เปิดประเด็นข้อเท็จจริง “จริงหรือไม่? อเมริกาและประเทศพันธมิตร ไม่อนุญาตให้คนจีนไปเรียนอีกต่อไป"
.
จริงๆมีคนถามมาตั้งแต่เมื่อวันก่อน และตอบไปในข้อความส่วนตัวแล้ว ถึงกรณีมีการโพสต์เนื้อหาบนโลกโซเชียลว่า "อเมริกา และหลายประเทศในยุโรปแบนนักศึกษาจีน" เลยอยากเขียนถึงเรื่องนี้สักหน่อย เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับทุกคนในพิจารณาข้อเท็จจริงครับ
.
1. อเมริกาไม่ได้ "ห้าม" หรือ "ไม่อนุญาต" นักศึกษาจีนเข้าไปเรียนที่อเมริกาอีกต่อไป เหมือนกับที่มีการเขียนโพสต์ออกมาและแชร์ไปเป็นจำนวนมากก่อนหน้านี้ ยังคงมีนักศึกษาจีนได้รับการตอบรับเพื่อเข้าเรียนในอเมริกา และเริ่มเดินทางไปยังอเมริกาแล้วโดยเฉพาะเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากอเมริกาผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดในการขอวีซ่าและเดินทางเข้าอเมริกา โดยอนุญาตให้นักเรียนจีนเดินทางเข้าอเมริกาได้ สำหรับโปรแกรมการศึกษาที่จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2021 เป็นต้นไป มีเงื่อนไข “เดินทางเข้าอเมริกาล่วงหน้า ไม่เกิน 30 วัน ของเวลาเปิดเทอม - เริ่มคอร์ส”
.
แต่ต้องยอมรับว่า "มีข้อจำกัดมากขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น จากวิกฤติโควิด ค่าตั๋วค่าเดินทางแพงขึ้น ตามข้อมูลจาก SCMP (South Morning China Post) สื่อเอกชนที่รายงานเรื่องจีน นำเสนอสกู๊ป "The high price Chinese students pay for university in the US during the Covid-19 pandemic" เผยแพร่ 21 สิงหาคม 2564 ระบุ "ค่าตั๋วเครื่องบินจากจีนเข้าอเมริกา ราคาสูงมากทีเดียว ตัวอย่างเช่น ตั๋วเที่ยวเดียวจากปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ ไปยังปลายทางมหานครนิวยอร์ก บอสตัน หรือเมืองใหญ่อีกหลายเมืองในอเมริกา ต้องจ่ายเงินสูงถึงราว 20,000 หยวน ( ประมาณ 1 แสนบาท)"
.
2. เรื่องของการเมือง มีผลกระทบจริงต่อการเรียนต่อในอเมริกาของนักเรียนนักศึกษาจีน แต่ยังสามารถไปได้อยู่ ไม่ใช่ ห้าม 100% ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น โดยในบทความของ SCMP (ที่อ้างอิงข้างบน) ยังระบุคำสัมภาษณ์นักศึกษาจีน
“ความสัมพันธ์ของสองประเทศยังคงมีปัญหา และกระแสชาตินิยมในจีนยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ การตัดสินใจเรียนต่อในอเมริกาไมใช่เรื่องง่ายเลย แต่หวังว่าจะคุ้มค่ากับเงินและอุปสรรคปัญหาต่างๆที่เจอ”
.
3. ตั้งแต่ช่วงสงครามการค้าจีนอเมริกาอย่างหนักเมื่อช่วงปี 2019 อเมริกาได้ประกาศแบนหลายสินค้าและบริษัทของจีน อย่างเช่น Huawei ซึ่งไม่เว้นแม้แต่สถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยในจีนที่โดนแบนไปทั้งหมด 6 แห่ง (รวมถึงมหาวิทยาลัยที่อ้ายจงเรียนจบมา) โดยล้วนเกี่ยวข้องกับสายเทคโนโลยีและวิศวกรรมของจีน มีชื่ออยู่ในบทความของสื่อจีน South China Morning Post เมื่อปี2015 ว่า เป็น TOP5 มหาวิทยาลัยจีนที่ทำโปรเจคลับและสำคัญสุดๆให้แก่จีน
.
ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าสถาบันที่มีอยู่ในรายชื่อแบนของอเมริกา ผมจึงสอบถามไปยังเพื่อนคนจีนที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัยแห่งนั้น โดยรับคำตอบว่า “เคยมีเหมือนกันที่อาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษาปัจจุบัน และศิษย์เก่า รู้สึกว่า “ขอวีซ่าเข้าอเมริกายากขึ้นจริง”
.
4. ปี 2020 อเมริกาประกาศ “แบนและยกเลิกวีซ่านักศึกษาแก่นักศึกษาจีน” อย่างน้อย 2 รอบ สืบเนื่องมาตั้งแต่ความขัดแย้งทางการค้าในสงครามการค้าสองประเทศ โดยเหตุผลที่ยกเลิกวีซ่า อเมริกายกเหตุผล “นักศึกษาจีนเหล่านี้ มีความเกี่ยวข้องกับทางการทหารจีน และขโมยข้อมูลสำคัญของทางอเมริกาไปให้แก่ทางจีน” คาดว่ามีนักศึกษาจีนได้รับผลกระทบอย่างน้อย 3,000 – 5,000 คน จากจำนวนนักศึกษาจีนทั้งหมดที่เรียนในอเมริกาช่วงปีการศึกษา 2019-2020 372,000 คน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของนักศึกษาต่างชาติหลักล้านคนในอเมริกา (อ้างอิงตัวเลขจาก China Daily สื่อจีน)
.
มีนักศึกษาจีนบางคนที่โดนแบนให้สัมภาษณ์กับสื่อ อย่างเช่น นักศึกษาหนุ่มจีนนาม “Dennis Hu” ให้สัมภาษณ์ต่อ CNN ว่า “เดินทางกลับจากอเมริกาไปยังบ้านในประเทศจีน เพื่อฉลองตรุษจีน (ช่วงจีนเกิดระบาดโควิด) และจะกลับไปต่อวีซ่าอเมริกา เพื่อกลับไปทำปริญญาเอกทางด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ให้จบ แต่ปรากฏว่าเขาเป็น 1 ในนักศึกษาจีนนับพันคนที่โดนแบนวีซ่า ไม่ให้กลับไปศึกษาต่อในอเมริกา และแน่นอนว่า เขาก็เหมือนกับทุกคนที่โดนแบน ยืนยัน ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆหรือเป็นสายลับให้กับรัฐบาลจีน”
.
5. เรื่องราวของความขัดแย้งทางการค้าและการเมือง ส่งผลกระทบต่อการไปเรียนอเมริกาของคนจีนมาสักพักใหญ่ๆแล้ว แต่ไม่ได้เป็นการแบนแบบหว่านแห ทุกมหาวิทยาลัย ทุกคน
“เหตุผลหลักๆมาจากประเด็นความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ การเกรงกลัวว่าข้อมูลสำคัญจะหลุดรั่วไหลไปยังรัฐบาลจีนและกองทัพจีน ผ่านทางนักเรียนนักศึกษาและนักวิจัยจีน โดยเฉพาะทางสายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือเรียกรวมว่า STEM
.
บทความบนเว็บไซต์ Global Times สื่อกระบอกเสียงจีน ที่เผยแพร่เมื่อกรกฎาคมปีนี้ (2021) รายงานข้อมูล “ปัจจุบัน อเมริกาปฏิเสธวีซ่าแก่นักเรียนจีนที่ตั้งใจจะไปเรียนทางสาย STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) มากกว่า 500 คน”
.
6. อีกหนึ่งบทความบนเว็บไซต์ Global Times เมื่อพฤษภาคม 2021 Global Times รายงานข้อมูลจาก Gewai Education บริษัทแนะแนวศึกษาต่ออเมริกา ซึ่งเผยข้อมูลการขอวีซ่าอเมริกาของนักเรียนจีนจำนวนหนึ่งโดนปฏิเสธ เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงอยู่ในหน่วยงานเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศจีน รวมถึง หน่วยงานปราบปรามคอรัปชั่นและตรวจคนเข้าเมือง
.
7. จากมาตรการของประเทศสหรัฐอเมริกา เข้มงวดเรื่องวีซ่าแก่นักเรียนนักศึกษาจีน รวมถึงนักวิจัยจีน ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคง เคยมีการนำเสนอข่าวออกมาโดยสื่อต่างประเทศเหมือนกันว่า ประเทศพันธมิตรของอเมริกาบางประเทศ มีการดำเนินนโยบายคล้ายๆกันนี้ อย่างเช่น ญี่ปุ่น ตามการรายงานข่าวของ The Straits Times
.
และ แคนาดา ก็เคยมีการเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยแคนาดา ระมัดระวังการทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยจีน เพราะข้อมูลอาจรั่วไหลไปถึงรัฐบาลจีน อย่างยิ่งทางการทหารจีน เป็นความวิตกกังวลและกลัวในประเด็นเดียวกันกับที่อเมริกาให้เหตุผลแบนวีซ่านักเรียนนักศึกษาและนักวิจัยจีน (ตามการรายงานของ CBC สื่อแคนาดา)
.
8. จีนตอบโต้นโยบายเข้มงวดแก่นักศึกษาจีนของอเมริกามาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2019 สงครามการค้าจีนอเมริกา รัฐบาลจีนออกประกาศเตือนประชาชนถึงการไปเรียนต่อและเที่ยวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาให้ระมัดระวังในเรื่ิองของการขอวีซ่าที่มีข้อจำกัดมากขึ้น ให้ระยะเวลาอยู่ในอเมริกาลดน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะส่งผลโดยตรงต่อนักศึกษาจีนที่ต้องการไปเรียนต่อที่อเมริกา
.
9. ไม่ใช่อเมริกา “เพิ่มข้อจำกัดในการขอวีซ่าแก่ชาวจีน เพียงอย่างเดียว” ประเทศจีนเองก็เข้มงวดแก่ชาวอเมริกา อย่างเช่นเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2020 ทางการจีน ออกมาตรการ ‘เพิ่มข้อจำกัดในการออกวีซ่าแก่ชาวอเมริกัน ที่มีพฤติกรรมเชิงลบต่อเรื่องราวของจีนและฮ่องกง โดยในปี 2020 เป็นปีที่อเมริกายกเลิกวีซ่านักเรียนจีนหลักพันคน ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญและสื่อต่างประเทศ อาทิ ABC News และ Wall Street Journal มองว่า “เบื้องลึกไม่ใช่ประเด็นความมั่นคงอย่างเดียว แต่เป็นการต่อต้านการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จีนนำไปใช้กับฮ่องกง”
.
10. การแก้ไขปัญหาสมองไหล-หัวกะทิ-ประชาชนผู้มีความสามารถไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ อย่างยิ่งในอเมริกา ให้กลับมายังประเทศจีน มีส่วนมาผลจากความขัดแย้งทางการเมืองและปัญหาทางการค้าจีนอเมริกา ทำให้คนจีนในอเมริกาเรียนจบ หรือทำงานในอเมริกาอยู่แล้ว ย้ายกลับจีนมากขึ้น แต่ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด เพราะจีนดำเนินนโยบายดึงดูดคนจีนเก่งๆให้กลับมาประเทศจีน ตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามการค้าจีนอเมริกาและการขัดแย้งทางการเมืองอย่างหนัก
.
จากประสบการณ์จริงของอ้ายจง สมัยไปทำวิจัยที่เมืองซีอานปี 2014 ตอนนั้นที่แลปดีลกับมหาวิทยาลัยในอเมริกาและยุโรปเยอะมากในด้านทำการวิจัย
.
ภายใต้การร่วมมือแต่ละครั้ง ทางแลปและมหาวิทยาลัยจะดีลโดยตรงส่วนตัวกับอาจารย์-ศาสตราจารย์จีนที่ทำงานในอเมริกา ให้มาเป็นอาจารย์และนักวิจัยในมหาวิทยาลัยจีน โดยดึงดูดด้วยผลตอบแทนและโอกาสก้าวหน้าทางอาชีพ เพื่อให้คนเก่งหัวกะทิเหล่านี้มั่นใจว่า “คุ้มค่าในการกลับไปยังประเทศบ้านเกิดเมืองนอน” (อ่านบทความเต็มที่ผมเคยเขียนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาสมองไหลของจีน ได้ที่ https://www.blockdit.com/posts/60785b284bbb3e0c2e04f976)
.
#สรุป อเมริกาและประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศพันธมิตรของอเมริกา มีข้อจำกัดในการให้วีซ่าแก่ประชาชนชาวจีนจริง ในการเข้าศึกษาต่อและทำวิจัย แต่ขอเน้นย้ำว่า “ไม่ใช่การจำกัด หรือแบนแบบ 100%“ และจากตัวเลขตามที่มีรายงานออกมาจากสื่อต่างประเทศและสื่อจีนเอง จำนวนนักศึกษาจีนที่ได้รับผลกระทบ เอาแค่ในประเทศอเมริกา เป็นจำนวน “หลักพัน” จากทั้งหมด 3 แสนกว่าคนที่ศึกษาในอเมริกา ดังนั้น ไม่ใช่สัดส่วน 80% ที่โดนแบนและไล่กลับจีนแบบที่มีการแชร์ก่อนหน้านี้
.
โดยเหตุผลหลักของการแบนและจำกัดวีซ่าแก่คนจีน มาจากเหตุผล “ความมั่นคงและข้อขัดแย้งทางการเมือง” เน้นหนักไปที่การเกรงกลัวข้อมูลสำคัญหลุดไปยังรัฐบาลและทางกองทัพจีน ซึ่งสาขาการเรียนและการวิจัยที่โดนจับตามองเป็นพิเศษ ได้แก่ สาขาสาย STEM - วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์
.
อ้ายจงอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวทั้งจีน อเมริกา และประเทศอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเนื้อหา โดยใช้เป็นแหล่งข่าวภาษาอังกฤษ เพื่อทุกคนที่สนใจสามารถอ่านและตรวจเช็คข้อมูลได้ครับ
-https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3145877/high-price-chinese-students-pay-university-us-during-covid-19)
- https://news.cgtn.com/news/2020-05-30/U-S-bans-some-Chinese-students-from-entering-its-borders-QUoMxQGh4Q/index.html
- https://www.bbc.com/news/world-us-canada-54097437
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-09-10/u-s-revoked-over-1-000-chinese-visas-over-national-security
- https://www.theguardian.com/world/2020/sep/10/us-cancels-1000-china-student-visas-claiming-ties-to-military
- https://www.globaltimes.cn/page/202104/1222300.shtml
- https://www.globaltimes.cn/page/202105/1223713.shtml
- https://www.globaltimes.cn/page/202107/1228072.shtml
- https://global.chinadaily.com.cn/a/202008/13/WS5f3491d4a31083481725ffd7.html
- http://www.chinadaily.com.cn/a/202107/07/WS60e4dde8a310efa1bd6601c7_2.html
- https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/japan-to-tighten-checks-on-visa-applications-by-chinese-students-researchers-over
- https://www.cbc.ca/news/politics/china-canada-universities-research-waterloo-military-technology-1.5723846
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #จีน #อเมริกา #เรียนต่ออเมริกา #แบนวีซ่า
「waterloo street in chinese」的推薦目錄:
- 關於waterloo street in chinese 在 อ้ายจง Facebook 的最讚貼文
- 關於waterloo street in chinese 在 Eat with Pal Li - พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง Facebook 的最佳解答
- 關於waterloo street in chinese 在 謙預 Qianyu.sg Facebook 的最佳解答
- 關於waterloo street in chinese 在 Waterloo Street 四马路- Chinese New Year 2022 [4K] - YouTube 的評價
- 關於waterloo street in chinese 在 【4K】Singapore Waterloo Street Chinese New Year | Jan 2023 的評價
- 關於waterloo street in chinese 在 Waterloo Street, Singapore - Pinterest 的評價
- 關於waterloo street in chinese 在 Sin Chew Chinese Cultural Products - Facebook 的評價
waterloo street in chinese 在 Eat with Pal Li - พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง Facebook 的最佳解答
❗️ #โควิดฮ่องกงวันนี้ (30 มี.ค.)
ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด +7, ติดเชื้อในฮ่องกง +1
.
สถิติยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิมค่ะ 👍🏻
ขนาดติดเชื้อแค่คนเดียว บางวันไม่ติดเลย
แต่วันนี้ สธ ประกาศตรวจตามกฎหมายอีก 32 สถานที่
ส่วนใหญ่เพราะเจอเชื้อในน้ำทิ้ง (ไม่ได้เจอจากคน) 😅
ขยันขนาดนี้ คุมโควิดไม่อยู่ให้มันรู้ไป๊ 😆
.
#เคสต่างประเทศ (6 คน)
ยูเครน(2)
อินโดนีเซีย(1)
ตุรกี(1)
ฟิลิปปินส์(1)
ปากีสถาน(1)
.
#เคสในฮ่องกง 1 คน (เกี่ยวโยงกับเคสเก่า)
หญิงอายุ 44 ปี ไม่มีอาการ ถูกส่งตัวมาจากศูนย์กักตัว
.
อื่นๆ
- ยังไม่มีข้อมูลผู้รักษาหายและผู้เสียชีวิต
- สถานที่ที่ถูกบังคับตรวจ (ส่วนใหญ่เจอเชื้อจากน้ำทิ้งจากตึก)
1. Cherry Crest, 3 Kui In Fong, Sheung Wan
2. 1 U Lam Terrace, Sheung Wan
3. 2 U Lam Terrace, Sheung Wan
4. 3 U Lam Terrace, Sheung Wan
5. U Lam Court, 5 U Lam Terrace, Sheung Wan
6. Tai Cheong House, 2-4 Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
7. 5-5A Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
8. Po Wan Building, 6 Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
9. 7 Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
10. 8, 8A & 10 Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
11. 12 Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
12. Tai On Building, 14 Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
13. 16-16A Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
14. Tai Ning House, 18-18B Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
15. Tai Yue Building, 20-20A Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
16. Tai Ping Building, 22, 22A, 24 & 24A Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
17. Tai Hong Building, 26-30 Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
18. Tai Shan House, 32 & 34 Tai Ping Shan Street / 15 Upper Station Street,
Sheung Wan
19. View Villa, 38 Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
20. 4 Pound Lane, Sheung Wan
21. Ming Fat House, 6 Pound Lane & 9 Tai Ping Shan Street, Sheung Wan
22. 192-192A Hollywood Road, Sheung Wan
23. 194-196 Hollywood Road, Sheung Wan
24. 3 Upper Station Street, Sheung Wan
25. 5 Upper Station Street, Sheung Wan
26. 7-9 Upper Station Street, Sheung Wan
27. 11 Upper Station Street, Sheung Wan
28. Lui Ming Choi Centre, Ho Sin Hang Campus, Hong Kong Baptist University, 224 Waterloo Road, Kowloon Tong
29. Communication and Visual Arts Building, Baptist University Road
Campus, Hong Kong Baptist University, 5 Hereford Road, Kowloon Tong
30. Academic and Administration Building, Baptist University Road Campus,
Hong Kong Baptist University, 15 Baptist University Road, Kowloon Tong
31. Christian & Missionary Alliance Plover Cove Nursery School, Shop 106,
Level 1, Plover Cove Garden, 3 Plover Cove Road, Tai Po
32. Mink Anglo-Chinese Kindergarten, Level 1, Sun Hing Garden, 2 On Po Lane, Tai Po
.
=================
#สถิติฉีดวัคซีนโควิดในฮ่องกง
.
- วันที่ 29 มีค
Sinovac (เข็มแรก) ~ 6,600 คน
SinoVac (เข็มที่ 2) ~ 6,000 คน
BioNTech ~ ระงับการฉีดทั้งหมด
.
- รวมทั้งโครงการ (32 วัน)
Sinovac (เข็มแรก) ~ 299,200 คน
BioNTech (เข็มแรก) ~ 151,300 คน
SinoVac (เข็มที่ 2) ~ 24,600 คน
รวม (เข็มแรก) ~ 450,500 คน
รวม (เข็มที่ 2) ~ 24,600 คน
.
- ผู้ได้รับวัคซีนและต่อมาเสียชีวิต (13 คน)
SinoVac 11 คน
BioNTech 2 คน
.
- อัตราผู้มีอาการรุนแรงหลังได้รับวัคซีน = 0.076%
Sinovac = 0.075%
BioNTech = 0.166%
(หมายเหตุ: ตัวเลข ณ วันที่ 7 มีค)
.
- ผู้เข้ารับการรักษาใน รพ หลังจากได้รับวัคซีน (29 มีค)
จำนวน 1 คน, ชายวัย 49 ปี ฉีด SinoVac เข็มแรก
อาการ: วิงเวียน อาการดีขึ้นเมื่อไปถึง รพ โดยไม่ได้พบแพทย์
.
================
#สถิติผู้ติดเชื้อโควิด
.
#ฮ่องกง
ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 11,462 (+7)
เสียชีวิต 205 (1.79%) - ตัวเลขเมื่อวาน
รักษาหาย 11,075 (96.68%) - ตัวเลขเมื่อวาน
.
#ไทย
ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 28,821 (+48)
เสียชีวิต 94 (0.33%)
รักษาหาย 27,379 (95.00%)
.
#ทั่วโลก
ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 128,281,535 (+421,887)
เสียชีวิต 2,805,338 (2.19%)
รักษาหาย 103,515,671 (80.36%)
.
#eatlike852 #covid19hongkong
waterloo street in chinese 在 謙預 Qianyu.sg Facebook 的最佳解答
【謝謝你,但我的命我自己來】(English writing below)
「你明明很早就可以被男人養,為什麼不要?」
「每個人都應該爲自己的人生長本事。我想做的,是出於污泥而不染的大蓮花,沒想做溫室裡的小花。」
我家族裡的女性,幾乎清一色都是女兒當自強。我姑婆78歲,一個人住,沒嫁人沒孩子。外公娶妻時,就帶著年幼的她一起住。外公過世二十多年,外婆(也就是她的大嫂)還在世時,姑婆到了六十幾歲,都還給我外婆一些家用。
她不過是個打雜工的婦女。給外婆的家用,全靠自己努力工作賺取的。
姑婆沒讀過什麼書,而我是一個大學生,怎麼可以遜色於姑婆呢?
小時候,因為家裡欠債累累,三天兩頭就有債主「奪命追魂」的打家裡電話或「登門造訪」追債,而我一個小女孩,就經常被推出去應付這些凶神惡煞的陌生大人。理由是,他們看到小孩,口氣會軟化些,可以再拖延幾天。
當時我真的很怕,但,不出去,就會被罵被打。長那麽大了,有時會莫名其妙的害怕,幸得佛法的熏陶,以那種前面有虎,後面有熊的恐懼感,磨練出我內在『破釜沈舟』的堅韌精神。
要就不做,要做,我就絕不手軟。這樣才有意思。
這種被「嚇大」的童年,讓我很小便許下承諾,以後絕不讓任何人或東西威脅到我。
我知道很多女人都有想在家不做工的夢想。我的八字也確實有這種命,三十歲過後可以不做工,靠男人養。
但像我這般出色的人才,如果不出來貢獻於人類,而選擇那條路,豈不是太對不起祖宗十八代的強大基因,和師尊師父的教誨嗎?
出道以來,我的玄學功夫幫了不少人,我的文章也引不少很多人深思長智慧。
我這十多年練出來的功夫,去哪裡都吃得開。現在的環境風水越來越差,人的問題只會越來越多,只要有真功夫,我的行業只會越老越吃香。師父常開玩笑說,以後老了,如果沒生意,還可以到四馬路觀音廟前擺攤問事,過過日子。😄
萬一還有來世,我的潛意識起碼還會帶著這種不屈不饒的精神投胎。
如果一心想靠一個男人上位,沒有自己獨立的能力,他變心了,我怎麼辦?
以前母親也有很多男人想包她,但她也為了我們這些孩子,而一一拒絕。靠自己的本事,也把我拉到這麼大。
我媽還說,一個男人如果不要給妳名份,就別浪老娘的青春。
大人的身教,永遠都勝過於言教。
大人有怎樣的命運,孩子也必有類似的命運。
我,不想苟且偷生。現在我想賺錢,就賺錢,想寫文章和大家聊天,就寫文章,又可以繼續進修玄學,學佛修法,開發自己的佛慧。
這對我來說,是自己奮鬥很多年而得到的自由。我想要我孩子學的,就是這樣的精神。
錢,花自己心安理得賺來的,最過癮。如果是不道德不合法交易換來的錢,花的人,無論是我還是我家人,都得負上因果。
我這文章不是在貶低選擇被男人養的女性。每個人的初發心不一樣。我祇是想喚醒妳們走回原本清靜無瑕的尊貴人生。我的女客人當中,選擇這條路的,錢雖來得快,但都沒有幸福的下場。
沒有人,會比我更在意更努力的,創造我的理想人生。
若我沒這本事,我願意虛心學習。我也很慶幸,此生有兩位很厲害的大導師。
我的命,我自己來。
如果連自己的命都改不了,我有何本事收人家的紅包,爲他人改命補運呢?
.....................
"You could have chosen to be kept by a man early in your life. Why did you not?"
"Everyone should grow abilities for their own lives. What I wish to be is a big lotus that blooms out of the slushy mud, pure and untainted. Not a little flower that is incubated in a greenhouse."
I come from a family, where almost all the women are strong and self-reliant. My 78-year-old grandaunt lives alone, never marry and has no kids. When my grandfather got married, he brought my young grandaunt to live with him. In the twenty over years he passed on, when my grandmother was still alive, grandaunt would still give a monthly allowance to my grandmother (her sister-in-law), despite being 60 over years old.
She is just a lady who works odd jobs. The monthly allowance she gave my grandmother is from her hard-earned money.
Grandaunt did not receive much of an education. I am a university graduate. How can my abilities be inferior to hers?
During my childhood, my family was laden with heavy debts. Every other day, there would be creditors incessantly calling the house phone or banging on the house door, asking for repayment. As a young girl, I often get pushed out to deal with these fierce-looking strangers. Reason being, when they saw a kid, they would often soften their tone of voice, and give a few more days for repayment.
I was frightened at that time. But if I didn't do what I was told, I would get scolded or beaten badly. Even after I grew up, there are times when I would get ridiculously afraid. I count myself lucky that the Buddhadharma has an uplifting influence on me. The terror of facing a bear in front of me, and having a tiger chasing behind gradually moulded my tenacity.
Either I don't do it, or when I do, I will burn my boats so that it's either success or nothing.
A childhood where I was constantly frightened had me promising myself this: I will never let anyone or anything threaten me.
My Bazi did indeed indicate that I can opt not to work and rely on the financial support from a man.
But for an outstanding talent like me, if I do not come out to contribute to mankind and choose an easier way out, wouldn't I be letting down the great genes of my ancestors of the past 18 generations, and the teachings from my Grandmaster and Shifu?
Ever since I started out, my work had benefitted a lot of people and my writings had helped grow the wisdom of many readers.
The skills that I hone in the past 10 over years give me freedom to earn money wherever I am. With the environmental Feng Shui worsening, the problems of mankind will only snowball and multiply. As long as I have the real skills, my line of work will only get more valuable as I age. Shifu often jokes that, if I have no business when I am old, I can still consider setting up a fortune-telling stall in front of the Guan Yin Temple at Waterloo Street, to pass time. 😄
Should I have to go through another reincarnation, at the very least, there will be this seed of unflinching courage and perseverance planted in my subconscious. Because I made the effort to.
If I opt to rely fully on a man, and have no independent ability of my own, what will happen to me when he has a change of heart?
My mum also had many offers from men, who wanted to make a mistress out of her. But for the sake of us, the children, she rejected all of them. Through her own perseverance and efforts, she still managed to raise me.
She also said if a man is unwilling to give you a legal status, don't waste your youth on him.
The adults' teaching by example will always carry more weight than what they preach.
The kind of Destiny the adults have will also be similar to the kind of Destiny their children will have.
The me right now does not have to live an ignoble existence nor live my life according to the mood of a man. When I wish to make money, I go make money. When I feel like writing to talk with all of you, I write. In my spare time, I continue honing my skills in Buddhadharma and Chinese Metaphysics, and develop my wisdom.
To me, this is the freedom that I had fought for many years. Such is the spirit that I wish for my children to learn.
Spending money is most satisfying, when this money is earned with a peace of mind. If the money is obtained through illegal/immoral ways, there will always be karmic consequences to bear, be it the spender is me or my family.
This article isn't written to look down on other women, who choose to be kept by a man. Everyone has a different motivation in life. I only wish to awaken you, to continue treading on your original pure and pristine path in life. Among my women clients, those, who chose this easy route to money, do not have a happy ending.
For me, I just think that no other person will be more bothered and diligent than me, in creating the Destiny I covet.
If I do not have the ability, I am willing to learn humbly from the right teachers, and I am very fortunate to have two great ones in my life.
I will formulate my own Destiny.
If I can't even transform my own Destiny, what right do I have to receive the red packets from others, to help them with their fortune and luck?
waterloo street in chinese 在 【4K】Singapore Waterloo Street Chinese New Year | Jan 2023 的推薦與評價
Singapore | Waterloo StreetDate: Jan 2022Nearest Station: Rochor MRT I love ... 【4K】Singapore Waterloo Street Chinese New Year | Jan 2023. ... <看更多>
waterloo street in chinese 在 Waterloo Street, Singapore - Pinterest 的推薦與評價
Feb 19, 2018 - Chinese New Year in Singapore is always a dazzling spectacle of lights, yummy food, and auspicious red and gold. This article explores the ... ... <看更多>
waterloo street in chinese 在 Waterloo Street 四马路- Chinese New Year 2022 [4K] - YouTube 的推薦與評價
Waterloo Street is also known as 'Si Beh Lor' in Hokkien, 'Si Ma Lu' in Mandarin or '4th Street' in English. This area is especially popular ... ... <看更多>