนี้ จะเกิดขึ้นจากการควบรวมกันของผู้เห็นโอกาสในการผลิตเนยเทียมและผู้ที่มีไอเดียในการขายสบู่แบบบรรจุหีบห่อ จนกลายมาเป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าให้ประชากรทั่วโลกกว่าพันล้านคน ได้ใช้กันในวันนี้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.unilever.com/our-history.html#timeline+2D+556789+closed
-https://www.youtube.com/watch?v=aflUrStMymg&list=PLED475433C60012FF&index=2
-https://www.youtube.com/watch?v=gCNsYWgY7ZE
-https://en.wikipedia.org/wiki/Unilever
-https://www.unilever.com/Images/annual-report-and-accounts-2020_tcm244-559824_en.pdf
-https://www.companieshistory.com/unilever/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Wall%27s_(ice_cream)
-https://www.unilever.com/our-company/at-a-glance/
同時也有59部Youtube影片,追蹤數超過23萬的網紅Appleが大好きなんだよ,也在其Youtube影片中提到,ここ1週間のニュースのまとめです。公式にApple Musicの新サービスをほのめかしや、AirPods3の噂。5月下旬の新製品ベンチマークや納品時期など割とホットなニュースが出ています。 5月17日13時くらいまでの情報です。その後別の情報が出る可能性はありますがそれは来週扱います。 <引用さ...
「references list」的推薦目錄:
references list 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
J.W. Marriott ผู้ก่อตั้งเชนโรงแรมใหญ่สุดในโลก ที่เริ่มจากร้านขายรูตเบียร์ /โดย ลงทุนแมน
“Marriott” เป็นเชนโรงแรมที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกและมีโรงแรมในเครือกว่า 30 แบรนด์
แต่รู้หรือไม่ว่าอาณาจักร Marriott ที่ก่อตั้งโดยคุณ J.W. Marriott ไม่ได้เริ่มต้นจากธุรกิจโรงแรม แต่เขากลับมีจุดเริ่มต้นมาจากร้านขายรูตเบียร์ A&W
จากร้านขายรูตเบียร์มาเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก
Marriott ผ่านอะไรมาบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เชนโรงแรมขนาดใหญ่ ที่มีโรงแรมอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก จะมีชื่อที่เราคุ้นเคย เช่น Marriott, Hilton, InterContinental และ Hyatt
ซึ่ง Marriott ถือได้ว่าเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก ทั้งในด้านมูลค่าตลาดที่มากที่สุดราว 1.46 ล้านล้านบาท รวมถึงในด้านจำนวนห้องพัก ที่ Marriott มีให้บริการราว 1.4 ล้านห้องพัก ในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก
Marriott มีโรงแรมในเครือกว่า 30 แบรนด์ ซึ่งก็เป็นแบรนด์ดังที่คนส่วนใหญ่คุ้นหู อย่างเช่น JW Marriott, St. Regis, The Ritz-Carlton, Sheraton และ Renaissance
โดยผู้ก่อตั้งอาณาจักร Marriott คือคุณ John Willard Marriott หรือ “J.W. Marriott”
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ธุรกิจดั้งเดิมที่เขาเริ่มต้นขึ้นไม่ใช่ธุรกิจโรงแรม
คุณ John เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1900 ที่รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครอบครัวที่ทำฟาร์มแกะเล็ก ๆ ซึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน
เขาเริ่มค้าขายตั้งแต่อายุ 13 ปี จากการปลูกผักกาดในแปลงที่ดินที่ว่างอยู่ และเขานำเงินรายได้ที่ได้ไปให้พ่อ
จากความสำเร็จในการขายผัก พ่อของ John เลยไว้ใจให้ลูกชายพาแกะ 3,000 ตัว ขึ้นรถไฟไปขายที่เมืองซานฟรานซิสโกด้วยตัวคนเดียวในวัยเพียง 14 ปี ก่อนที่จะถูกขอให้เลิกเรียนเพื่อมาช่วยงานที่บ้านในเวลาต่อมา
เมื่อ John อายุ 19 ปี เขาก็ต้องเดินทางไปเป็นมิชชันนารีที่โบสถ์แห่งหนึ่งในนิวอิงแลนด์เป็นเวลา 2 ปี หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมาบ้านที่เมืองยูทาห์
ระหว่างทางกลับ เขาได้แวะที่เมืองวอร์ชิงตัน ดี.ซี. และเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งซึ่งคนต่อคิวยาวมาก นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ John ได้รับรู้ถึงความนิยมของเครื่องดื่มที่เรียกว่า “รูตเบียร์”
แต่พอกลับมาถึงบ้าน John ก็ต้องเผชิญกับข่าวร้ายเพราะว่าธุรกิจฟาร์มแกะของพ่อเขาล้มละลาย
โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาแกะที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจตกต่ำ
ตั้งแต่นั้นมา John จึงตั้งเป้าว่าเขาจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นและหลุดพ้นจากความยากจนนี้ให้ได้
เขาเลยตัดสินใจกลับไปเรียนต่อให้ได้วุฒิมัธยมศึกษา โดยได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่เคยสอนเขา
ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ ยังช่วยให้ John รับหน้าที่สอนวิชาที่เกี่ยวกับศาสนา เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอม
หลังจากนั้น John ก็ได้เข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ยูทาห์ ซึ่งเขาต้องหาเงินมาจ่ายค่าเทอมจากทุกวิถีทาง ตั้งแต่ขายกางเกงชั้นใน ขนสัตว์ ไปจนถึงการเป็นช่างตัดไม้
จนกระทั่งในช่วงที่เรียนปีสุดท้าย แถวมหาวิทยาลัยของเขาก็มีร้านรูตเบียร์ A&W มาเปิด
ซึ่งคิวยังคงยาว เหมือนกับตอนที่เขาเห็นครั้งแรกที่เมืองวอชิงตัน ดี.ซี.
หลังจากเรียนจบในปี ค.ศ. 1926 John แต่งงานกับ Alice Sheets สาวที่เขาตกหลุมรักและคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งคู่วางแผนที่จะเริ่มทำธุรกิจด้วยกัน และสิ่งแรกที่ John นึกถึงก็คือเครื่องดื่มสุดฮิตอย่างรูตเบียร์
John ใช้เงินเก็บ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ บวกกันเงินที่กู้ยืมมาอีก 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ
คิดเป็นมูลค่าราว 83,000 บาท เพื่อขอซื้อแฟรนไชส์รูตเบียร์ของ A&W
ผ่านไป 1 ปี เขาก็ได้เปิดร้านขายรูตเบียร์เล็ก ๆ ที่เมืองวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งแน่นอนว่าขายดีแบบที่เขาคิดไว้
แต่สิ่งที่เขาลืมคิดถึงไปก็คือ รูตเบียร์ไม่ได้ขายดีทุกฤดู เพราะพอเข้าช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนตกบ่อย และอากาศเริ่มเย็นลง เครื่องดื่มเย็นสดชื่นอย่างรูตเบียร์กลับไม่เป็นที่ต้องการ ยอดขายของทางร้านจึงลดลงเรื่อย ๆ
Alice ภรรยาของเขาเลยเสนอไอเดียว่าควรขายอาหารด้วย เพื่อให้ยอดขายที่ร้านไม่ผันผวนตามฤดูกาลเกินไป
John เห็นด้วยทันที เขาจึงขออนุญาตทาง A&W เพื่อขอเสิร์ฟอาหารที่ร้านด้วย ส่วน Alice ก็ไปขอความช่วยเหลือจากเชฟที่สถานทูตเม็กซิโก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับร้าน จนได้สูตรและวิธีทำอาหารเม็กซิกันมา
ทั้งคู่จึงตั้งชื่อร้านของพวกเขาใหม่ว่า “Hot Shoppes” ซึ่งเป็นร้านขายอาหารเม็กซิกัน แฮมเบอร์เกอร์ และฮอตดอก รวมถึงรูตเบียร์ของ A&W
ผ่านไปปีเดียว Hot Shoppes เปิดเพิ่มได้อีก 2 สาขา ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นร้านแบบ Drive-in หรือการขับรถไปจอดที่ลานจอดรถของร้าน แล้วสั่งอาหารมาทานบนรถ ที่กำลังได้รับความนิยมสุด ๆ ในสหรัฐอเมริกา
หลังจากนั้นไม่นาน ประเทศสหรัฐอเมริกากลับเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ แต่ John และ Alice ก็ยังพา Hot Shoppes รอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้มาได้ แถมยังขยายสาขาเพิ่มมาเป็น 7 สาขาในปี ค.ศ. 1933
แต่ในปีเดียวกันนี้ John ก็ต้องเจอกับข่าวร้าย เพราะเขาตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งหมอบอกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 2 ปี
John จึงหยุดทำงาน และใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว แต่แล้วเรื่องไม่น่าเชื่อที่แม้แต่หมอก็ยังแปลกใจ เพราะอาการของเขาดีขึ้นมาก จนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
หลังจากรักษาตัวจนหายดีและกลับมาทำงานได้แล้ว ในปี ค.ศ. 1937 ซึ่งเป็นช่วงที่การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นที่นิยม John สังเกตว่าลูกค้ามักซื้ออาหารแบบนำกลับบ้านที่ร้าน Hot Shoppes สาขาใกล้สนามบิน เพื่อนำไปทานบนเครื่องบิน
John เลยเกิดไอเดียว่า ให้ Hot Shoppes ทำอาหารกล่องให้กับสายการบินใช้เสิร์ฟบนเครื่องบิน ซึ่งถือเป็นเจ้าแรก ๆ ในขณะนั้น
เมื่อเขานำไอเดียนี้ไปเสนอกับทางสายการบินต่าง ๆ ก็มีสายการบิน Eastern Airlines และ American Airlines ที่ตอบตกลง
มาถึงช่วงต้นทศวรรษ 1940s ร้าน Hot Shoppes ขยายมาเป็น 24 สาขา ซึ่งช่วงนี้เองสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เริ่มต้นขึ้น แต่ Hot Shoppes ก็ยังรอดพ้นจากวิกฤติได้อีกครั้งจากการปรับตัวไปให้บริการอาหารในฐานทัพทหารและสำนักงานรัฐบาล
จนกระทั่งช่วงทศวรรษ 1950s การเดินทางท่องเที่ยวกำลังได้รับความนิยมสูง John เลยสนใจซื้อที่ดินเปล่าที่อยู่ตรงข้ามสนามบินวอชิงตัน เพื่อสร้างโมเทลที่ชื่อว่า “Twin Bridges” ซึ่งเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1957 ก่อนที่ 2 ปีให้หลัง ได้สร้างโรงแรมแห่งที่ 2 ที่ชื่อ Key Bridge Motor
และในที่สุด กิจการโรงแรมของ John Willard Marriott ก็ได้เริ่มต้นขึ้น หลังจากเปิดร้านรูตเบียร์มาได้ 30 ปี
ต่อมาในปี ค.ศ. 1967 John ตั้งชื่อบริษัทของเขาใหม่ว่า “Marriott” ซึ่งใช้เรียกรวมทุกกิจการในเครือ ทั้งโรงแรมและร้านอาหาร
ในช่วงเริ่มต้นของกิจการโรงแรม ก็ได้ลูกชายคนโตของ John กับ Alice ที่ชื่อว่า “J.W. Bill Marriott Jr.” เข้ามาช่วยบริหาร
Bill เรียนด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ โดยภายใต้การบริหารของเขา บริษัทสามารถทำกำไรได้มากขึ้นอย่างชัดเจน จน Bill กลายมาเป็นบุคคลสำคัญที่ได้วางรากฐานธุรกิจและขยายอาณาจักร Marriott
ด้วยผลงานที่โดดเด่นของ Bill จึงทำให้เขาได้รับเลือกเป็นประธานบริษัทในปี ค.ศ. 1964 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็น CEO ในอีก 8 ปีต่อมา
Bill เน้นขยายโรงแรมใกล้สนามบิน และโรงแรมเพื่อการประชุมหรือ Convention โดยสร้างจุดเด่นให้กับโรงแรมของ Marriott ที่มีทั้งห้องจัดประชุมสัมมนา ภัตตาคาร ไปจนถึงลานสเกตน้ำแข็ง
นอกจากนี้ Bill ยังเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ จากการเป็นเจ้าของโรงแรมเอง สู่การรับบริหารโรงแรม และระบบแฟรนไชส์
นั่นจึงทำให้ในปี ค.ศ. 1993 บริษัท Marriott แบ่งการบริหารจัดการออกเป็น 2 บริษัท
บริษัทแรกชื่อ Marriott International ที่จัดการในส่วนของธุรกิจรับบริหารโรงแรมและระบบแฟรนไชส์ ซึ่งดูแลโดยลูกชายคนโต นั่นก็คือ Bill
บริษัทที่สองชื่อ Host Hotels and Resorts ที่จัดการในส่วนของธุรกิจโรงแรมที่ Marriott เป็นเจ้าของเอง ซึ่งดูแลโดยน้องชายของ Bill ที่ชื่อ Richard
อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ที่ช่วยเร่งขยายฐานลูกค้าให้ Marriott ก็คือการเป็นบริษัทโรงแรมแรกของโลก ที่ให้บริการระบบจองที่พักแบบออนไลน์ ในปี ค.ศ. 1995
และกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ Marriott ขยายอาณาจักรโรงแรมได้อย่างรวดเร็วก็คือ “การควบรวมกิจการ”
ปี ค.ศ. 1995 Marriott เริ่มซื้อกิจการครั้งแรก ด้วยการเข้าไปถือหุ้น 49% ในโรงแรม Ritz-Carlton ก่อนที่อีกไม่กี่ปีต่อมาจะเข้าซื้อทั้งกิจการ
แต่การซื้อกิจการที่สำคัญที่สุด เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2016 ภายใต้การนำของ CEO ที่เป็นคนนอกตระกูลคนแรกอย่าง Arne Sorenson
Marriott ได้เข้าซื้อกิจการ Starwood Hotels and Resorts ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์โรงแรมดังมากมาย อย่างเช่น Sheraton, W Hotels และ St. Regis
และในตอนนี้เองที่ Marriott ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก
น่าเสียดายที่ John เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 เขาจึงไม่มีโอกาสได้เห็นความยิ่งใหญ่ของอาณาจักร Marriott ในปัจจุบัน ที่เขาเป็นผู้ริเริ่ม
แต่สิ่งสำคัญที่ตกทอดมาจาก John จนกลายเป็นหนึ่งในดีเอ็นเอของ Marriott ก็คือวัฒนธรรมองค์กร
เพราะ John ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนและดูแลพนักงานเหมือนคนในครอบครัว มาตั้งแต่ช่วงแรกที่เริ่มทำธุรกิจ
เหมือนกับหนึ่งในคำพูดอมตะของเขาที่ว่า
“Take care of associates, and they’ll take care of your customers”
หรือ ดูแลพนักงานของคุณให้ดี แล้วพนักงานเหล่านั้นจะดูแลลูกค้าของคุณต่อเอง
นั่นจึงทำให้ Marriott ไม่ได้เป็นเพียงหนึ่งในโรงแรมที่น่าเข้าพักมากที่สุดเท่านั้น
แต่ในมุมของสถานที่ทำงาน Marriott ยังติดอันดับโลกในด้านบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดเช่นกัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.cnbc.com/2021/08/10/how-marriott-became-the-worlds-biggest-hotel-chain.html
-https://www.washingtonpost.com/archive/politics/1985/08/14/hotel-magnate-jw-marriott-dies-at-age-84/d8cfeda2-6a83-40fc-8126-310233d114f0/
-https://www.entrepreneur.com/article/197668
-https://edition.cnn.com/2012/04/12/business/marriott-hotel-industry/index.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Marriott_International
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_chained-brand_hotels
-https://companiesmarketcap.com/hotels/largest-hotel-companies-by-market-cap/
-https://careers.marriott.com/20-years-fortune-100-list/
-https://www.marriott.com/culture-and-values/j-willard-marriott.mi
references list 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
จากโรคระบาด สู่ปัญหาการเงิน ที่ทำให้ เมสซิ ต้องย้ายทีม /โดย ลงทุนแมน
เรื่องที่สร้างแรงสั่นสะเทือนวงการฟุตบอลมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา
คงหนีไม่พ้นเรื่องการย้ายทีมของ “ลิโอเนล เมสซิ” หนึ่งในนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลก
หลายสิบปีที่ผ่านมา เมสซิ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของบาร์เซโลนา
ภาพที่เมสซิต้องย้ายออกจากบาร์เซโลนาเพื่อไปเล่นให้สโมสรฟุตบอลแห่งใหม่ คงแทบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
ที่น่าสนใจก็คือ ปัญหาสำคัญที่ทำให้เมสซิต้องย้ายทีมด้วยความจำเป็น
ก็เพราะ “ปัญหาทางด้านการเงินของสโมสร”
บทสรุปของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เมสซิลงเล่นให้บาร์เซโลนาอย่างเป็นทางการ มาตั้งแต่ปี 2004-2021
เขาเล่นไปทั้งหมด 778 นัด ยิง 672 ประตูให้กับสโมสร ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของบาร์เซโลนามาจนถึงทุกวันนี้ และคงไม่ง่ายที่จะหาใครมาทำลายสถิติของเขาที่ทำไว้กับบาร์เซโลนา
จุดเปลี่ยนสำคัญของการย้ายทีมของเขาครั้งนี้ ต้องย้อนกลับไปในปี 2013
สหพันธ์ฟุตบอลสเปน ผู้บริหาร ลาลีกา ซึ่งเป็นลีกฟุตบอลอาชีพสูงสุดในประเทศสเปน เริ่มใช้มาตรการควบคุมด้านการเงิน ที่เรียกว่า “Financial Fair Play”
กฎ Financial Fair Play ที่ว่านี้ ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้สโมสรฟุตบอลไหนก็ตามใช้เงินเกินตัว จนอาจนำมาซึ่งการล้มละลายของสโมสรฟุตบอล
โดยจะมีการกำหนด “เพดานค่าเหนื่อย” หรือก็คือ ค่าแรง ที่แต่ละสโมสรจะสามารถใช้ได้ในแต่ละฤดูกาล ให้เหมาะสมกับระดับรายได้และสถานะทางการเงินของสโมสรในแต่ละปี
ก่อนหน้านี้ กฎการเงินที่ว่านี้ ก็ดูไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับสโมสรบาร์เซโลนา เพราะในช่วงเวลาปกติ แม้บาร์เซโลนาจะมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แต่สโมสรก็สามารถหารายได้มากเช่นกัน
สโมสรมีรายได้จากการขายตั๋วเข้าชมการแข่งขัน รายได้จากการขายของที่ระลึก รายได้จากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด และยังมีรายได้ที่เป็นเงินรางวัลจากการชนะการแข่งขันในรายการต่าง ๆ
แต่ปัญหามันเริ่มเกิดขึ้น หลังจากเกิดการระบาดของโควิด 19..
สนาม Camp Nou ของบาร์เซโลนาเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในสเปนและยุโรป มีความจุถึง 99,354 ที่นั่ง จากที่เคยมีผู้ชมเข้าสนามเต็มความจุ ต้องกลายมาเป็นสนามที่ปราศจากแฟนฟุตบอล รายได้จากการขายตั๋วเข้าชมก็หดหายไป
นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่สามารถเดินทางมาเที่ยวชมรังเหย้าของสโมสรได้ แหล่งรายได้สำคัญอีกทางหนึ่งของสโมสร ก็หายไป
เมื่อไม่มีคนมาเที่ยวสนาม รายได้จากการขายของที่ระลึก รายได้จากทัวร์เข้าชมสนาม ก็หายตามไปมากด้วยเช่นกัน
รายได้จาก 3 ช่องทางหลัก ๆ ของสโมสรบาร์เซโลนาหายไปไม่น้อย
ผลประกอบการของสโมสรฟุตบอล บาร์เซโลนา ช่วงที่ผ่านมา
ฤดูกาล 2018/2019 รายได้ 38,900 ล้านบาท กำไร 157 ล้านบาท
ฤดูกาล 2019/2020 รายได้ 33,600 ล้านบาท ขาดทุน 3,800 ล้านบาท
ผลประกอบการที่แย่ลงจนขาดทุน พ่วงมาด้วยปัญหาสำคัญ นั่นก็คือ เพดานค่าเหนื่อย หรือค่าแรงที่สโมสรจะใช้จ่ายให้นักเตะ ก็ลดลงตามไปด้วย ตามกฎ Financial Fair Play
เพดานค่าเหนื่อย ในฤดูกาล 2020/2021 ของบาร์เซโลนา ถูกทางลาลีกา ปรับลดลงจาก 26,400 ล้านบาทต่อปี เหลือราว ๆ 15,000 ล้านบาทต่อปี
ที่น่าสนใจคือ ในปีที่ผ่านมา บาร์เซโลนา มีค่าใช้จ่ายรวมแล้วสูงกว่า 25,000 ล้านบาท ซึ่งเกือบทั้งหมด คือเงินค่าเหนื่อยของนักเตะ
เท่ากับว่า สโมสรต้องลดค่าเหนื่อยของนักเตะลงให้ได้ถึงราว ๆ 10,000 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อให้ไม่เกินเพดานกำหนด
อย่างในฤดูกาลล่าสุดก่อนหน้านี้นั้น สัดส่วนค่าเหนื่อยของนักเตะต่อรายได้ของสโมสรบาร์เซโลนาก็เกินเพดาน Financial Fair Play เช่นเดียวกัน ทำให้บาร์เซโลนาต้องปล่อยนักเตะชื่อดังบางคนออกไป เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
แม้แต่ตัวของเมสซิเอง เขาก็ได้ลดค่าเหนื่อยของตัวเองลง 50% จากก่อนหน้าที่เมสซิได้ค่าเหนื่อยราว ๆ 940,000 ยูโรต่อสัปดาห์ ลดมาอยู่ราว 470,000 ยูโรต่อสัปดาห์
แม้จะลดค่าเหนื่อยลงไปครึ่งหนึ่ง แต่ด้วยเงินระดับนี้ มันก็ยังมากถึงขนาดสามารถเอาไปจ่ายให้สตาร์ดังคนอื่นในทีมรวมกันได้ 2-3 คนเลยทีเดียว
พอมาในปีนี้ ที่เพดานค่าเหนื่อยของสโมสรลดต่ำลงอีก ทางเลือกที่เมสซิและบาร์เซโลนาตกลงกันในที่สุดก็คือ เมสซิจะต้องออกจากสโมสรไป เพื่อให้ค่าเหนื่อยของสโมสรไม่เกินเพดาน และเพื่อไม่ต้องปล่อยนักเตะดัง ๆ หลายคนออกไปแลกกับการรั้งเขาไว้คนเดียว
นี่จึงเป็นเหตุผลทำให้เมสซิ ต้องมองหาสโมสรใหม่ จนในที่สุดเขาได้ตกลงย้ายไปอยู่กับ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง (Paris Saint-Germain F.C.) สโมสรฟุตบอลชั้นนำในฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา ก็เคยมีข่าวว่าเมสซิอยากย้ายทีม เพราะไม่ค่อยลงรอยกันกับผู้บริหารของทีมและผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร
แต่สุดท้ายปัญหานั้นก็เคลียร์จบลงด้วยดี
หลังจากมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหาร และผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร
แต่ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งที่ดูจะจบลงด้วยดี และถึงเวลาที่เมสซิจะต้องต่อสัญญาฉบับใหม่กับบาร์เซโลนา
สัญญาฉบับใหม่นี้ มันกลับไม่สามารถเกิดขึ้นได้
เพราะปัญหาการเงินของสโมสร ที่เกิดจากผลกระทบของโควิด 19..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปัจจุบัน เจ้าของสโมสรปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง คือ กลุ่มทุนที่ชื่อว่า “Qatar Sports Investments” ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Qatar Investment Authority หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของกาตาร์ ที่ปัจจุบัน มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารสูงกว่า 10 ล้านล้านบาท
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Lionel_Messi
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_FC_Barcelona_records_and_statistics
-https://www.sportskeeda.com/football/psg-weekly-wages-lionel-messi-neymar-first-team-stars-revealed-ligue-1-2021-22-mbappe-ramos/3
-https://fcbarcelonalatestnews.com/fc-barcelona-players-wages/
-https://www.cbssports.com/soccer/news/lionel-messi-tops-forbes-list-of-worlds-highest-paid-soccer-players/
-https://www.fcbarcelona.com/en/club/organisation-and-strategic-plan/commissions-and-bodies/annual-reports
-https://www.getfootballnewsfrance.com/2021/ligue-1s-delay-in-new-financial-fair-play-rules-pivotal-in-psg-attempts-to-sign-lionel-messi/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Qatar_Investment_Authority
-https://www.fcbarcelona.com/en/football/first-team/news/2070529/leo-messi-fc-barcelonas-historic-record-breaker
-https://inews.co.uk/sport/football/lionel-messi-contract-transfer-barcelona-deal-la-liga-budget-financial-fair-play-1139932
references list 在 Appleが大好きなんだよ Youtube 的精選貼文
ここ1週間のニュースのまとめです。公式にApple Musicの新サービスをほのめかしや、AirPods3の噂。5月下旬の新製品ベンチマークや納品時期など割とホットなニュースが出ています。
5月17日13時くらいまでの情報です。その後別の情報が出る可能性はありますがそれは来週扱います。
<引用させていただいた記事>
9to5Mac
https://9to5mac.com/2021/05/16/lossless-audio-references-found-in-apple-music-web-app-as-company-teases-special-announcement/
https://9to5mac.com/2021/05/16/m1-ipad-pro-arrives-early/
https://9to5mac.com/2021/05/14/fda-magsafe-pacemaker/
https://9to5mac.com/2021/05/14/apples-chip-shortage-warning/
https://9to5mac.com/2021/05/13/sketchy-rumor-claims-apple-will-launch-airpods-3-on-may-18/
https://9to5mac.com/2021/05/13/mac-shipments-up-94-percent/
https://9to5mac.com/2021/05/12/m1-imac-benchmarks/
MacRumors
https://www.macrumors.com/2021/05/11/m1-ipad-pro-benchmarks/
https://www.macrumors.com/2021/05/16/apple-tv-4k-preparing-to-ship/
https://www.macrumors.com/2021/05/13/m1-ipad-pro-shipping-status/
https://www.macrumors.com/2021/05/14/apple-making-face-id-sensor-chip-smaller/
<関連動画>
2023iPhoneに独自5Gチップ?M1 iMacの壁紙がOS11.3で入手可!青いMacBook?など:Appleの1週間 噂とニュースまとめ・20210510
https://youtu.be/FqOWGqNbK_E
本日出た!iOS 14.5アップデートでマスク着用時にWatchでiPhoneロック解除!その他主要新機能もチェック・watch OS7.4も必要
https://youtu.be/dQRSgYgFpt0
macOS Big Sur 11.3 アップデートでHomePodステレオペアがSafari再生などにも対応したって!その他主要新機能もチェック
https://youtu.be/rTO_ZfFkvks
再生リスト:AirTag
https://youtube.com/playlist?list=PL1bNs6yZxdxnAqE4ZnwFKk7rzQGKzTBRB
再生リスト:2021Appleの噂やニュース
https://youtube.com/playlist?list=PL1bNs6yZxdxlWopvosovZ9AM6EEQOkjsw
撮影機材
・Panasonic Lumix GH5s
・Panasonic Lumix GH5
・Canon Power Shot G7X Mark II
・iPhone 12 Pro(Simフリー)
・iPhone 12 mini(Simフリー)
・iPadPro 11”(Simフリー)
・DJI OSMO Pocket
・Moment iPhone 外付けレンズ&専用ケース
動画編集
Final Cut Pro X
Adobe Illustrator(スライド)
Adobe Photoshop(スライド)
Adobe Character Animator(アニメーション)
※チャンネル全般で使っているものであって動画によって機材アプリは違います。
#Apple
#ニュースと噂
#AppleMusic
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/5Q4_lSM6By4/hqdefault.jpg)
references list 在 Mateusz Urbanowicz Youtube 的最佳貼文
I try to imagine and paint cute Japanese stores to learn how to create things not based on direct references.
* Here is the prints shop link:
https://www.inprnt.com/gallery/mattjabbar/
* I'm also making these based on your prompts. To see the list of ideas already submitted go here:
https://www.evernote.com/shard/s62/sh/a62bd816-2e47-4add-0d4e-1db7ac31d6b6/5a029ccfcf83a3f588fad4c641a0ac51
* All illustrations from this series done so far are on my website, here:
https://mateuszurbanowicz.com/works/newmisegamae/
Tools:
- BiC Evolution HB pencil
- Blackwing Natural pencil
- Mijello watercolors
- IndiGraph fountain pen
- Dark gray waterproof ink by Kakimori
- Waterford White - hot press watercolor paper
Feel free to check out my other stuff:
Gumroad: https://gumroad.com/mateusz_urbanowicz
Patreon: https://www.patreon.com/mateuszurbanowicz
Website: http://mateuszurbanowicz.com
Blog: http://mattjabbar.tumblr.com
Twitter: https://twitter.com/gommatt
Instagram: https://www.instagram.com/mateusz_urbanowicz
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/GWc3CuT6450/hqdefault.jpg)
references list 在 ASMR BlueKatie Youtube 的最讚貼文
SpotifyでASMR配信中!バックグラウンド再生可能です♪
Listen to my ASMR audio on background with Spotify! → https://open.spotify.com/artist/5ilBnMW62Nt42yIqSlbaJ7
色々載せてるSNS:Twitter→https://twitter.com/ASMRBluekatie
Instagram →https://www.instagram.com/asmrbluekatie/
Hi guys it's Katie!
Today i filmed asmr with my little brother andy! it was super fun to film it and edit it and i hope you like it too! its a little chaotic and we were constantly making references to vines and memes like an annoying gen z kid but please forgive us lmao Also we speak a bit in Dutch in the video lol Anyways I hope you guys like it! Thank u for watching! Please follow my twitter, instagram and subscribe&like? love u guys and have a good night??
どうも!けいとです。今回は弟がASMRに初挑戦しました!全体的にカオスてすが少しでもリラックスしていただけたら嬉しいです。ご視聴ありがとうございます!高評価、チャンネル登録、通知、ツイッター&インスタフォローよろしくおねがいします^^励みになります!みんないつもありがとう おやすみ??
Please help me put subtitles on my videos! x
字幕をつけてくださる方がいればご協力よろしくおねがいします!
https://www.youtube.com/timedtext_cs_panel?tab=2&c=UCAZpHV_W-0lA4BJuorbn-FQ
パトロンPatreon, Thank you so so much for the support!! 応援本当にありがとうございます!:https://www.patreon.com/ASMRBluekatie
Discord ディスコード: https://discord.gg/xcJWfwn
End screen music by Sir. Dayo: https://www.youtube.com/watch?v=AOhBpkr_0g0
PLAYLIST 子守唄/Lullabies ASMR・音フェチ Singing you to sleep
https://www.youtube.com/playlist?list=PLTQjT2yvOmsWuWviuIXTkn996GMkUm4qa
音フェチ動画✨ASMR videos!!
https://www.youtube.com/playlist?list=PLTQjT2yvOmsUtvrv1SFhOj7C9bGVnf6W1
English ASMR videos✨
https://www.youtube.com/playlist?list=PLTQjT2yvOmsUzmK3KVpb6qRFlxPJduxA8
Subscribe! チャンネル登録よろしくです!
https://www.youtube.com/c/ASMRBlueKatie
#ASMR #音フェチ
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/o8Ty1_PeIFA/hqdefault.jpg)