The Haunting of Hill House (สามารถดูได้ใน Netflix)
• ขึ้นแท่นบ้านผีสิงอันดับหนึ่งในใจเราเรียบร้อย สามารถสร้างบรรยากาศความหลอนไปพร้อม ๆ กับสตอรี่ที่แข็งแรงมาก
• ซีรีส์จริง ๆ หนักไปทางดราม่าระหว่างพี่น้อง แต่สามารถใช้ความสยองขวัญเป็นฟังค์ชั่นขยายและกระตุ้นเรื่องราวให้เข้มข้น
• เหมือนงานของไมค์ ฟลานาแกน อย่าง Oculus, Doctor Sleep, และ Gerald's Game ที่เอาบาดแผลในวัยเด็กมาแสดงให้เห็นถึงผลกระทบตอนเป็นผู้ใหญ่
• ชอบความเป็นซีรีส์ที่ออกตัวชัดเจนว่ามีผีนะ แต่พยายามอธิบายสิ่งลี้ลับด้วยวิทยาศาสตร์ตลอดเวลา เอาจิตวิทยามาบรรยายพฤติกรรม, เอาพันธุกรรมมาอ้าง, เอาฝันร้ายหรือภาพหลอนมากลบเกลื่อนสิ่งที่ยากจะอธิบาย
• บ้านผีสิงนี่คือแบบ ถ้ากูเป็นลูกบ้านนี้นะ กูหนีออกจากบ้านไปนานแล้ว ไม่อยู่แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย
• สิ่งที่ต้องยกนิ้วให้เป็นพิเศษคือ match cut ตัดต่อข้ามเวลาไปมาได้ลื่นไหลสุด ๆ ใช้ match cut เนียนกริบตลอดทั้งซีซั่น คือดูออกเลยว่ากำกับตามสตอรี่บอร์ด คนตัดต่อสบายมือเลยเพราะไม่ต้องออกแบบใหม่เอง
• รู้ก่อนดูว่าซีรีส์มีผีซ่อนอยู่ในหลายฉาก แต่ด้วยความที่เราดูจอโทรทัศน์ไม่สว่างและผีที่ปรากฎมันสัดส่วนแค่ประมาณ 1/50 ของจอเงี้ย เอาจริงก็แทบไม่สังเกต แค่รู้ว่ามีแล้วมันน่ากลัวดีออก (ส่วนผีที่ตัวใหญ่โผล่โต้ง ๆ อันนั้นสยองดี)
• ความ horror ของซีรีส์คือเอนไปทางหลอน มีใช้ jump scare ตุ้งแช่น้อยครั้งมาก แต่ครั้งที่ใช้รุนแรงจนสะดุ้งเลย คือตุ้งแช่จังหวะไม่คาดคิดแล้วมาแบบเหี้ยมาก (ไม่ได้ชม)
• ตอนที่ชอบสุดในซีรีส์คือ ep. 5 และ 6
• e.p. 5 เฉย ๆ มาตลอดทั้งตอน จนกระทั่งฉากจบร้องเชี่ยยยยยย (อันนี้ชม) ครีเอทเว่อร์ หนังผียุค 2018 ต้องมาเลเวลนี้แล้ว
• ส่วน e.p. 6 ลองเทคระดับขึ้นหิ้ง บ้าพลังมาก งานเคลื่อนกล้องไม่หวือหวา แต่การใช้ลองเทค 15-5-20-10 นาที คือโชว์ระเบิดพลังการแสดงสด ๆ กระทั่งนักแสดงเด็กยังเล่นกันไม่หลุดอารมณ์ แถมกล้องหมุนแต่ละครั้งต้องลุ้นว่าจะเจออะไรไม่คาดฝันอีก
• ฉากหลอนที่ชอบสุดอยู่ใน e.p. 8 เป็นตอนที่พ่อเริ่มเปิดใจคุยกับสตีฟ (พี่ชายคนโต) ในรถ ที่พูดถึงช่างซ่อมนาฬิกา ถึงกับต้องย้อนดูเลย อีกฉากที่ชอบคือตอนลุคเจอผีมาเอาหมวกคืน กำกับจังหวะน่ากลัวดี
• 5 ตอนแรกเหมือนเป็นการแบ่งสัดส่วนให้พี่น้องทั้ง 5 คนได้เวลาของตัวเองคนละตอน ซึ่งก็ไปแตะเรื่องเหนือธรรมชาติด้วย คือตอน Touch และ The Twin Thing ตอนฝาแฝดเชื่อมจิตกันนี่ชอบเรื่องของลุคมาก จังหวะเล่าหลอนเว่อร์
• ซีรีส์มันเล่าเหมือนเป็น Vantage Point ด้วย เล่าจากสายตาแต่ละคน ซึ่งในสถานการณ์เดียวกันพอคนละมุมมองก็จะเข้าใจทุกฝ่าย แล้วได้อารมณ์ของฝ่ายที่ถูกเล่าทีหลังโดยยังเข้าใจฝ่ายที่ถูกเล่าก่อน
• ขัดใจอย่างเดียวคือ e.p.10 แหม่ง ๆ นิดหน่อย แหม่งไม่ได้หมายถึงแย่ แค่รู้สึกว่าบางปมมันมาขมวดปุ๊บปั๊บรวบรัดมาทางนี้เกินไปแบบไม่ได้ถูกปูให้คนดูพร้อมรับมือ แถมเซ็ตอารมณ์ใหม่ขึ้นมาหลุดจาก 9 ตอนแรก เฉลยแบบกึ่ง ๆ จะเป็น twist บิดไปอีกอารมณ์ ซึ่งแหม่งมากที่โผล่มาโทนนี้ แหม่งแบบลังเลเลยว่าเกือบต้องลดเกรด
-------------------------------------
กระบวนการรับมือกับสิ่งลี้ลับของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ประสบการณ์จากบ้านผีสิงในวัยเด็กส่งอิทธิพลต่อเส้นทางชีวิตตอนเป็นผู้ใหญ่ของแต่ละคน 'สตีฟ' (Michiel Huisman) พี่ชายคนโตเอาประสบการณ์ที่พี่น้องแชร์และตัวเองเจอไปเขียนเป็นนิยายสยองขวัญขายดีทั้งที่ตัวเองไม่เชื่อเรื่องพวกนี้, 'เชอร์ลีย์' (Elizabeth Reaser) พี่สาวของบ้านเยียวยาความเจ็บปวดจากความสูญเสียในวัยเด็กด้วยการมาเป็นคนดูแลจัดงานศพ, 'ธีโอดอร่า' (Kate Siegel) ลูกคนกลางศึกษาจนจบปริญญาเอกเพื่อเป็นจิตแพทย์เด็ก แน่นอนว่าชีวิตวัยเด็กของเธอต้องเจอเรื่องประหลาดร่วมกับพี่น้องที่เหลือ, แต่ 'ลุค' (Oliver Jackson-Cohen) น้องชายรับมือกับประสบการณ์หลอนจากวัยเด็กไม่ไหวกลายเป็นคนติดยาที่พี่น้องไม่เชื่อถือ, และ 'เนลล์' (Victoria Pedretti) น้องสาวยังคงหวาดผวาจากสิ่งที่ตามหลอกหลอนในวัยเด็ก ต้องปรึกษาแพทย์ด้านการนอนและหาหมออยู่เป็นประจำ
.
ในขณะที่ซีรีส์ขายความเป็นผีล้วน ๆ แต่ทุกอย่างกลับถูกอธิบายด้วยเหตุและผลเสมอ ไม่ว่าจะเป็นยามที่ลูกเจอผีก็ถูกอธิบายว่าเป็นฝันร้ายหรือเพื่อนในจินตนาการ, พฤติกรรมผิดปกติถูกอธิบายในเชิงจิตวิทยาไปเสียหมด, เช่นเดียวกับการทำรีเสิชหาเรื่องเขียนนิยายของสตีฟ ที่ไปเจอคนเล่าถึงคนตายกลับมาหา เขาก็อธิบายเรื่องหยดน้ำว่าเป็นหลังคารั่ว และเสียงแตรก็มาจากความที่บ้านอยู่ติด 3 แยกที่รถสวนกันบ่อย ทุกคนเจอเรื่องผิดปกติกันหมดแต่กลับใช้ชีวิตกันดูเป็นปกติเพราะการอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ ปฏิเสธสิ่งลี้ลับว่าไม่มีอยู่จริง ส่วนคนที่ทนไม่ไหวก็แก้ปัญหาด้วยการติดยาหรือฆ่าตัวตายไปเลย
.
ทำให้ซีรีส์มันมีมุมให้แตะประเด็นเยอะแยะไปหมด หนึ่งในสาเหตุที่เราชอบ e.p. 5 ต่อเนื่องถึง 6 คือการพูดถึงเนลล์ เป็นตัวละครที่ถูกทำให้ล่องหนไม่มีตัวตนเพราะไม่มีใครสักคนสนใจจะฟังปัญหาของเธอ การจบฉากด้วยประโยคที่ว่า "ฉันอยู่ตรงนี้ ทั้งกรีดร้องทั้งตะโกนแต่ไม่มีใครเห็นเลย" จึงเป็นอะไรที่ร้าวรานมาก เธอเจอผีคอหักตั้งแต่เด็กแต่ไม่มีคนเชื่อ เธอรับมือกับการสูญเสียแม่และสามีได้ไม่ดีแต่ไม่มีพี่น้องคนไหนอยู่เคียงข้างหรือเข้าใจเธอ ฉากพี่ ๆ ไม่รับโทรศัพท์ของเธอคือใจพังไปหมด
.
มันมีส่วนที่เราอินเหมือนกับที่ชอบ e.p. 4 The Twin Thing ที่เป็นเรื่องของลุค เพราะเขาคือคนที่เห็นวิญญาณตามติดแต่พูดกับพี่น้องคนไหนก็ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเชื่อ เหมือนถูกทอดทิ้งให้เป็นเด็กไม่รู้จักโต เรื่องจะเลิกยาก็ไม่มีใครเชื่อมั่นหรืออยู่เคียงข้าง ดูแค่นี้ก็เจ็บปวดแล้วที่คนในครอบครัวไม่ช่วยประคองหรือเอาใจช่วยในความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เลิกยาได้ 30 วัน ซ้ำคอยแต่จะคิดว่าจะหาเงินไปเสพยาใหม่ บางทีลุคแค่ต้องการที่พึ่งที่ไม่ทำให้ตัวเองรู้สึกด้อยค่าหรือห่วยแตก ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเจอมาตลอดตั้งแต่เด็ก ทั้งยาและผีไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แต่จะผ่านไปได้นั้น สำหรับบางคนไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองคนเดียว แค่มีมือใครสักคนช่วยประคองก็เพียงพอแล้ว
.
ภาพที่เห็นจึงเป็น 5 พี่น้องที่จวนเจียนจะแตกสลาย ยังมีสายใยเล็ก ๆ คอยผูกพันกันไว้อยู่ ประสบการณ์จากวัยเด็กในบ้านผีสิงทำให้แต่ละคนกำหนดชะตาชีวิตตัวเองแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็ส่งผลต่อปัจจุบันอยู่ดี มันมีผลกระทบจากการเชื่อในความคิดตัวเองสูงจนทำให้มองพี่น้องคนอื่นด้วยอาการทางจิต ปิดกั้นตัวเองจากปัญหาของคนอื่น การเปรียบเปรยผีเป็นความหวาดกลัวในใจ แต่ละคนย่อมเลือกวิธีต่อสู้กับความกลัวแตกต่างกันออกไป ในบางทางอาจจะประคองไปได้ด้วยการเก็บความลับ หรืออาจจะเลือกเปิดเผยความกลัวออกมา ที่เลวร้ายคือความไม่รู้ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่คือปัญหา ผีอาจจะไม่ใช่การเปรียบเปรยในมุมนี้ที่ดี แต่ซีรีส์ก็ใช้บ้านผีสิงมาบอกเล่าบาดแผลที่เป็นรอยข่วนติดตัวได้อย่างดี
************ เปิดเผยตอนจบ ************
จุดที่แหม่งจนเกือบจะลดเกรดคือเรารู้สึกว่า 9 ตอนถูกเล่าด้วยน้ำเสียงแบบหนึ่งคือดราม่าขัดแย้งภายใต้บ้านผีสิง แต่อยู่ดี ๆ ตอนจบดันบิดมาพูดเรื่องความรักและการเปรียบเปรยผีกับความกลัว/ความลับต่าง ๆ ซึ่งแหม่งมากพอสมควร ไม่นับความพยายามจะซึ้ง ซึ่งตอนอื่น ๆ ก็มีฉากซึ้งแบบปล่อยบรรยากาศและอารมณ์เป็นไปโดยอัตโนมัติ แต่ e.p.10 คือบิ๊วผ่านไดอะล็อกยืดยาวและดนตรีประกอบชวนซึ้งหนักมาก แถมจังหวะผีก็หลุดไปจากที่เคยเล่ามา มีผีเคาะหัวเงี้ย (อย่าผวนนะ) หรือการเล่าถึงผีก็ถูกเปลี่ยนบรรยายกาศไปพอสมควร ตั้งตัวไม่ค่อยทันกับความเปลี่ยนแปลงของโทนที่กะทันหัน ซึ่งอย่างที่บอกว่ามันไม่ได้แย่ แค่แหม่ง ๆ พอปล่อยเวลาสักพักก็คิดว่าคนทำซีรีส์เลือกจบแบบดูมีชีวิต มีหัวใจ ซึ่งก็ดีและงดงาม แต่จะดีกว่านี้ถ้าหาวิธีเล่าให้กลมกล่อมกว่าหรือไม่หลุดโทนมากเกินไป
Creator: Mike Flanagan (ผู้กำกับ Hush, Oculus, Doctor Sleep, Ouija: Origin of Evil)
10 Episodes (เฉลี่ยตอนละ 60 นาที)
A+
#หนังโปรดxซีรีส์Netflix
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過79萬的網紅Fah sarika,也在其Youtube影片中提到,จะสิ้นปีแล้วก็ต้องมาแชร์ของที่ใช้แล้วชอบประจำปีกันตามธรรมเนียมเนอะ ปีนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่น่าสนใจเข้ามาเยอะมากๆ ไม่ใช่แค่สกินแคร์และเมคอัพอย่างเดียว ...
the haunting of hill house touch 在 stu sis Facebook 的精選貼文
[86021] 27141. TUT - Holy Water (2015)★★
[86022] 27142. Steven Tyler - Love Is Your Name (2015)★★
[86023] 27143. Satra B.E.N.Z. - Vocile (2015)★★
[86024] 27144. Sasha Go Hard - Im A Threat (2015)★★
[86025] 27145. Rah Swish - 50 Bars (2015)★★
[86026] 27146. 鬼入侵"The Haunting of Hill House" Touch (2018)★★8.6/10 - 211 票__Mike Flanagan
[86027] 27147. 鬼入侵"The Haunting of Hill House" Open Casket (2018)★★8/10 - 258 票__Mike Flanagan
[86028] 27148. 鬼入侵"The Haunting of Hill House" Steven Sees a Ghost (2018)★★8.5/10 - 411 票__Mike Flanagan
[86029] 27149. Nusky & Vaati - Fantôme (2015)★★
[86030] 27150. Novella - Land Gone (2015)★★
the haunting of hill house touch 在 Fah sarika Youtube 的最佳貼文
จะสิ้นปีแล้วก็ต้องมาแชร์ของที่ใช้แล้วชอบประจำปีกันตามธรรมเนียมเนอะ ปีนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่น่าสนใจเข้ามาเยอะมากๆ ไม่ใช่แค่สกินแคร์และเมคอัพอย่างเดียว ใครกำลังตามหาอะไรไปฝากปีใหม่อาจจะได้ไอเดียด้วย หรือจะดูไว้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจให้ตัวเองก็ได้นะ 5555
FAVOURITE OF THE YEAR 2018
-หนังสือ เงิน หรือ ชีวิต Your Money or Your Life
-ZARA collection women/basic Tank Top
-LAORA active C serum
-YSL All hours Foundation Stick
-LAMER renewal oil
-AKINS Aqua Veil Protect
-Philosophy Lotion hydratable pour le corps
-DR.JAMES Stretch Mark Cream
-GENTLUCA oil and sweat blotter
-PIPPER standard Multi Purpose Cleaner
-HAWAIIAN Tropic silk hydration protective
-Neutrogena deep clean energising
-DR.JAMES Acne & Freckle Facial Foam
-SK-II Facial treatment essence
-kiehl's superbly efficient anti-perspirant & deodorant cream
-L'oreal eye and lip makeup remover
-EXCEL Skinny Rich Shadow #SR03
-SIVANNA COLORS velvet eyeshadow #01
-JULA’S HERB moringa repair gel
-FRESH rose face mask
-CLARINS Double serum
-Laura mercier Matte radiance baked powder Highlight-01
-MILK MAKEUP glitter stick
-ANASTASIA clear brow gel
-DEJAVU Tiny sniper
-Glossier Boy brow
-Softne gentle lip balm
-MUJI lip gloss
-NYX lingerie gloss #LLG08
-YSL liquid colour balm N11
-CANMAKE creamy touch liner
-Maybelline Instant Age rewind
-Heroine Make Lonng and curl mascara
เพลง
-PAPOOZ
หนัง/ซีรี่ส์
-The Haunting of Hill House
-Bohemian rhapsody
-FOOD WAR
เกมส์
-Assassin's creed origins
-hide.io
Video ที่เกี่ยวข้อง
https://www.youtube.com/watch?v=cK4iAjzAoas&t=79s
https://www.youtube.com/watch?v=N50YojCSt7Q
MUSIC :
Old Bossa by Twin Musicom is licensed under a Creative Commons Attribution license (https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
Artist: http://www.twinmusicom.org/
Intractable by Kevin MacLeod is licensed under a Creative Commons Attribution license (https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
Source: http://incompetech.com/music/royalty-free/index.html?isrc=USUAN1100194
Artist: http://incompetech.com/
Long Stroll by Kevin MacLeod is licensed under a Creative Commons Attribution license (https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
Source: http://incompetech.com/music/royalty-free/index.html?isrc=USUAN1100174
Artist: http://incompetech.com/
Rubix Cube by Audionautix is licensed under a Creative Commons Attribution license (https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
Artist: http://audionautix.com/
Video Editing - Final cut pro
Fanpage : https://www.facebook.com/fahofficial/
IG : https://www.instagram.com/fahsarika/
#ฟ้าษริกา