Assassin’s Creed Valhalla Review
"เดินหน้าฆ่ามันอย่างสะใจ จนลืมไปว่าลอบเร้นได้ ในโลกของไวกิ้ง ที่เนื้อเรื่องย่อยง่ายสบายหัว"
.
Assassin’s Creed Valhalla เป็นภาคต่อเนื่องมาจากภาค Odyssey เมื่อ Layla ได้เบาะแสบางอย่างที่นำพาให้เธอมาพบกับสถานที่ฝังศพของ Eivor นักรบชาวนอร์สแห่ง Raven Clan ซึ่งการเข้าถึงความทรงจำของ “เขา” หรือ “เธอ” คนนี้จะนำพาไปสู่เบาะแสการตามหา Artifact ชิ้นต่อไป (สาเหตุที่ต้องเรียกว่าเขาหรือเธอ เพราะในเนื้อเรื่องศพของ Eivor มีอายุเก่าแก่มากจนไม่อาจระบุ DNA ได้ว่าเป็นเพศอะไร ดังนั้น ผู้เล่นจึงสามารถเล่นสลับเพศไปๆ มาๆ ได้ คือเล่นเป็นชายเบื่อแล้ว อยากเล่นเป็นหญิงก็สลับได้เลย ซึ่งต่างจากภาค Odyssey ที่เลือกเพศไหนแล้วต้องเล่นแต่เพศนั้นไปจนจบเกม)
.
ส่วนเรื่องราวของ Eivor สมาชิกกองโจรไวกิ้งแห่ง Raven Clan ของนอร์เวย์ที่ในวัยเด็ก พ่อของเขา (หรือเธอ) ถูกสังหาร และถูกตราหน้าว่าเป็นคนขลาด นั่นทำให้ Eivor มุ่งเป้าที่จะแก้แค้น แต่หลังจากที่ทำสำเร็จ กลับกลายเป็นว่า เกิดเรื่องราวพลิกผันที่ทำให้ Eivor และ Sigurd พี่ชายร่วมสาบาน ตัดสินใจออกจากนอร์เวย์ และไปตั้งรกรากใหม่ยังประเทศอังกฤษ และต้องเข้าไปพัวพันระหว่างความขัดแย้งของ Brotherhood of Assassins และ Templar Order อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
ทั้ง Origins และ Odyssey ซึ่งเป็น 2 ภาคที่ผ่านมา Assassin’s Creed ได้พลิกรูปแบบกลายเป็นเกมเก็บเลเวลสไตล์แอ็คชัน RPG ทำให้การฆ่าศัตรูไม่ได้ทำได้ง่ายดาย ต้องเลเวลขั้นต่ำเพียงพอถึงจะพอสู้ได้อย่างสูสี ซึ่ง Valhalla ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ ตัวเกมไม่ได้ให้ความสำคัญที่เลขเลเวลอีกแล้ว แต่ให้ความสำคัญกับ Power Rating ของชุดเกราะ อาวุธ และทักษะตัวละครที่จะได้มาอย่างน้อย 2 แต้มในทุกครั้งที่อัป XP ถึงระดับ ทำให้ตัวละครเก่งเร็วขึ้น และไม่ต้องมาฟาร์ม Side Quest น่าเบื่อเหมือนตอนเล่นภาค Origins ที่กว่าเลเวลจะถึงระดับเพียงพอ ใจก็ชักอยากเลิกเล่นแล้ว จากที่ได้ทดลองสู้กับศัตรูระดับ Deadly หรือติดกะโหลกแดง ในระดับ Power Rating ต่ำ ก็พอจะสู้ไหวแต่ต้องกะจังหวะการหลบหลีกและปัดป้องให้ดี นั่นจึงเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ภาคนี้ไม่ได้ยึดติดกับเลเวลอีกต่อไปแล้ว
.
ระบบการต่อสู้ คงเป็นสิ่งที่ได้รับการพัฒนาอย่างถึงที่สุดในตอนนี้ของ Assassin's Creed ที่ใน Valhalla ท่วงท่าการเคลื่อนไหวต่างๆ ในการต่อสู้ได้รับการยกเครื่องใหม่ให้ดีขึ้นอย่างมาก ทุกการโจมตีจะรู้สึกถึงพลังในการฟัน ป้องกัน ปัดป้อง ผนวกกับเสียงประกอบอันสะใจ และการโจมตีที่ทำให้แขนหรือหัวศัตรูขาดกระเด็นเลือดสาดเต็มสนามรบ ทำให้ในแง่หนึ่งคุณอาจจะไม่อยากที่จะลอบเร้น และอยากที่จะควงขวานสองมือ พุ่งเข้าไปสังหารฝ่ายตรงข้ามให้สิ้นซากมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่ระบบการต่อสู้ในภาคนี้ มีระบบ Stamina ด้วย กล่าวคือ ในทุกการกระทำที่เกี่ยวกับการโจมตีแบบรุนแรง และหลบหลีกศัตรู จะทำให้เกจ Stamina ลดลง และถ้ามันหมด คุณจะทำอะไรไม่ได้อีกต่อไป ต้องรอให้มันฟื้นคืนมาก่อน ทำให้คุณจะต้องวางแผนในการเข้าโจมตีและหลบหลีกด้วย และการเดินดุ่มๆ เข้าไปฟันมันอย่างเดียว ก็อาจจะทำให้คุณเป็นเป้านิ่งถึงตายได้
.
ทักษะในภาคนี้มีมากกว่าสองภาคที่ผ่านมาเป็นหลายเท่าและอัปง่ายขึ้นกว่าเดิม ทำให้คุณสามารถปั้นตัวละครไปทางสายไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสายบู๊ประชิด สายยิงไกล หรือสายลอบสังหาร และที่ดียิ่งไปกว่านั้น หากคุณรู้สึกว่า อยากจะเปลี่ยนสาย หรือคิดว่าอัปมาผิดทาง ก็สามารถถอนแต้มคืนมากี่แต้มก็ได้ แล้วอัปใส่ทักษะอื่นได้ตามที่ต้องการโดยไม่ต้องเสียเวลาเล่นใหม่ และไม่เสียอะไรเลย (ในขณะที่ภาค Odyssey จะต้องเสียเงินในการรื้อแต้มทักษะด้วย) และยังมีความสามารถพิเศษที่จะได้จากการเก็บหนังสือตามแผนที่ต่างๆ ยิ่งทำให้ลูกเล่นในการต่อสู้มีมากขึ้นไปอีก
.
การลอบเร้น หรือลอบสังหารที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าแฟนๆ ว่า 2 ภาคหลัง มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ด้วยการที่ตัวเกมเปลี่ยนระบบมาเป็นการต่อสู้แบบเก็บเลเวลสไตล์ RPG ทำให้การลอบสังหารไม่สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามตายได้ในทีเดียว หากเลเวลต่างกันมาก ในภาคนี้ก็เลยมีตัวเลือกให้ปรับในหน้า Option ว่าเราอยากจะให้การลอบเร้นสังหารเป็นการโจมตีทีเดียวตายหรือไม่ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจดีสำหรับคนที่อยากได้ความรู้สึกของ Assassin's Creed ภาคเก่าๆ
.
และเมื่อผู้เล่นต้องรับบทเป็นไวกิ้ง ความสนุกที่จะได้พบเจอนั่นก็คือ การ Raid หรือบุกปล้นชิงฐานศัตรู ขโมยทรัพยากรของพวกมันเพื่อนำมาใช้อัปเกรดตัวละคร รวมถึงการขยายหมู่บ้านของเราให้มีความเจริญมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการจำลองชีวิตแบบไวกิ้งได้ถึงอารมณ์อย่างยิ่ง และมันสำคัญอย่างมาก ถ้าคุณอยากจะอัปเกรดชุดกับอาวุธให้แข็งแกร่งขึ้น คุณต้องมีโรงตีเหล็ก ถ้าคุณอยากจะปลดล็อกภารกิจล่าค่าหัว คุณจำเป็นต้องมีซุ้มนักล่า และอื่นๆ ยิ่งเลเวลเมืองยิ่งสูงขึ้น ก็จะส่งผลต่อชื่อเสียงตัวละคร ทรัพยากร และเนื้อเรื่องเสริมอีกด้วย
.
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทางเรารู้สึกประทับใจที่สุด ในสิ่งที่เคยรู้สึกว่าน่าเบื่อที่สุดใน Assassin's Creed ก็คือ การปีนขึ้นที่สูงเพื่อเปิดแผนที่และจุด Fast Travel ที่ใน Valhalla มันคือการปีนยอดเขาที่สูงเสียดฟ้าจริงๆ และด้วยระบบการเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น ลื่นไหลขึ้น และความรู้สึกว่าได้ออกสำรวจมากกว่า ก็เลยทำให้รู้สึกว่า การเปิดแผนที่มันกลับมาสนุกอีกครั้ง
.
ในโลกกว้างของ Valhalla มีสิ่งที่เรียกว่า World Event หรือเรียกง่ายๆ ว่า เป็นเควสย่อย นั่นแหละ แต่เดิมเควสย่อยใน Assassin's Creed จะบอกเป้าหมายของเควสนั้นๆ ว่าเราต้องทำอะไร ต้องเอาอะไรไปให้ใคร แต่สำหรับ World Event ใน Valhalla ตัวละคร NPC จะบอกแต่เพียงว่า เขาต้องการอะไร แต่ที่เหลือต้องเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องไปหาวิธีเอาเองว่า แล้วเราจะทำให้เขาได้อย่างไร ที่มีทั้งยากและง่ายปนกันไป ซึ่งก็ถือว่าเป็นสีสันหนึ่งของภาคนี้ที่ทำให้เราต้องออกสำรวจมากขึ้น ไม่ได้ชี้เป้าให้เราทำแบบง่ายๆ อีกแล้ว (และนั่นก็ทำให้ภาคนี้อาจจะต้องใช้ความสามารถภาษาอังกฤษมากขึ้นนิดนึงด้วย)
.
นอกจากการสำรวจโลกกว้างแล้ว ตัวเกมยังมีมินิเกมให้ผู้เล่นได้ผ่อนคลาย หรือเปลี่ยนบรรยากาศจากการทำภารกิจต่างๆ อาทิ การเสาะหาเซียนเกมทอยเต๋า Orlog ก็เป็นอีกกิจกรรมเล็กๆ ที่ผู้เล่นทำได้ตามเมืองต่างๆ ซึ่งระบบและกฎกติกาคล้ายเอา Dice Masters กับ Battle Spirit มาปรับรวมกัน แม้ว่าที่ลองเล่นมาก็ถือว่าสนุกดี แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำติดงอมแงมได้แบบ Gwent ใน Witcher 3 เหมือนเป็นมินิเกม ทำมาเล่นๆ ขำๆ ฆ่าเวลาซะมากกว่า ถ้าตัวเกมมันเล่นอะไรมากกว่านี้ได้ เช่น มีเควสค้นหาเต๋าชุดใหม่ ก็จะทำให้ Orlog ดูเป็นเกมที่น่าเสียเวลามาเป็นยอดนักทอยเต๋าอยู่หรอก กับมินิเกมแข่งซดเหล้าอันนี้ก็เล่นไม่ยาก แค่กดตามจังหวะให้ดื่มเหล้าหมด 3 แก้วก่อนฝ่ายตรงข้าม
.
ส่วนกราฟิกในเกมมีการพัฒนาเพิ่มเติมจาก Odyssey การเคลื่อนไหวมีความลื่นไหลและสมจริงมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม จากที่ได้ทดลองเล่นมากว่า 10 ชั่วโมง ก็พบว่ามันมีหลายฉากที่เฟรมเรตตกจนน่าตกใจ โดยเฉพาะช่วงที่เป็น Cinematic ฉากสำคัญๆ แม้ Gaming Notebook ที่ใช้ทดสอบจะสเปค Ryzen 7 GTX 1060 Ram 16 GB SSD 1 TB ซึ่งเล่นเกมในปัจจุบันด้วยกราฟิกระดับ High ได้ไม่มีปัญหา แต่กับ Valhalla กลับมีปัญหาในจุดนี้ แม้จะปรับเป็น Low ก็ตาม
.
และเมื่อทางเราใช้เป็น i7-9750H RAM 32 GB RTX 2070 SSD 1 TB ปัญหานี้ก็ลดน้อยลงไป ที่อาจจะยังมีเฟรมเรตตกบ้างในบางฉาก แต่ก็ไม่ได้เป็นหนัก นั่นแปลว่า Valhalla มันเป็นเกมที่กินสเปคเอาเรื่อง และมากกว่า Odyssey อย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว ผู้ที่คิดที่จะเล่นอาจจะต้องตรวจสอบสเปค PC ของตัวเองดีๆ ก่อนดีกว่า (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Patch Day 1 ของทาง Ubisoft ก็น่าจะมีการแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ด้วย)
.
โดยภาพรวมแล้ว Assassin’s Creed Valhalla นับได้ว่าเป็นภาคที่มีความคุ้มค่าต่อเวลาในการเล่นเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบในประวัติศาสตร์ยุคกลาง โดยเฉพาะช่วงเหตุการณ์ไวกิ้งบุกอังกฤษแล้ว คุณจะยิ่งหลงใหลจนเวลาหมดไปกับการดำดิ่งในโลกไวกิ้งในเกมนี้อย่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว เพราะโลกในเกมนี้มันมีอะไรให้น่าค้นหาเยอะมาก ด้วยกิจกรรมไล่ปล้นสะดม ล่าฆ่าหัว ทอยเต๋า Orlog แข่งปะทะคารม Flyting (เป็นแข่ง Rap Battle ในยุคกลาง) และที่สำคัญ ได้ฟัดพุงแมวตัวใหญ่เท่าลูกหมูอีกด้วย และ Assassin’s Creed Valhalla ก็คงเป็นอีก 1 เกมที่เรามีความเห็นว่า "คุ้ม" หากคุณจะซื้อเกมนี้ราคาเต็มเพื่อเล่นในวันแรกที่เกมวางจำหน่าย
.
Assassin's Creed Valhalla มีกำหนดวางจำหน่ายบน PS4, XB1, XBSX|S, PC ในวันที่ 10 พ.ย. และ PS5 ในวันที่ 12 พ.ย.
.
อนึ่ง ขอขอบคุณ Ubisoft ที่ส่งคีย์รีวิวให้ทางเราได้เล่นทดสอบก่อนที่เกมจะวางจำหน่าย มา ณ ที่นี้ด้วย
-------------------------------
แค่เติมเงินก็ได้ Steam Wallet แล้ว >> GetSteamWallet.com
-------------------------------
Humble Choice ประจำเดือน พ.ย. จ่าย $12 รับสตีมคีย์ Darksiders III, Yakuza Kiwami 2, Darksburg, Little Misfortune และอื่นๆ ดูที่นี่ - http://bit.ly/2KA2c0c
xp power 在 XP Power - 首頁 的推薦與評價
The XP Power Medical Power Supplies Guide identifies products specifically developed for the healthcare sector, from low voltage, board level DC-DC ... ... <看更多>